ReadyPlanet.com


รวมข่าวดาวเทียม วันที่ 16 กค 2014


สื่อนอกตีข่าวดาวเทียมไทยพบชิ้นส่วนโยงMH370

สื่อนอกประโคมข่าวดาวเทียมไทยโชตพบเศษชิ้นส่วนกว่า 300 ชิ้น ลอยเกลื่อนทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย คาดเป็นซากชิ้นส่วนเครื่องบินมาเลเซีย

ภาพดังกล่าวดาวเทียมไทยโชตบันทึกไว้ได้เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากดาวเทียมฝรั่งเศสพบซากชิ้นส่วน 122 ชิ้น ในบริเวณที่ห่างกันราว 200 กิโลเมตรเพียงวันเดียว และข้อมูลดังกล่าวได้ส่งไปยังทางการมาเลเซียเรียบร้อยแล้ว วัตถุดังกล่าวมีขนาดตั้งแต่ 2 เมตรไปจนถึง 15 เมตร ส่วนการค้นหาซากชิ้นส่วนของเครื่องบินจากนานาชาติจำนวน 11 ลำ เมื่อวานนี้ต้องระงับเนื่องจากทัศนวิสัยไม่อำนวย หลังจากเดินทางไปถึงยังบริเวณที่มีรายงานว่าพบชิ้นส่วนลอยอยู่แล้ว

ส่วนกองเรือที่มีเรือรบออสเตรเลีย HMAS ซัคเซสส์ ยังคงค้นหาต่อไปโดยมีเรือจากจีนอีก 5 ลำ ร่วมทีมค้นหา และมีรายงานว่ารัฐบาลจีนได้ส่งเรือมาเพิ่มเพื่อให้การค้นหามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีก 3 ลำ สำหรับประเทศต่างๆ ที่ร่วมค้นหาซากเครื่องบินมาเลเซียมีทั้งสิ้น 6 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้

เอริค แวน เซบิลล์ นักสมุทรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า หากพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินแม้เพียงชิ้นเดียว นักวิทยาศาสตร์จะค้นหาจุดที่เครื่องตกได้ แม้จะเป็นภารกิจที่ยากลำบากมากก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีคลื่นจัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


ส่วนการสอบสวนหาสาเหตุว่าเหตุใดเครื่องบินจึงเปลี่ยนเส้นทางบินอย่างกะทันหัน จากการมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งเป็นการบินสู่ทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ยังคงมืดแปดด้าน และยังไม่มีการตัดประเด็นใดๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขัดข้อง หรือระบบไฟฟ้าล้มเหลว การจี้เครื่องบิน การวินาศกรรม และการกระทำโดยเจตนาของกัปตันหรือนักบินผู้ช่วย ส่วนผลการตรวจสอบเครื่องจำลองการบินของกัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ คาดว่าอีก 2-3 วันจะทราบผล


 



ผู้ตั้งกระทู้ ข่าวดาวเทียม :: วันที่ลงประกาศ 2014-07-16 07:33:25


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3670612)

 คสช. คาด สัปดาห์หน้า เปิดโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่ม 

คสช.เร่งทยอยเปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ชี้ กสทช. กำลังจัดระเบียบบางรายที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องรูปแบบ และลักษณะของการประกอบการ

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการให้บริการของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบางรายที่ยังคงไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ว่า เนื่องจากทาง กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลได้ให้ข้อมูลว่า กำลังเร่งดำเนินการจัดระเบียบให้กับผู้ประกอบการ เพราะบางรายที่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องรูปแบบ และลักษณะของการประกอบการ จึงต้องเชิญมาตกลงเพื่อรับทราบรายละเอียดที่จำเป็นเพิ่มเติม

ทั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่าที่ผ่านมา สถานีฯ กว่า 70% ได้ทยอยให้เปิดบริการแล้ว เหลือแต่บางรายซึ่งเป็นส่วนน้อย แต่ก็คงจะทยอยดำเนินการให้เพิ่มเติมในต้นสัปดาห์หน้า.
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:39:59


ความคิดเห็นที่ 2 (3670614)
กสทช.เผยทุกช่องออกอากาศได้เกือบหมด เหลือช่อง AD ไม่เหมาะ      
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การออกอากาศโทรทัศน์เกือบจะเข้าสู่สภาพปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวีระบบอะนาล็อก 6 ช่อง ทีวีดิจิตอล 23ช่อง ช่องรายการดาวเทียม จำนวน 333ช่อง และช่องรายการเคเบิลทีวีแบบบอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) 211ช่อง โดยยังเหลือช่องรายการดาวเทียมที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมมีการโฆษณาชวนเชื่อ จำนวน 98 ช่อง ซึ่งทางที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) จะพิจารณาการออกอากาศอีกครั้งในวันที่ 6 มิถุนายนนี้
        ส่วนช่องรายการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งระงับไม่ให้ออกอากาศตามคำสั่งจำนวน 13 ช่องดาวเทียม ช่องวอยซ์ ทีวี และวิทยุชุมชนประมาณ 7,000 สถานี แบ่งรับใบอนุญาตทดลองจำนวน 4,000 สถานี และวิทยุที่ไม่ได้รับอนุญาตออกอากาศ 3,000 สถานี ยังไม่อนุญาตให้ออกอากาศ
        นอกจากนี้ กำลังพิจารณาทีวีอินเทอร์เน็ต 24 ช่องรายการว่า จะให้ออกอากาศได้หรือไม่
        ด้าน พ.อ.พิรัติ บรรจงเขียน ผู้อำนวยการเทคโนโลยีทางทหาร สังกัดกองทัพบก กล่าวว่า ส่วนกรณีทีวีดิจิตอลอย่างช่อง วอยซ์ ทีวีได้ส่งแผนผังรายการมาใหม่ หากไม่มีรายการเกี่ยวกับเมือง ไม่ยั่วยุ ไม่ปลุกปั่น สร้างกระแส โดยคณะทำงานกำลังพิจารณาท่าทีซึ่งคาดว่าแนวโน้มที่ช่องวอยซ์ ทีวี จะกลับมาออกอากาศนั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูง
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:44:59


ความคิดเห็นที่ 3 (3670617)
รื้อทั้งระบบ! กสท.ยันรีเซ็ตใหม่ "ทีวีดาวเทียม-วิทยุชุมชน"



กสท.จัดระเบียบช่องรายการทีวีดาวเทียมและวิทยุชุมชนใหม่ทั้งหมด หวังออกอากาศเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อผู้ชม ลั่นหากพบการออกอากาศไม่ถูกต้อง ทั้งโครงข่าย และเจ้าของช่องรายการจะมีความผิดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต...

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยหลังประชุมร่วมผู้ประกอบการโครงข่ายและช่องทีวีดาวเทียม ว่า ได้ทำความเข้าใจหลังได้รับอนุญาตให้ออกอากาศ โดยเป็นการปรับระเบียบใหม่ หรือ รีเซ็ตอุตสาหกรรมทีวีและวิทยุชุมชนใหม่ทั้งหมด ในช่วงที่มีการประกาศจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากที่ก่อนหน้านี้ ช่องรายการออกอากาศเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพและไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ชม

ประธาน กสท. กล่าวต่อว่า ล่าสุด มีโครงข่ายแบบบอกรับสมาชิกที่ได้รับการอนุญาตรวม 11 ราย และทีวีดาวเทียม 387 ช่อง จากทั้งหมด 538 ช่อง และหากมีช่องรายการใดออกอากาศเนื้อหาที่ผิด จะถือว่าผู้ให้บริการโครงข่ายมีความผิดก่อนอันดับแรก เพราะโครงข่ายต้องทำหน้าที่คัดกรองช่องรายการ ที่จะนำมาออกอากาศก่อน และต้องรับผิดชอบร่วมกันตาม พ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 โดยมีโทษตั้งแต่ตักเตือน ปรับ พักใช้ และสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาต

สำหรับวิทยุชุมชนที่ได้รับใบอนุญาตกว่า 5,000 สถานี แต่ยังไม่ได้ออกอากาศนั้น กสท. จะเข้าตรวจสอบระบบออกอากาศให้เป็นไปตามเงื่อนไข เช่น กำลังส่ง ความสูงของเสาอากาศ รวมถีงการถือครองคลื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ พบว่ามีหลายรายยังไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

ทางด้าน นายวรสิทธิ์ ลีลาบูรณาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีเอสไอ บรอดคาสติ้ง กล่าวว่า บริษัทมีลูกค้า 16 ล้านรายที่เป็นสมาชิก โดยมีลูกค้าอีก 3 แสนราย ที่ยังเป็นกล่องรับสัญญาณแบบไม่เข้ารหัส ซึ่งบริษัทได้เสนอโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า คือ นำกล่องเก่ามาแลกกล่องใหม่เพื่อให้ทั้ง 3 แสนรายที่ค้างอยู่ เข้าสู่ระบบถอดรหัส

นายวิชิต เอื้ออารีย์วรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เจริญเคเบิลทีวี ผู้ให้บริการโครงข่ายแบบบอกรับสมาชิก กล่าวว่า การจัดระเบียบของ กสท.ครั้งนี้ ทำให้เนื้อหารายการมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งช่องรายการต้องปรับตัวในเรื่องของเวลาโฆษณา ที่ไม่เกิน 6 นาทีต่อชั่วโมง.
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:47:58


ความคิดเห็นที่ 4 (3670619)

กสทช.ถกผู้ประกอบการเคเบิล จัดระเบียบความเหมาะสม
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้ประกอบการช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก และช่องรายการโทรทัศน์เคเบิลแบบบอกรับสมาชิก และผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิล เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน ในเงื่อนไขการออกอากาศในโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก ที่ต้องกลั่นกรองและพิจารณาการนำช่องรายการและเนื้อหามาออกอากาศ ที่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 รวมถึงประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มิฉะนั้นผู้ให้บริการโครงข่ายจะมีความผิด ร่วมกับผู้ให้บริการช่องช่องรายการ และยังเป็นการจัดระเบียนในกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลอีกทางหนึ่งด้วย เพราะปัจจุบันเนื้อหาที่ออกอากาศยังไม่เหมาะสม

        ส่วนช่องที่ยังไม่สามารถออกอากาศตามปกติขณะนี้มี 150 ช่อง ซึ่งอยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนให้เป็นการประกอบกิจการในโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกเพื่อให้สามารถออกอากาศได้
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:50:30


ความคิดเห็นที่ 5 (3670624)
ค้านแจกคูปองทีวีดาวเทียม กทปส.เร่งสรุปผลคาดทันใช้เดือน ส.ค.นี้



ลุ้นบอร์ด กทปส.เคาะความชัดเจนคูปองทีวีดิจิตอล ทั้งประชาพิจารณ์หรือไม่ รวมถึง ราคาคูปองด้วย คาดไม่เกิน ส.ค.นี้ ด้านเอกชนวอนขอให้สรุปโดยด่วนเพราะตลาดชะงัก กระทบทั้งผู้ขายกล่องและช่องทีวีดิจิตอลที่ไม่มีเรตติ้งไปขายโฆษณาได้ขณะที่มีการลงทุนไปแล้ว ไม่เห็นด้วยกับแจกคูปองทีวีดาวเทียมเพราะขัดเจตนารมณ์ของการสนับสนุนทีวีดิจิตอล พร้อมดัมพ์ราคากล่องพร้อมเสาลงให้ชาวบ้านไม่ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 มิ.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) มีวาระพิจารณาสำคัญ 2 เรื่องคือ 1.ข้อเสนอของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายว่าควรจะนำเรื่องการแจกคูปอง ทีวีดิจิตอลเข้าสู่ขั้นตอนการรับฟังความเห็นสาธารณะหรือไม่ ถ้าเปิดรับฟังความเห็นจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด 2.ราคาคูปองดิจิตอลที่เหมาะสมควรเป็นอัตราใด โดยเชื่อว่าที่ประชุมจะมีความชัดเจนอย่างแน่นอน ทั้งนี้การแจกคูปองอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่เชื่อว่าไม่เกินเดือน ส.ค.57 นี้อย่างแน่นอน

ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสท.ในฐานะคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า การแจกคูปองทีวีดิจิตอลเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลนั้น กสท.ได้ส่งผลการสรุปของบอร์ด กสท.ให้บอร์ด กทปส.พิจารณาแล้ว ซึ่งต้องรอผลการประชุมของ กทปส. และเสนอบอร์ด กสทช.พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้ในหลักการของการแจกคูปองนั้นจะสามารถนำไปแลกซื้อ 1.เครื่องโทรทัศน์ที่มีอุปกรณ์รับสัญญาณดิจิตอล DVB-T2 ในตัว 2.กล่องดิจิตอลพร้อมสาย อากาศ 3.กล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่สามารถรับชม ภาพความคมชัดมาตรฐานสูง หรือเอชดี 4. กล่องรับ สัญญาณเคเบิล สำหรับการแลกซื้อกล่องดาวเทียมและเคเบิลนั้น กล่องที่เข้าร่วมโครงการได้จะต้องจัดเรียงช่องเหมือนกับกล่องดิจิตอล 1-36 กล่องเป็นสิทธิ์ขาด ของประชาชน รับชมช่องทีวีดิจิตอล 36 ช่องได้แม้จะ ยกเลิกการเป็นสมาชิก รวมทั้งต้องออกอากาศความคมชัดของภาพตามมาตรฐานทีวีดิจิตอล เช่น ช่องเอชดี ก็ต้องออกอากาศเป็นระบบเอชดี เป็นต้น ส่วนเรื่อง ราคาคูปองนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ด กทปส.

พ.อ.นทีกล่าวย้ำว่า สาเหตุที่ต้องแจกคูปองสำหรับทีวีดาวเทียมนั้น ปัจจุบันคนไทยรับชมทีวีผ่านระบบดาวเทียมและเคเบิลกว่า 66% ผ่านสายอากาศและเสาก้างปลา 34% เพราะในอดีตการรับชมเสาก้างปลาไม่ชัด ทำให้ประชาชนหันไปติดตั้งจานดาวเทียม แต่เมื่อเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นดิจิตอลแล้ว ระบบภาคพื้นดินรับชมผ่านสายอากาศ เสาก้างปลา จะมีความคมชัด และมีเสถียรภาพมากกว่าระบบจานดาวเทียม ที่สัญญาณอาจขาดช่วงในช่วงที่ฝนตกหนัก พายุลมแรง ดังนั้นก็ต้องคำนึงถึงประชาชนที่ติดตั้งจานดาวเทียมด้วย เพื่อให้ได้รับชมทีวีดิจิตอลในลักษณะเดียวกันกับกล่องดิจิตอลด้วย ขณะที่ผู้ประกอบการทีวี 24 ช่อง ก็จะมีผู้ชมมากขึ้นตามไปด้วย

ด้านนายอมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ “AJ” ผู้จำหน่าย อุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอลรายใหญ่ กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการอยากให้บอร์ด กสทช.ตัดสินความชัดเจนเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะผู้ประกอบการได้เตรียม การลงทุนมานานและพร้อมจำหน่ายทางทุกช่องทางจำหน่าย แต่ทางผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังรอคูปองเพื่อนำมาซื้อกล่องเซตท็อปบ็อกซ์ไม่เช่นนั้นจะกระทบถึงความเชื่อมั่นของ กสทช.เองด้วย อีกทั้งทางเอกชนผู้ประมูลดิจิตอลทีวีที่มีการลงทุนและแพร่ภาพตลอด 24 ชั่วโมงไปแล้วก็ไม่สามารถขยายตลาดได้ ไม่มีเรตตติ้งเพื่ออ้างอิงการขายโฆษณาได้ ยิ่งปล่อยนานไปจะยิ่งได้รับผลกระทบหนัก

