Home | CCTV | PPibox | Dynasat | PSI | GMM Z | SunBox | IPM | CTH | DTV | true | KU | เสาทีวี | IPTV | Multisat | C-BAND | เว็ปบอร์ด | เพิ่มจุด |
ทีวีดิจิตอล , ดิจิตอลทีวี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โทรทัศน์ระบบดิจิทัล Advanced Television System Committee (ATSC) ใช้ eight-level vestigial sideband (8VSB) ถูกพัฒนาใน 6 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา, คานาดา, เม็กซิโก, เกาหลีใต้, สาธารณรัฐโดมินิกันและฮอนดูรัส Advanced Television System Committee (ATSC) ใช้ eight-level vestigial sideband (8VSB) ถูกพัฒนาใน 6 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา, คานาดา, เม็กซิโก, เกาหลีใต้, สาธารณรัฐโดมินิกันและฮอนดูรัส การมีปฏิสัมพันธ์[แก้]มนุษย์สามารถโต้ตอบกับระบบ DTV ในรูปแบบต่างๆได้ เช่นการเรียกดูคำแนะนำโปรแกรมแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ DTV ที่ทันสมัยบางครั้งใช้เส้นทางกลับที่ฟีดแบ็คจากผู้ใช้ไปยังผู้ประกอบการ งานนี้เป็นไปได้ด้วยสายโคแอคหรือใยแก้วนำแสง โมเด็มโทรเข้าหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่เป็นไปไม่ได้ด้วยเสาอากาศมาตรฐาน บางส่วนของระบบเหล่านี้สนับสนุนวิดีโอออนดีมานด์ที่ใช้ช่องทางในการติดต่อสื่อสารท้องถิ่นที่ไปยังพื้นที่ใกล้เคียงมากกว่าไปยังเมืองใหญ่ (ทางภาคพื้นดิน) หรือพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ (ทางดาวเทียม) กระจายเสียง 1 เซ็กเมนท์[แก้]1 seg (1 ส่วน) เป็นรูปแบบพิเศษของ en:Integrated Services Digital Broadcasting หรือ ISDB แต่ละช่องจะถูกแบ่งออกเป็น 13 เซ็กเมนท์ - 12 เซ็กเมนท์ของมันจะถูกจัดสรรสำหรับ HDTV และส่วนที่เหลือ เซ็กเมนท์ที่ 13 จะถูกนำมาใช้สำหรับการรับ narrowband เช่นโทรทัศน์มือถือหรือโทรศัพท์มือถือ ข้อจำกัดทางด้านเทคนิค[แก้]การบีบอัด ภาพหลอน และ แบนด์วิดธ์ที่ถูกจัดสรร[แก้]ภาพ DTV มีข้อบกพร่องบางอย่างที่ไม่พบบนจอโทรทัศน์แบบแอนะล็อกหรือภาพยนตร์ เคลื่อนไหว เนื่องจากข้อจำกัดในปัจจุบันของแบนด์วิดธ์ และขั้นตอนวิธีการบีบอัดเช่น MPEG -2 ข้อบกพร่องนี้บางครั้งจะถูกเรียกว่า"เสียงยุง"[7] เนื่องจากการทำงานของระบบการมองเห็นของมนุษย์ ข้อบกพร่องต่างๆในภาพที่ได้รับการ แปลเป็นแบบท้องถิ่นให้เป็นคุณสมบัติเฉพาะของภาพหรือข้อบกพร่องที่ไปๆมาๆจะสามารถรับรู้ได้มากกว่าข้อบกพร่องที่มีความสม่ำเสมอและคงที่ อย่างไรก็ตามระบบ DTV ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อจำกัดอื่นๆของระบบการมองเห็นของมนุษย์ที่จะช่วย ปกปิดข้อบกพร่องเหล่านี้ เช่นโดยการยอมให้มีการบีบอัดภาพหลอนมากขึ้นในช่วงระหว่าง การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วที่ตาไม่สามารถติดตามและแก้ไขปัญหาได้อย่างง่ายดาย และ ในทางกลับกัน การลดภาพหลอนในภาพแบ๊กกราวด์นิ่งที่อาจมองเห็นได้ถ้าดูอย่างใกล้ชิด ในฉาก(ถ้าให้เวลานานพอ) ผลกระทบจากการรับสัญญาณที่ไม่ดี[แก้]การเปลี่ยนแปลงต่างๆในการรับสัญญาณจากปัจจัยต่างๆเช่นการเชื่อมต่อเสาอากาศที่ลดประสิทธิภาพลงหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอาจจะค่อยๆลดคุณภาพของทีวีอนาล็อก ธรรมชาติของดิจิตอลทีวีมีผลในวิดีโอที่สามารถถอดรหัสได้อย่างสมบูรณ์แบบในขั้นต้น จนกระทั่งอุปกรณ์รับสัญญาณเริ่มเก็บค่าสัญญาณรบกวนที่แรงเหนือสัญญาณที่ต้องการ หรือถ้า สัญญาณอ่อนเกินไปที่จะถอดรหัสได้ อุปกรณ์บางอย่างจะแสดงภาพขยะที่มีความเสียหาย อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่อุปกรณ์อื่นๆอาจจะเปลี่ยนไปโดยตรงจากวิดีโอที่อ่านได้อย่างสมบูรณ์แบบไปเป็นรับวิดีโอไม่ได้เลยหรือล็อกไปเลย ปรากฏการณ์นี้เป็นที่รู้จักกันว่า เป็นผล กระทบหน้าผาดิจิตอล สำหรับสถานที่ห่างไกล ถ้าเป็นสัญญาณอนาล็อกที่ก่อนเคยใช้ได้โดยจะเต็มไปด้วยหิมะและภาพที่คุณภาพเสื่อมโทรม แตเมื่อเป็นสัญญาณดิจิตอลอาจจะถอดรหัสได้อย่างสมบูรณ์ หรือ อาจกลายเป็นไม่สามารถใช้งานได้อย่างสิ้นเชิง การใช้ความถี่ที่สูงขึ้นจะเพิ่มปัญหาเหล่านี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่ไม่อยู่ในระยะสายตาที่จะเห็นได้โดยชัดเจนระหว่างเสาอากาศและตัวส่งสัญญาณ พรมแดนใหม่ในโลก[แก้]จนกระทั่งมีการแปลงให้เป็นโทรทัศน์ดิจิตอล มาตรฐานทั่วไปได้ถูกแบ่งออกเป็นสามอย่างหลักที่แตกต่างกัน ได้แก่ PAL, NTSC และ SECAM และโดยทั่วไปมีข้อยกเว้นบางอย่างที่ หลายประเทศในอดีตสหภาพโซเวียตได้ย้ายไปจาก SECAM ไปเป็น PAL อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกแผนของการปิดอนาล็อกทีวีจะถูกกระทำ จำนวนของเครื่องรับที่ต้องการ (ก่อนเคยเป็นทางเลือกราคาถูก) จะแตกต่างกันมากขึ้น (จะแพงขึ้น ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่เดินทางรอบโลก ตัวอย่างที่ดีสามารถเป็นแล็ปท็อปที่มีทีวีรับสัญญาณหรือการย้ายถิ่นฐานของชาวต่างชาติ การเปรียบเทียบระหว่างแอนะล็อกกับดิจิทัล[แก้]DTV มีข้อดีเหนือกว่าทีวีอนาล็อกอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่ก็คือช่องทางดิจิตอลที่ใช้แบนด์วิดธ์น้อยกว่าและความต้องการแบนด์วิดธ์แปรเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ที่สอดคล้องกับการลด คุณภาพของภาพอันขึ้นอยู่กับระดับของการบีบอัดรวมทั้งความละเอียดของภาพที่ส่ง ซึ่งหมายความว่า ผู้แพร่ภาพดิจิตอลสามารถให้บริการช่องทางดิจิตอลมากขึ้นในพื้นที่เดียวกัน, จัดให้บริการโทรทัศน์ความละเอียดสูง หรือให้บริการอื่นๆที่ไม่ใช่โทรทัศน์ เช่นมัลติมีเดียหรือ การโต้ตอบกัน DTV ยังอนุญาตให้มีบริการพิเศษต่างๆ เช่น มัลติเพล็กซิ่ง (มากกว่าหนึ่งโปรแกรมในช่องเดียวกัน), แนะนำโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ และภาษาเพิ่มเติม (พูดหรือคำบรรยาย) การขายบริการที่ไม่ใช่โทรทัศน์อาจเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติม สัญญาณดิจิตอลและอนาล็อกตอบสนองต่อการรบกวนแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ปัญหาทั่วไปของโทรทัศน์อนาล็อกได้แก่ เงาของภาพ เสียงรบกวนเนื่องจากสัญญาณอ่อน และอีกหลายปัญหาอื่นๆที่อาจทำให้ลดคุณภาพของภาพและเสียง แม้ว่าเนื้อหาของโปรแกรมอาจจะยังสามารถรับชมได้ สำหรับโทรทัศน์ดิจิตอล, เสียงและภาพวิดีโอจะต้องเข้าจังหวะตรงกันพอดีแบบดิจิทัลเพื่อให้การรับสัญญาณดิจิตอลจะต้องใกล้สมบูรณ์มากๆ มิฉะนั้นเสียงหรือ วิดีโอจะใช้งานไม่ได้ สั้นๆของความล้มเหลวอย่างสมบูรณ์นี้ก็คือ จะเกิดการภาพที่เต็มไปด้วย "บล็อก" เมื่อสัญญาณดิจิตอลประสบกับการรบกวน ทีวีอะนาล็อกเริ่มต้นด้วยเสียงทิศทางเดียวและต่อมาได้พัฒนาไปเป็นเสียงสเตริโอที่มีสองช่อง สัญญาณเสียงที่เป็นอิสระต่อกัน DTV จะทำให้ได้ถึง 5 ช่องสัญญาณเสียงบวกอีกหนึ่งช่อง เสียงเบสซับวูฟเฟอร์ ที่ออกอากาศด้วยคุณภาพที่คล้ายกับในโรงภาพยนตร์และดีวีดี[8] ผลที่มีต่อเทคโนโลยีแบบอนาล็อกที่มีอยู่[แก้]โทรทัศน์ที่มีเพียงภาครับหรือจูนเนอร์แบบอนาล็อกจะไม่สามารถถอดรหัสสัญญาณดิจิตอลได้ เมื่อการกระจายภาพอนาล็อกผ่านอากาศสิ้นสุดลง ผู้ใช้ของโทรทัศน์ที่มีแต่จูนเนอร์แบบ analog เท่านั้นอาจจะใช้แหล่งโปรแกรมอื่นๆ (เช่นสายเคเบิล, สื่อบันทึก) หรืออาจจะซื้อ กล่องแปลงที่ตั้งด้านบนเครื่องเพื่อรับสัญญาณดิจิตอลแล้วแปลงเป็นแอนะล็อก ในประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจะออกคูปองเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายของกล่องแปลงภายนอก ระบบ Analog ปิดตัวลงเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2006 ใน เนเธอร์แลนด์[9], 12 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ในสหรัฐอเมริกา[10], 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ในประเทศญี่ปุ่น[11], วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ในแคนาดา[12], 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ในรัฐ อาหรับ, 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ในเยอรมนี, 24 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ในสหราชอาณาจักร[13] และไอร์แลนด์[14], 31 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ในบางเมืองของอินเดีย[15], และ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ในประเทศออสเตรเลีย[16] กำหนดการปิดระบบแอนะล็อกเสร็จสมบูรณ์ใน 31 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สำหรับประเทศอินเดียทั้งหมด[17], ค.ศ. 2015 ในฟิลิปปินส์ และอุรุกวัย และ ค.ศ. 2017 ในคอสตาริกา การหายตัวไปของเครื่องรับเสียงจากโทรทัศน์[แก้]ก่อนที่จะมีการแปลงเป็นดิจิตอล ทีวีอนาล็อกออกอากาศเสียงสำหรับโทรทัศน์บนคลื่นความถี่เอฟเอ็มที่แยกต่างหากจากสัญญาณวิดีโอ สัญญาณเสียงเอฟเอ็มนี้สามารถรับฟังได้โดยใช้วิทยุมาตรฐานที่มีการติดตั้งวงจรจูนนิ่งที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามหลังจากที่การเปลี่ยนแปลงล่าสุดของหลายประเทศให้เป็นโทรทัศน์ดิจิตอล ไม่มีผู้ผลิตวิทยุแบบพกพาที่ยังพัฒนาวิธีการทางเลือกสำหรับวิทยุแบบพกพาในการเล่น เพียงแค่สัญญาณเสียงของช่องทีวีดิจิตอล (เสียง DTV ไม่ได้เป็นเช่นนั้น) ประเด็นสิ่งแวดล้อม[แก้]การพัฒนามาตรฐานของการออกอากาศที่เข้ากันไม่ได้กับเครื่องรับแบบอะนาล็อกที่มีอยู่ ได้สร้างปัญหาที่เครื่องรับอนาล็อกจำนวนมากกำลังถูกทุบทิ้งในช่วงการเปลี่ยนแปลงให้เป็นโทรทัศน์ดิจิตอล หนึ่งในผู้กำกับงานโยธาธิการได้กล่าวในปี 2009 ว่า "บางส่วนของการศึกษาที่ข้าพเจ้าได้อ่านในนิตยสารการค้าพูดถึง หนึ่งในสี่ของครัวเรือนอเมริกันกำลังจะขว้างทิ้งทีวีในอีกสองปีข้างหน้าเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ"[18] ในปี 2009 ประมาณ 99 ล้านเครื่องรับทีวีอนาล็อกถูกทิ้งไว้เฉยๆในบ้านในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว และในขณะที่บางเครื่องรับที่ล้าสมัยกำลังถูกดัดแปลง เครื่องอื่นๆอีกมากมายก็จะทิ้งในหลุมฝังกลบ เนื่องจากพวกมันเป็นตัวแทนของแหล่งที่มาของสารพิษโลหะเช่นตะกั่ว เช่นเดียวกับปริมาณที่น้อยกว่าของสารเช่น แบเรียม แคดเมียม และโครเมียม[19][20] จากข้อมูลของกลุ่มรณรงค์กลุ่มหนึ่ง จอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรทัศน์ CRT ตัวหนึ่งมีตะกั่ว เฉลี่ย 8 ปอนด์ (3.6 กิโลกรัม)[21] อ้างอิงจากแหล่งอื่น ตะกั่วในแก้ว CRTมีจำนวนตั้งแต่ 1.08 ถึง 11.28 ปอนด์, ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของหน้าจอ แต่สารตะกั่วจะอยู่ในรูปแบบของตะกั่ว ออกไซด์ที่ "เสถียรและไม่เคลื่อนที่" ผสมลงในแก้วที่ทำจอ[22] มีการอ้างว่าตะกั่วสามารถมีผลกระทบเชิงลบในระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม หากถูกทิ้งในที่ฝังกลบ[23] อย่างไรก็ตาม แก้วสามารถถูกนำกลับมาใช้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม[24] ส่วนอื่นๆของเครื่องรับอาจมีการกำจัดด้วยวิธีสำหรับวัสดุที่เป็นอันตรายด้วย ข้อกำหนดท้องถิ่นในการกำจัดวัสดุเหล่านี้แตกต่างกันไปอย่างกว้างขวาง ในบางกรณี ร้านค้า มือสองปฏิเสธที่จะรับเครื่องรับโทรทัศน์สีที่ใช้ได้เพื่อนำไปขายต่ออันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการกำจัดทีวีที่ขายไม่ออก ร้านค้าที่รัดกุมเรื่องค่าใช้จ่ายที่ยังคงรับบริจาคทีวีได้รายงานการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเครื่องรับใช้แล้วสภาพดีที่ถูกทอดทิ้งจากผู้ชมที่มักจะ คาดหวังว่าจะไม่ใช้พวกมันอีกหลังจากที่เปลี่ยนแปลงเป็นดิจิตอลแล้ว[25] ในรัฐมิชิแกน ปี 2009 หนึ่งในผู้รีไซเคิลคาดว่า มากถึงหนึ่งในสี่ของครัวเรือนจะโยนทิ้งหรือจะ รีไซเคิลทีวีในปีต่อไป[26] การเปลี่ยนเป็นโทรทัศน์ดิจิตอล, การโยกย้ายไปใช้เครื่องรับโทรทัศน์ความละเอียดสูงและการเปลี่ยน CRTs ให้เป็นแบบจอแบนเป็นปัจจัยในการเพิ่มจำนวนของ เครื่องรับโทรทัศน์อนาล็อกที่ใช้จอแบบ CRT ที่ถูกทิ้ง กลไกการทำงาน[แก้]เป็นระบบการรับส่งสัญญาณภาพและเสียงที่มีข้อมูลที่มีการเข้ารหัสเป็นดิจิตอล ทีมีค่า “0” กับ “1” เท่านั้น โดยมีกระบวนการต่าง ๆ ที่จะทำการแปลงสัญญาณภาพและเสียงให้เป็น ดิจิตอล มีการบีบอัดข้อมูล ทำการเข้ารหัสข้อมูล ก่อนที่จะทำการมอดูเลตข้อมูลดิจิทัลเหล่านี้เพื่อส่งผ่านตัวกลางไปสู่ผู้รับปลายทาง ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับโทรทัศน์ระบบอะนาล็อก เมื่อสัญญาณดิจิตอลถูกส่งมายังเครื่องรับโทรทัศน์ จะผ่านกระบวนการบีบอัดข้อมูลสัญญาณดิจิตอล โดย MPEG-2 หรือ MPEG-4 ทำการถอดรหัส หลังจากนั้นสัญญาณจะถูกส่งไปยังหลอดภาพ แล้วหลอดภาพจะยิงลำแสงออกไปยังหน้าจอโทรทัศน์ ทำให้เกิด Pixel (จุดภาพ) บนจอภาพ ซึ่งในระบบ HDTV นั้นจะให้ภาพที่มีความละเอียดของ Pixel สูงกว่าโทรทัศน์ทั่วไปมาก จึงทำให้ภาพที่ออกมามีความคมชัด ละเอียด และไม่มีการกระพริบของสัญญาณภาพ ลักษณะการยิงลำแสง แบ่งได้ 2 แบบ คือ Interlaced Scanning (ตัวย่อ i เป็นการสแกนลำแสงสลับเส้นคี่และคู่) และ Progressive Scanning[27](ตัวย่อ p เป็นการสแกนตามลำดับ 1,2,3,...) 480i/576i (SDTV) เป็นสัญญาณโทรทัศน์มาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นแบบดิจิทัล[28] คอมพิวเตอร์เข้ามาในโทรทัศน์ได้อย่างไร[แก้]ในระยะแรกคอมพิวเตอร์เข้ามาในวงการโทรทัศน์เพื่อมาช่วยในบริหารและการจัดการ เช่น คิดบัญชี ทำบัญชีสิ่งของ ทำบัญชีบุคลากร และการใช้เป็นเครื่องมือในสำนักงาน เป็นต้น ต่อมาก็ใช้ในการทำระบบอัตโนมัติในสำนักงาน ใช้ในการช่วยส่งข่าวบ้าง ใช้ในการบันทึกข้อความบ้าง ต่อมาเมื่อมีระบบกราฟิกเข้ามา ได้ใช้คอมพิวเตอร์ทำตัวอักษรและทำกราฟิคต่างๆ ตลอดจนช่วยในการทำภาพโฆษณาต่างๆ ตลอดจนช่วยในการทำภาพโฆษณา ภาพพิเศษต่างๆ ภาพที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นทำได้สวยงามวิจิตรพิสดารเป็นอย่างมาก เช่น ภาพนกกินหยดน้ำ นกที่ทำด้วยคอมพิวเตอร์สวยยิ่งนัก ทำให้เกิดภาพอื่นๆ ขึ้นมาอีกมากมายหลายแบบ จนกระทั่งทำให้ภาพนิ่งเคลื่อนไหวได้ (Animation) ตัวการ์ตูนตัวเดียว สามารถเคลื่อนไหวได้สารพัด ทำให้ สามารถสนองตอบจินตนาการของผู้สร้างภาพยนตร์การ์ตูน ได้เป็นอย่างดีทั้งนี้เพราะดิจิตอลสามารถเปลี่ยนแปลง และแปรผันได้ตามโปรแกรมที่จัดเข้ามา การบันทึกภาพในระบบอนาลอกนั้น เมื่อนำไปกระทำซ้ำต่อกันหลายครั้ง ภาพจะมีคุณภาพลดลง คือ ไม่ชัดเท่ากับต้นฉบับ แต่ในระบบดิจิตอลนั้นแม้จะนำไปกระทำซ้ำ ต่อเนื่องกันหลายสิบครั้งภาพก็ยังคงมีคุณภาพคงเดิม ด้วยข้อดีนี้จึงมีการนำเอาระบบดิจิตอล มาใช้ในเครื่องบันทึกภาพโทรทัศน์และเครื่องบันทึกภาพ แบบอื่นๆ ต่อมาได้มีการพัฒนากล้องโทรทัศน์ให้เป็นระบบดิจิตอลบ้าง การนำเอาดิจิตอลมาใช้กับกล้องโทรทัศน์นี้ มิใช่ว่าจะทำให้คมชัดอย่างเดียวเพราะกล้องที่คมชัดมากๆ ภาพจะไม่สวย เพราะจะเห็นสิวฝ้า ตลอดจนรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ชนิดที่เจ้าของหน้าเห็นเข้าอาจเป็นลมไปเลยก็ได้ แต่ดิจิตอลมีข้อดีตรงที่บังคับ และเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มอัตโนมัติ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยสิวและรอยเหี่ยวย่นก็จะกลายเป็นหน้าที่มีผิวสีชมพูระเรื่อ ผิวเนียนอย่างนางงามผิวเนียนอะไรอย่างนั้น แต่ก็จะเป็นเฉพาะบางกล้องเท่านั้น เพราะกล้องดิจิอตอลที่คุณภาพต่ำก็มี แตถ้าคุณภาพสูง ภาพจะสวยแต่ราคาก็จะแพงมากเช่นกัน เมื่อกล้องก็เป็นดิจิตอลแล้วอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องตัดต่อภาพ เครื่องลำดับภาพ เครื่องทำภาพพิเศษ เครื่องกำเนิดสัญญาณซิงค์ เครื่องกระจายสัญญาณและเครื่องควบคุมอื่นๆ ก็ได้รับการพัฒนาให้เป็นดิจิตอลไปด้วยรวมถึงทั้งอุปกรณ์ห้องส่ง หรืออุปกรณ์ห้องผลิตรายการทั้งหมด แม้แต่การบังคับไฟที่ให้แสงในการถ่ายทำก็บังคับด้วยดิจิตอล