นอกจากนี้ ประเด็นการพิจารณาคูปองสำหรับอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดาวเทียมด้วยนั้น ตนไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ กสทช.ได้เปิดประมูลทีวีดิจิตอล และมีเอกชนไปประมูลซึ่งล้วนแต่เป็นช่องพื้นฐานฟรีทีวี เจตนารมณ์ของกสทช.กับการออกคูปองเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมาชมทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น แต่เมื่อประชาชนนำคูปองไปซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมได้ด้วยมองว่าเป็นการผิดเจตนารมณ์ดังกล่าวและเท่ากับว่าเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนชมทีวีคู่แข่งของทีวีดิจิตอลด้วย

“สำหรับราคาคูปองทีวีดิจิตอลที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันเท่าไรนั้น ตนมองว่าหากสรุปได้ในราคา 1,200 บาท น่าจะเป็นผลดีต่อประชาชน ตนในฐานะผู้ประกอบการรายใหญ่ยินดีที่จะลดราคากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลพร้อมเสารับสัญญาณซึ่งปัจจุบันจำหน่ายในราคา 1,390 บาท ลดเหลือเท่ากับราคาคูปอง โดยประชาชนไม่ต้องควักกระเป๋าเพิ่มแต่อย่างใด”.
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:53:46


ความคิดเห็นที่ 6 (3670626)
ปธ.กสท.แจงเคเบิลทีวี-ดาวเทียมกำลังกลับสู่ภาวะปกติ     ปธ.กสท.ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ ระบุ ฟรีทีวีอะนาล็อก-ดิจิตอล มีการแพร่ภาพตามปกติทุกช่องทางเช่นเดิม ทีวีดาวเทียมและเคเบิลกว่า 75% มีการออกอากาศแล้ว เหลืออีกประมาณ 25% รอพิจารณา แนะช่วงนี้ทุกช่องต้องระวังในการเผยแพร่ข่าวสาร...

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2557 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท.ได้ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ ‏@DrNateeDigital เรื่องการปิดช่องเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ภายหลังการยึดอำนาจโดยคณะ คสช.ว่า หลังการยึดอำนาจการปกครอง เมื่อ 22 พ.ค.57 คสช. ได้ระงับการเผยแพร่ออกอากาศของวิทยุ และโทรทัศน์ทุกประเภท ต่อมาได้มีการอนุญาตให้โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบอะนาล็อกเดิม 6 ช่อง เผยแพร่ออกอากาศได้ตามปกติ เมื่อ 23 พ.ค. 57 ต่อมาได้มีการอนุญาตให้โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบอะนาล็อกและระบบดิจิตอล สามารถออกอากาศได้ทุกช่องทางในวันถัดมา

นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี แบบบอกรับสมาชิก สามารถเผยแพร่ได้ตามปกติในโครงข่ายบอกรับสมาชิก กสท. ได้พิจารณาช่องทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี แบบบอกรับสมาชิกแล้วมากกว่า 350 ช่อง ให้สามารถเผยแพร่ได้ตามปกติ ยังมีอีกประมาณ 100 ช่องรายการ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณารายละเอียดการประกอบกิจการโดยเฉพาะข้อร้องเรียนต่างๆ

ดังนั้น ภาพรวมของกิจการโทรทัศน์ส่วนใหญ่คือฟรีทีวีอะนาล็อก และดิจิตอล ได้มีการแพร่ภาพตามปกติผ่านทุกช่องทางเช่นเดิม ทีวีดาวเทียมและเคเบิลกว่า 75% มีการออกอากาศแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ 25% อยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อความรอบคอบก่อนการอนุญาตออกอากาศ การดำเนินการในกิจการโทรทัศน์จึงได้กลับเข้าสู่สภาวะใกล้เคียงกับการดำเนินการปกติ ตั้งแต่ 2 วันหลังการยึดอำนาจการปกครอง