รวมความแล้ว่าระบบในห้องส่งโทรทัศน์ได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบเป็นดิจิตอลทั้งหมด สายที่ส่งสัญญาณเข้ามาก็ถูกเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอล แต่การส่ง สัญญาณ จากสถานีไปยังเครื่องรับโทรทัศน์ตามบ้านผู้ชมนั้นยังไม่ได้ ใช้ระบบดิจิตอล เพราะเครี่องรับโทรทัศน์ของผู้ชมยังเป็นอนาลอกอยู่ การที่จะเปลี่ยนเครื่องรับหลายพันล้านเครื่องให้เป็นระบบดิจิตอล โดยโยนเครื่องเก่าทิ้งหมดนั้นทำไม่ได้ เป็นการเดือดร้อนต่อประชาชนผู้รับชมแต่ความจำเป็นในการเปลี่ยนระบบก็ยังคงมีเพราะทุกวันนี้ความถี่วิทยุมีจำนวนจำกัด ส่วนสถานีวิทยุโทรทัศน์ตลอดจนการสื่อสารต่างๆ เกิดขึ้นทุกวันจึงมีความจำเป็นต้องใช้ความถี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นระบบดิจิตอลจึงสามารถตอบรับความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดีเพราะระบบดิจิตอลสามารถบีบอัดความกว้างของช่องสัญญาณให้ลดลง ทำให้สามารถเพิ่มช่องทางการส่งสัญญาณได้อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ดาวเทียม 1 ดวงมี ช่อง สัญญาณดาวเทียม 12 ช่องสัญญาณถ้าจะส่งโทรทัศน์ในระบบอนาลอกไม่มีการบีบอัดสัญญาณจะส่งได้ ทั้งหมด 24 ช่องโทรทัศน์ คือ 2 ช่องต่อ 1 ทรานสปอนเดอร์ แต่ถ้าส่งในระบบดิจิตอลและมีการบีบอัดสัญญาณ (Compression) จะสามาระส่งได้ถึง 10 ช่อง โทรทัศน์ต่อ 1 ทรานสปอนเดอร์ ดาวเทียมดวงหนึ่ง 12 ทรานสปอนเดอร์ จะส่งโทรทัศน์ได้ถึง 120 ช่อง สายเคเบิลก็เช่นเดียวกัน ถ้าส่งในระบบอนาลอกก็จะส่งได้น้อยช่องกว่าส่งด้วย ระบบดิจิตอลที่มีการบีบอัดสัญญาณ[แก้]การส่งโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลนั้นได้เริ่มต้นโดยการส่งสัญญาณผ่านทางดาวเทียมและโทรทัศน์ทางสาย หรือ เคเบิลเทเลวิชั่น (Cable Television) และเนื่องจากระบบดิจิตอลนี้ ควบคุมได้ง่าย การสั่งการก็ง่าย จึงเกิดโทรทัศน์ 2 ทางขึ้นและเกิดรายการ เปย์เปอร์วิว (Pay Per View) หรือการรับชมรายการที่ต้องจ่ายเงินเป็นรายเรื่อง และเนียร์วีดิโอออนดีมานด์ (Near video on Demand) คือการรับชมตามเวลาที่กำหนดโดยต้องจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนและ วิดิโอออนดีมานด์ (Video on Demand) คือ การรับชมรายการใดก็ได้ตามรายการที่ระบุไว้โดยต้องจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน ส่วนการรับสัญญาณนั้นก็จำเป็นจะต้องให้เครื่องรับโทรทัศน์ที่ใช้อยู่เดิมรับได้ด้วย ดังนั้นหากใครต้องการที่จะรับโทรทัศน์จากดาวเทียมก็ต้องมีจานรับประกอบกับอุปกรณ์ร่วม คือ กล่องไออาร์ดี (IRD) ซึ่งต้องนำมาติดตั้ง กับเครื่องรับโทรทัศน์ก็จะสามารถรับโทรทัศน์ จากดาวเทียมในระบบดิจิตอลได้ ซึ่งเรารู้จักกันในนาม ดีทีเอช ( DTH ) หรือ ไดเร็คทูโฮม ( Direct to home ) โดยจานจะรับสัญญาณจากดาวเทียมมาขยายและส่งเข้ากล่องไออาร์ดี กล่องนี้จะแปลงสัญญาณดิจิตอลจากดาวเทียมให้เป็นสัญญาณโทรทัศน์ ในระบบอนาล็อกแล้วส่งไปยังเครื่องรับโทรทัศน์ ส่วนระบบเคเบิลทีวีก็มีกล่องอยู่ด้านหน้าหรือด้านบนของเครื่องรับโทรทัศน์เดิมเช่นกัน เรียกว่าเซททอปบ๊อก (Set top box) กล่องนี้ก็จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกและเปลี่ยนช่องสัญญาณส่งเข้าเครื่องรับโทรทัศน์ ส่วนการควบคุมการใช้ทางเคเบิลทีวีก็จะควบคุมจากรีโมทคอนโทรลและเนื่องจากเป็นระบบดิจิตอล การควบคุมก็จะทำได้อย่างสะดวก การสั่งฉายภาพยนตร์เรื่องที่ต้องการก็สามารถสั่งได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือเปลี่ยนช่องสัญญาณได้ง่ายการปรับแต่งต่าง ๆ ทำได้ง่าย ๆ การพัฒนาโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (Terrestial Television)[แก้]ในขณะที่โทรทัศน์จากดาวเทียมขยายกิจการมากขึ้น มีการถ่ายทอดข้ามโลกและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ทางเคเบิลทีวีก็พัฒนาระบบมากขึ้น มีการให้บริการมากขึ้น ทางโทรทัศน์ที่ส่งด้วยสายอากาศภาคพื้นดิน ก็ต้องขยับตัวเพราะต้องการช่องสัญญาณมากขึ้น การพัฒนาโทรทัศน์ภาคพื้นดินนั้น มีความพยายามที่จะเพิ่มสถานีโทรทัศน์ให้มากขึ้นโดยการใช้ช่องสัญญาณความถี่ในย่านยูเอชเอฟ นอกจากนั้นยังมีความพยายามทำโทรทัศน์ให้มีความคมชัดมากขึ้น และมีรายละเอียดมากขึ้นที่เรียกว่า เอชดีทีวี (HDTV) แต่ก็ต้องเลิกล้มไปเพราะเห็นว่าระบบที่พัฒนานั้นเป็นระบบอนาล็อก ซึ่งจะพัฒนาต่อไปก็คงยากจึงหันมาพัฒนาโทรทัศน์ HDTVในระบบดิจิตอลแทน การส่งโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล (Digital)[แก้]เดิมทีการส่งโทรทัศน์จะส่งในระบบอนาลอก ( Analog ) แต่เมื่อมีสถานีส่งโทรทัศน์มากขึ้นก็เกิดปัญหาสัญญานรบกวนกันเกิดขึ้น เพราะความถี่มีจำนวนจำกัด การส่งโทรทัศน์ในระบบอนาลอกนั้น ในเมืองเดียวกันจะส่งความถี่ใกล้เคียงกันไม่ได้ ต้องส่งช่องเว้นช่อง เช่นใน กทม. ส่งช่อง 3 5 7 9 11 จะส่งช่อง 2 4 6 8 10 12 ไม่ได้ ถ้าจะส่งช่อง 2 4 6 8 10 12 จะต้องส่งให้ห่างจาก กทม. อย่างน้อย 200 กม. เช่นที่ นครสวรรค์ ระยอง หรือ ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีก อาทิ 1. สัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์ไฟฟ้าและแม่เหล็กอื่น ๆ ทำให้ภาพไม่คมชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องที่มีความถี่ต่ำ ISDB-T[แก้]ประวัติความเป็นมา ในยุค ค.ศ.1980 กล้องถ่ายโทรทัศน์แบบ HD (ในสมัยนั้นคือ MUSE Hi-Vision) ระบบบันทึกภาพและระบบต่างๆทันสมัยกว่าทีวียุคแรก ทำให้ในปี ค.ศ.1982 ศูนย์วิจัยของ NHK ได้พัฒนา MUSE (ชื่อเต็มคือ Multiple sub-nyquist sampling Encoding) เป็นระบบภาพแบบ HD 16:9 ระบบแรกของโลก โดยใช้การบีบอัดข้อมูลแบบดิจิตอล และทาง NHK ได้คิดค้นระบบส่งสัญญาณแบบทีวีดิจิตอลไว้ด้วย แต่ในสมัยนั้นก็ต้องใช้ระบบทีวีอนาล๊อกออกอากาศ ทำให้ต้องแปลงจากดิจิตอลไปอนาล๊อกก่อนออกอากาศให้ได้รับชมกัน ในปี ค.ศ.1987 ทาง NHK ได้เอาระบบนี้ไปทดลองและไปแสดงตัวอย่างที่ Washington D.C. ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เอาไปใช้กับระบบทีวีดิจิตอลที่ญี่ปุ่นคิดขึ้นมา ทางอเมริกาสนใจระบบนี้มาก แต่ในที่สุด อเมริกาก็ไปใช้ดิจิตอลทีวีระบ ATSC ที่คิดขึ้นเอง (ใช้ในกลุ่มประเทศของอเมริกาและเกาหลีใต้) ส่วนทางยุโรปไปใช้ DVB ที่ทางยุโรปคิดเองเช่นกัน (ใช้ในยุโรป แอฟริกา โอเชียเนีย และเอเซีย) ซึ่งทาง NHK ได้คิดค้นระบบการส่งสัญญาณโทรทัศน์แบบดิจิตอลได้เสร็จสมบูรณ์ในปลายยุค ค.ศ.1980 นั่นก็คือระบบ ISDB ซึ่งระบบ ISDB-T ซึ่งทาง NHK เป็นผู้คิดค้นได้นำมาใช้ในญี่ปุ่น โดยเริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ.2003 คุณสมบัติเด่นๆของ ISDB-T ใช้คลื่น UHF ความถี่ 470-770MHz ในการออกอากาศ รวมใช้คลื่น 300MHz โดยสามารถแบ่งได้เป็น 50ช่องสัญญาณ โดยจะมีตั้งแต่ช่องสัญญาณที่ 13จนถึง62 1ช่องสัญญาณจะใช้ 6MHz (ที่จริงสัญญาณมี 5.572MHz แต่อีก 430 kHz ใช้สำหรับแบ่งช่วงช่องสัญญาณ ไม่ให้ช่องตีกัน) ทีวีดิจิตอลญี่ปุ่นไม่ต้องประมูล สามารถทำโครงข่ายได้ทันทีเพราะใช้เสาสัญญาณของตัวเองด้วย ไม่ต้องพึ่งใคร การเข้าถึงทีวีดิจิตอลโดยใช้บัตร B-CAS ในประเทศญี่ปุ่น การจะดูทีวีดิจิตอลได้จะต้องมีบัตรที่เรียกว่า B-CAS ถ้าไม่มีบัตร ก็จะดูไม่ได้ โดยบัตรจะมีให้เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่มีตัวรับทีวีดิจิตอล ทั้ง ทีวีที่รองรับทีวีดิจิตอล กล่องทีวีดิจิตอล ทีวีติดรถยนต์ โน๊ตบุ๊คที่มีตัวรับทีวีดิจิตอลในตัว จะยกเว้นแต่ 1Seg หรือ ทีวีดิจิตอลมือถือที่ไม่ต้องใช้ B-CAS สามารถดูได้เลย การใช้ก็แค่เสียบเข้าไปในช่องใส่บัตร B-CAS ก็จะใช้ดูทีวีได้เลย โดยเราจะต้องนำบัตรไปลงทะเบียนก่อน โดยจะมีใบลงทะเบียนมาให้พร้อมบัตรเลย (สมมติซื้อทีวี จะมีบัตรและใบลงทะเบียนมาให้ในกล่องเลย) ที่จริงบัตรนั้นก็ยังใช้ดูทีวีได้แม้ยังไม่ได้ลงทะเบียน ที่จริงบัตรนั้นก็ยังใช้ดูทีวีได้ แต่จะไม่ได้เต็มความสามารถ เช่น ถ้าเราไม่นำไปยืนยันก็จะมีลายน้ำของโลโก้ช่องขึ้นที่มุมของจอ(โลโก้ช่องนั่นแหละ อัดรายการมาก็จะมีลายน้ำติดมาด้วย) และจะใช้ระบบInteractive ของรายการทีวีไม่ได้ โดยคนญี่ปุ่นส่วนมากจะไม่นำบัตรไปลงทะเบียน เพราะกลัวโดนนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ทำอย่างอื่น โดยถ้าบัตรหายหรือบัตรใช้ไม่ได้ ก็สามารถทำบัตรใหม่ได้โดยใช้เลขทะเบียนเดิม เสียค่าทำใหม่ 2พันเยน (ประมาณ620บาท) ระบบ ISDB-T ในต่างประเทศ ประเทศบราซิล ก็สนใจ ISDB-T เพื่อใช้ในทีวีดิจิตอลของประเทศตัวเอง เลยขอนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ โดยเปลี่ยนคุณสมบัติใหม่ จนกลายเป็น ISDB-Tb ซึ่งระบบนี้ประเทศอื่นๆในอเมริกาใต้ก็นำไปใช้ด้วย (แต่มีระบบที่แยกย่อยไปอีก รวมทั้งหมดมีระบบISDBที่ใช้กันอยู่4ประเภท เพราะระบบปรับแต่งง่ายจึงแยกย่อยตามแต่ละประเทศ) โดยทางบราซิลได้นำไปปรับปรุงให้ใช้กับการบีบอัดภาพแบบ MPEG4 (ต้นตำรับของญี่ปุ่นใช้ MPEG2และใช้จนถึงปัจจุบัน) โดยบราซิลให้เหตุผลที่ใช้ระบบนี้ว่าระบบ ISDB-T ของญี่ปุ่น มีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นกว่า ปรับแต่งระบบได้ง่าย และรองรับการออกอากาศทั้งในทีวีและมือถือในระบบเดียวกัน ไม่ต้องแบ่งช่องสัญญาณใหม่ด้วย โดยวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ.2006 บราซิลได้เลือกระบบนี้ในการออกอากาศทีวีดิจิตอล เริ่มออกอากาศเป็นทางการในเดือนพฤษจิกายน ค.ศ.2007 โดยจะให้ครอบคลุมและดำเนินการให้เสร็จในปี ค.ศ.2016 ส่วนเรื่องทีวีดิจิตอลบนมือถือ ทางบราซิลก็ให้เหตุผลว่าระบบของญี่ปุ่นนั้น ปรับแต่งง่าย ไม่ต้องทำระบบใหม่ รับสัญญาณได้ทุกที่ๆทีวีออกอากาศได้ ทำให้ออกอากาศได้ฟรี มีคนใช้เยอะ ไม่เหมือนอเมริกาและยุโรปที่ใช้กันไม่ทั่วถึงและในบางประเทศมีการเก็บค่าดู ทำให้ระบบอื่นไปไม่รอด ประเทศที่ใช้ระบบ ISDB-T เป็นมาตรฐานทีวีดิจิตอลอย่างเป็นทางการ เปรู ประกาศเมื่อ 23 เมษายน ค.ศ.2009 ใช้ตามญี่ปุ่น (ISDB-T ต้นฉบับ) ตามสเปคของ ISDB-T ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ระบบบีบอัดสัญญาณ = MPEG2 ระบบ ATSC (ชื่อเต็มคือ Advanced Television Systems Committee) เป็นระบบที่ถูกคิดค้นในปี ค.ศ.1983 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1987 ซึ่งในปีที่พัฒนาได้สำเร็จเนี่ย ทาง NHK จากญี่ปุ่นได้มาแสดงระบบภาพ MUSE Hi-Vision พร้อมนำ ISDB-T มาแสดงที่ Washington D.C. เพื่อให้อเมริกาได้เลือกใช้ แต่อเมริกาไม่เลือก เพราะมีระบบของตัวเองอยู่แล้ว โดยระบบสร้างขึ้นมาเพื่อจัดสรรช่องให้เป็นระบบ ให้ภาพนั้นชัดไม่มีสัญญาณรบกวน รองรับภาพความละเอียดสูง และใส่ช่องได้จำนวนมาก โดยระบบนี้ได้รับการรับรองจาก คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติสหรัฐในปี ค.ศ.1996 ในปี ค.ศ.1998 ได้มีการเริ่มทดลองทีวีดิจิตอลระบบ ATSC และในปลายปี ค.ศ.2006 ก็ถึงกำหนดเวลาที่จะเริ่มออกอากาศเต็มตัวทั้งประเทศ ตามข้อกำหนดที่เขียนไว้ในปี ค.ศ.1996 และเริ่มปิดทีวีอนาล๊อกในประมาณกลางปี ค.ศ.2009 ในปี ค.ศ.2008 อเมริกามีการประมูลคลื่นความถี่ครั้งใหญ่ นั่นคือคลื่น 700MHz งานนนี้ประมูลทั้งคลื่นสัญญาณโทรทัศน์ คลื่นโทรศัพท์ ทำให้เปลี่ยนคลื่นการออกอากาศทีวี จากช่องสัญญาณที่ 52-69 (แต่เดิมใช้ทำทีวีอนาล๊อกตั้งแต่ยุคเริ่มแรก) มาให้อยู่ในช่องสัญญาณที่ 2 ถึง 51 (เอาทีวีอนาล๊อกที่ยังเหลืออยู่และทีวีดิจิตอลมาใส่ในคลื่นนี้) ส่วนช่องสัญญาณ 52-69 นั้น เอาไปทำคลื่นโทรศัพท์ คุณสมบัติเด่นของ ATSC รุ่น 1.0 (มาตรฐาน A/53 ประเทศที่ใช้ระบบATSCยังใช้ตามาตรฐานนี้อยู่) ใช้การจัดแบ่งคลื่นช่องสัญญาณ ช่องสัญญาณละ 6MHz รองรับภาพระบบ HD บีบอัดภาพแบบ H.264/MPEG4 AVC รองรับภาพแบบ 4K (3840x2160) บนเฟรมเรต 60FPS อเมริกา เกาหลีใต้
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้ตั้งกระทู้ เสาทีวีดิจิตอล , ทีวีดิจิตอล , ดิจิตอลทีวี :: วันที่ลงประกาศ 2014-01-24 04:16:47 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3315574) | |
DVB-T2[แก้]DVB-T2 คืออะไร DVB-T2 เป็นมาตรฐานการส่งโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลที่ก้าวหน้าและทันสมัยที่สุด ที่มี ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดในขณะนี้ สัญญาณมีความคงทน และมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ได้นำเสนอ การผสมสัญญาณ (modulation) ระบบใหม่สุด และเทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณที่มีประสิทธิภาพสูงเท่าที่มีใช้งาน ในการส่งโทรทัศน์ในคลื่นความถี่ที่ส่งสัญญาณภาพ และเสียง และการบริการส่งข้อมูลที่ใช้สำหรับ เครื่องรับ โทรทัศน์แบบเคลื่อนที่ (portable) และเครื่องรับโทรทัศน์แบบมือถือ (mobile) การใช้เทคนิคใหม่นี้ทำให้ DVB-T2 มีประสิทธิภาพอย่างน้อยสูงกว่า 50% ของประสิทธิภาพการส่งโทรทัศน์ภาคพื้น ดินระบบดิจิทัลอื่น ๆ ที่ใช้งานใน โลก ช่อง DVB-T2จะรับช่องได้มากกว่า ISDB-T ATSC
เช่นเดียวกับ DVB-T คุณสมบัติทางเทคนิคของ DVB-T2 ใช้หลักการผสมสัญญาณ OFDM (orthogonal frequency division multiplex) โดยการแบ่งคลื่นความถี่วิทยุเป็นความถี่ย่อยจำนวนมาก เพื่อให้ส่งสัญญาณที่มี ความคงทน สิ่งที่เหมือนกันของ DVB-T และ DVB-T2 มีการเสนอให้มีการปรับโหมดการทำงานได้หลายแบบ เป็นมาตรฐานการส่งโทรทัศน์ที่มีความยืดหยุ่นอ่อนตัว DVB-T2 ใช้เทคนิคระบบป้องกันแก้ไขความผิดพลาดของ สัญญาณเหมือนกับมาตรฐานการส่งโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (DVB-S2) และมาตรฐานการส่งโทรทัศน์ผ่านสาย นำส่งสัญญาณ (DVB-C2) เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณ LDPC (Low Density Parity Check) รวมกันกับการ เข้ารหัสสัญญาณ BCN (Bose-Chaudhuri-Hocquengham) เพื่อให้สัญญาณมีความคงทน หลาย ๆทางเลือกมี ให้ใช้ในการกำหนดจำนวนคลื่นความถี่ที่ใช้ออกอากาศ และกำหนดขนาดช่วงคาบเวลา (guard interval size) ใน การกำหนดสัญญาณนำร่อง (pilot signal) ดังนัน้ สงิ่ ที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเป้ าหมายใน ระบบส่งสัญญาณโทรทัศน์ในช่องคลื่นความถี่ที่กำหนด คุณสมบัติที่สำคัญของเทคโนโลยีใหม่ DVB-T คือ Multiple Physical Layer Pipe ให้มีการแยกปรับโหมดเกี่ยวกับการกำหนดค่าความคงทนของสัญญาณ Alamouti coding วิธีการหลากหลายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ จะช่วยปรับปรุงเขตบริการรับ Rotated Constellations ให้การเพมิ่ ความคงทนของสัญญาณโทรทัศน์ ในการสงั่ การระดับต่ำ Future Extension Frame (FEF) ให้มาตรฐานการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่สอดคล้องการปรับคุณภาพสูง จากผลสรุปดังกล่าว DVB-T2 สามารถเสนออัตราการส่งข้อมูลสูงกว่า DVB-T หรือสัญญาณโทรทัศน์มีความ คงทนมากกว่า จากการเปรียบเทียมตามตารางข้างล่าง แสดงอัตราส่งข้อมูลสูงสุด เมื่อกำหนดค่าสัญญาณ รบกวนเท่ากัน และเป็นค่าความต้องการในการใช้งานของอัตราส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ประโยชน์ของการส่งโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล[แก้]การส่งโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลนั้นได้ประโยชน์หลายประการ เช่น 1.ทำให้ใช้ประโยชน์จากช่องสัญญาณได้มากขึ้น เช่น เดิม 1 ช่องใช้ได้ 1 รายการ เมื่อหันมาใช้ระบบดิจิตอล มีการบีบอัดสัญญาณ ( Digital Compression ) ก็จะสามารถส่งได้ถึง 4-6 รายการทางภาคพื้นดิน และ 8-10 รายการทางดาวเทียม 1. จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อเครื่องใหม่ซึ่งจะประมาณเท่ากับ 15 ล้าน คูณด้วย 1 หมื่นบาท เท่ากับ 1 แสนห้าหมื่นล้านบาท ปัญหาที่จะเกิดก็คือเครื่องเซททอป (SET TOP) ราคายังค่อนข้างแพง ถ้าเครื่องนี้มีราคาถูกลงก็จะทำให้คนรับโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลมากขึ้น ผู้ประกอบการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่เมื่อมีความจำเป็นต้องส่งออกอากาศให้ได้ ทุกฝ่ายก็ต้องหาทางเอาเองเช่น 1. ทำเครือข่ายเล็ก ๆ ซึ่งเมื่อคำนวณค่าเครื่องรับแล้วมีไม่เกิน 1000 เครื่อง ค่าใช้จ่ายก็คงไม่มาก ปัจจุบัน อยู่ระหว่างทดลองออกอากาศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 โดยใช้ย่านความถี่ยูเอชเอฟ จำนวน 2 ช่องความถี่คือ 594 เมกะเฮิร์ตซ์ (ช่อง 36) และ 626 เมกะเฮิร์ตซ์ (ช่อง 40)[32] มาตรฐานการส่งโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล[แก้]การส่งโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลมีการส่งในมาตรฐานต่างกัน เช่น 1.ประเทศอเมริกาใช้มาตรฐาน เอทีเอสซี (ATSC) ซึ่งย่อมาจาก อเมริกัน แอดวานซ์ เทเลวิชั่น ซิสเต็ม ( AMERICAN ADVANCE TELEVISION SYSTEM ) ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1998 ระบบการส่งและการรับโทรทัศน์[แก้]การส่งและรับโทรทัศน์ในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะเป็นดังนี้ 1. การส่งและรับโทรทัศน์ในระบบอนาลอกโดยคลื่นความถี่ภาคพื้นดิน (Terrestrial Television) โทรทัศน์แอนะล็อก (analog television) คือ โทรทัศน์ที่มีระบบการรับ- ส่งสัญญาณภาพและเสียงในรูปสัญญาณแอนะล็อกแบบ A.M. และ F.M เช่น โทรทัศน์ที่ระบบ NTSC PAL และ SECAM ซึ่งก็คือโทรทัศน์ทั่วไปที่ใช้ตามบ้านเรือน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทีวีดิจิตอล วันที่ตอบ 2014-01-24 04:18:26 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3315575) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เสาทีวีดิจิตอล วันที่ตอบ 2014-01-24 04:23:42 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3315576) | |
กสทช. เดินหน้าทดลอง "ดิจิทัล ทีวี" เดือนมิ.ย.นี้ คาด 5 ปี เปิดประมูล 100 ช่อง ชูจุดเด่นอินเตอร์แอ็คทีฟ รับชมผ่านทุกแพลตฟอร์ม พันเอกนที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า กสทช. ได้แต่งตั้งอนุกรรมการการเปลี่ยนไปสู่ระบบการส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ซึ่งจะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 16 ก.พ.นี้ เพื่อกำหนดกรอบการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมวิทยุโทรทัศน์ไทยไปสู่ระบบดิจิทัล ให้สอดคล้องกับร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในยุทธศาสตร์การเปลี่ยนไปสู่ระบบการส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ที่กำหนดให้เริ่มต้นการรับส่งสัญญาณดิจิทัลภายใน 4 ปี
ประมูลไลเซ่น 100 ช่องดิจิทัลทีวี ปัจจุบัน 1 คลื่นความถี่ฟรีทีวี ในระบบอนาล็อก สามารถจัดสรรเป็นดิจิทัลทีวี 8-10 ช่อง นอกจากนี้ยังมีคลื่นความถี่ระหว่างช่องฟรีทีวีปัจจุบัน เช่น ช่อง 2,ช่อง 4 และช่อง 6 ที่ยังไม่มีการใช้งาน สามารถนำมาจัดสรรเป็นดิจิทัล ทีวีได้อีก ดังนั้นหากประเทศไทยเปลี่ยนระบบรับส่งสัญญาณเป็นดิจิทัลแล้ว จะมีคลื่นความถี่ที่นำมาจัดสรรเป็น ดิจิทัล ทีวี ได้จำนวนมาก แม้ว่าปัจจุบันจะมีการขยายตัวและการลงทุนในช่องทีวีดาวเทียมจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสื่อที่มีการลงทุนไม่สูง แต่เชื่อว่าหาก กสทช. เปิดให้ประมูลใบอนุญาตดิจิทัลทีวี จะมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสื่อสนใจเข้าประมูล เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่มีประสิทธิภาพสูงด้านการรับชมที่ให้ภาพคมชัด มีความเสถียรด้านสัญญาณการออกอากาศ พัฒนาไปสู่การให้บริการอินเตอร์แอ็คทีฟ ซึ่งสามารถรับชมช่องดิจิทัล ทีวี ได้ทุกแพลตฟอร์มการออกอากาศ โดยเฉพาะในรูปแบบ "โมบาย ทีวี" ซึ่งจะช่วยขยายฐานผู้ชมได้เพิ่มขึ้นจำนวนมาก พันเอกนที กล่าวอีกว่าปัจจุบันฟรีทีวี ภาคพื้นดิน 6 ช่อง มีฐานผู้ชมทั่วประเทศประมาณ 20 ล้านครัวเรือน หรือ 20 ล้านเครื่องรับชมทีวี แต่หากเป็น ดิจิทัล ทีวี ซึ่งสามารถรับชมผ่านโทรศัพท์มือถือได้ เท่ากับสามารถขยายฐานผู้ชมทีวีไปยังเจ้าของโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยกว่า 60 ล้านรายในปัจจุบัน เชื่อว่าด้วยศักยภาพด้านสัญญาณและจำนวนผู้มีโอกาสรับชม จะทำให้มีผู้ประกอบการสนใจประมูลใบอนุญาตดิจิทัล ทีวีแน่นอน แต่ยังไม่สามารถกำหนดราคาประมูลได้ในขณะนี้ โดยต้องรอให้อนุกรรมการฯ เป็นผู้ศึกษาและจัดทำแผนก่อน สำหรับแนวทางการลงทุนด้านโครงข่ายส่งสัญญาณดิจิทัลทีวี กสทช. จะกำหนดหลักเกณฑ์โดยจัดทำเป็นโครงข่ายแห่งชาติ และเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเสนอแผนเข้าประมูลเพื่อลงทุน โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นโครงข่ายเดียว แต่ผู้ประกอบการทุกรายที่ประมูลขอใบอนุญาตช่องดิจิทัลทีวี สามารถเข้ามาเช่าสัญญาณออกอากาศกับโครงข่ายแห่งชาติได้โดยไม่ต้องลงทุน ปัจจุบันสถานีส่งสัญญาณออกอากาศฟรีทีวี ทั้งช่องไทยพีบีเอส ช่อง 11 และ อสมท มีศักยภาพที่จะลงทุนเพื่อปรับเป็นโครงข่ายดิจิทัลทีวี ทั้งสิ้น โดยมีการประเมินว่าการลงทุนโครงข่ายดังกล่าวจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับเลือกให้ลงทุนโครงข่ายสัญญาณดิจิทัล จะต้องเสนอแผนการลงทุนด้านการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศเช่นเดียวกับการขยายโครงข่าย 3จี เช่นกัน กสทช.นัดถกร่างไอเอ็ม3จี ทั้งนี้ รายละเอียดของการหารือจะพิจารณาถึงร่างไอเอ็ม 3.9จี ที่รักษาการ กสทช. ชุดที่มี พ.อ.นที ศุกลรัตน์ เป็นประธานดำเนินการได้จัดทำมาแล้ว ดังนั้น คณะอนุกรรมการชุดปัจจุบันจะลงรายละเอียดเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 (พ.ร.บ.กสทช.) รวมทั้ง ยังต้องพิจารณาว่า หากประกาศร่างไอเอ็มฉบับใหม่แล้ว จะมีผลกระทบการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติหรือไม่ โดยยอมรับว่า ยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับประกาศ กสทช. ว่าด้วยเรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. 2554 "การประชุมของคณะอนุกรรมการไอเอ็ม เราจะไม่เริ่มต้นจากศูนย์ เพราะจะยิ่งล่าช้า เราเอาไอเอ็มเดิมที่เคยทำไว้แล้ว และก็เห็นว่าเป็นไอเอ็มที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในทุกมิติมาปัดฝุ่นใหม่ เพราะเราต้องการให้การเปิดประมูลไลเซ่น 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นรอยต่อไปสู่ 4จี นี้ดำเนินการได้ทันตามไทม์ไลน์ที่ตั้งไว้ว่าจะเริ่มเปิดประมูลในไตรมาส 3 ปีนี้" เดินหน้าประชาพิจารณ์ 10 ก.พ. สำหรับการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ต่อร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมที่จะมีขึ้นวันที่ 10 ก.พ. นี้ พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า เดิม กสทช.จะจัดประชาพิจารณ์เวียนไปทั่วประเทศ ตามจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ๆ แต่ด้วยระยะเวลาของการประมูลไลเซ่น 3จี ที่จะมีขึ้นในไตรมาส 3 กสทช. จึงจัดประชาพิจารณ์ขึ้นในวันดังกล่าวเพียงวันเดียว แต่พร้อมกัน 4 จังหวัด คือ กทม. ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี, อุดรธานี, ภูเก็ต และ เชียงราย โดยจะมีเทคโนโลยีการประชุมทางไกลผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์รับฟังความเห็นของผู้เข้าร่วมในทุกภาค อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทำประชาพิจารณ์ร่างแผนแม่บททั้ง 2 ฉบับเสร็จแล้ว กสทช.จะนำความเห็นของผู้เข้าร่วมมารับปรับปรุงแก้ไข โดยขั้นตอนต่อไป จะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กสทช.เพื่อขอรับรองมติ และหลังจากนั้น จะประกาศเผยแพร่ในเว็บไซต์ของ กสทช. เป็นเวลา 30 วัน และจึงนำไปลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ คาดว่ากระบวนทั้งหมดจะเสร็จภายในเดือนมี.ค. นี้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ดิจิตอลทีวี วันที่ตอบ 2014-01-24 04:26:14 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3315577) | |
เสาอากาศและทีวีดิจิตอล เสาอากาศแบบไหนที่จะต้องใช้กับดิจิตอลทีวี ความสามารถในการรับสัญญาณของเสาอากาศนั้นก็มีความหลากหลาย อย่าลืมที่จะสอบถามคนขายว่าเสาอากาศที่จะซื้อนั้นสามารถรองรับทั้งสองช่วงความถี่หรือไม่ นอกจากนี้หากบ้านอยู่่ไกลจากสถานีทวนสัญญาณมากๆ เราอาจจะต้องใช้เสาอากาศภายนอกจึงอาจจะต้องมีการเพิ่มตัวขยายสัญญาณหรือ Booster เพิ่มอีกด้วย ด้วยลักษณะสัญญาณการรับส่งเป็นแบบดิจิตอล ทำให้ธรรมชาติของการรับสัญญาณนั้นมีลักษณะเป็นดิจิตอลไปด้วยคือ รับได้หรือรับไม่ได้เท่านั้น จะไม่มีลักษณะเช่นเสาอากาศอนาลอกเดิมที่เป็นแบบชัดหรือไม่ชัดต่อเนื่องกันไป คือจากจอขาวมีจุดวิ่งเต็มหน้าจอเสียงซ่าไปเป็นแบบลูกน้ำจางๆแล้วค่อยๆชัดขึ้น ดังนั้นเราอาจจะเห็นเสาอากาศทีวีดิจิตอลที่มีความแตกต่างกันออกไปได้แล้วแต่การออกแบบ เพราะหากรับสัญญาณได้ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบเดิมๆอีกต่อไป อาจจะออกมาแบนๆ เพื่อประหยัดพื้นที่และเพื่อความสวยงามก็ได้ แม้แต่เสาที่เป็นแบบก้างปลาก็อาจจะมีหน้าตาที่แตกต่างกันหลากหลายรูปแบบ ระบบทีวีดิจิตอลจะมีจุดเด่นอีกอย่างคือการไม่มีภาพซ้อน ทำให้การออกแบบเสาอากาศทำได้ง่ายขึ้นไม่ต้องห่วงในเรื่องการบังคับทิศทางและแก้ปัญหาสัญญาณสะท้อนจากแหล่งอื่นๆ ทั้งนี้เพราะเสาอากาศแบบอนาลอกไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนคือสัญญาณหลักอันไหนคือสัญญาณที่สะท้อนจากตึกรามบ้านช่อง ภาพที่เกิดขึ้นจึงมีการซ้อนทับกันทำให้ดูทีวีได้ไม่คมชัด อย่างไรก็ตามเรายังมีเวลาอีกนานในการที่จะเลือกและทดลองหาสายอากาศที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งและที่ตั้งของเรา เพราะถึงตอนนั้นก็คงมีหลากหลายรุ่นให้เลือก ทาง ThaiDigitalTelevision ก็จะได้นำเสนอข้อมูลการรีวิวมาให้ทราบกันต่อไปนะครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เสาอากาศและทีวีดิจิตอล วันที่ตอบ 2014-01-24 04:30:54 |
ความคิดเห็นที่ 5 (4197386) | |
สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อกล่องทีวีดิจิตอล มีดังนี้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ดิจจี้ วันที่ตอบ 2017-07-03 10:27:47 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1056980 |