ทั้งนี้ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ละเอียดอ่อนภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกรายจะต้องระมัดระวัง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ และไม่กระทบกระเทือนต่อส่วนรวม โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันครับ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:55:41


ความคิดเห็นที่ 7 (3670627)

สื่อดิจิตอล ค้าน! ใช้คูปองแลกซื้อกล่องดาวเทียม-เคเบิล

    อุปนายกสมาคม สมาคมสื่อดิจิตอลเพื่อผู้บริโภค คัดค้านการใช้คูปองสนับสนุนการรับชมทีวีดิจิตอลแลกซื้อกล่องดาวเทียม และเคเบิลได้ด้วย ชี้เพิ่มภาระค่าติดตั้งให้ผู้บริโภค และเป็นคุมกำเนิดทีวีดิจิตอล...

นายวิศรุต ปิยกุละวัฒน์ อุปนายกสมาคม สมาคมสื่อดิจิตอลเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า การแจกคูปองสนับสนุนการรับชมทีวีดิจิตอลมูลค่า 1,000 บาท ให้แลกกล่องดาวเทียม และเคเบิลได้ด้วยนั้น จะขัดกับหลักการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน เพราะไม่มีประเทศใดในโลกดำเนินการเช่นนี้ และการติดตั้งกล่องดาวเทียมจะต้องจ่ายเงินค่าติดตั้งเพิ่มอีกหลายพันบาท ซึ่งเป็นภาระกับประชาชน และยังไม่จูงใจประชาชนจากที่รับชมทีวีในระบบอะนาล็อกเดิมด้วย

อุปนายกสมาคม สมาคมสื่อดิจิตอลเพื่อผู้บริโภค กล่าวต่อว่า การแลกกล่องระบบดาวเทียม และเคเบิล ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ติดตั้งระบบดังกล่าวเอาคูปองไปแลกกล่องใหม่ เท่ากับว่าไม่ได้สนับสนุนการเพิ่มจำนวนคนดูในระบบดิจิตอลให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ที่ประมูลไป เพราะไม่ได้คนดูเพิ่ม เนื่องจากเป็นคนดูกลุ่มเดิม นอกจากนี้ ทีวีชุมชนออกอากาศได้ในระบบดิจิตอลเท่านั้น ไม่ได้ออกอากาศในระบบดาวเทียม ทำให้คนที่่ติดตั้งไม่สามารถรับชมได้ จึงเท่ากับว่าเป็นการคุมกำเนิดทีวีชุมชน และเป็นการคุมกำเนิดทีวีดิจิตอล เพราะไม่ได้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริง

ด้าน นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ช่องข่าว หมายเลข 22 โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @adisaklive ระบุว่า หากยังดึงดันแจกคูปองกล่องทุกประเภท จะทำให้กลุ่มผู้บริโภคยื่นฟ้องศาลปกครองในประเด็นผิดเจตนารมณ์ให้ดูได้ 48 ช่อง รวมทีวีชุมชนได้ด้วยจะยิ่งช้า และการนำคูปองไปแลกกล่องดาวเทียมจะทำให้ผู้ผลิตกล่องดาวเทียมได้ประโยชน์ โดยมีลูกค้าแน่นอน ไม่ต้องลงทุนแพลตฟอร์มและทีวีดาวเทียมขายโฆษณาได้เพิ่ม

นอกจากนี้ บริษัทที่ประมูลทีวีดิจิตอลแพง 5 หมื่นล้าน แล้วคูปองแลกกล่องดาวเทียมได้จะเสียเปรียบมากๆ กับทีวีดาวเทียมแบบเพย์ทีวีที่ไม่ได้ประมูลมีกล่องรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมีทีวีดิิจิตอลอีกหลายช่องที่ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนตัวไม่ขัดข้องหากจะใช้คูปองแลกกล่องดาวเทียมถ้ามีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมจากแค่เรียง 1-36 และกล่องเป็นของผู้บริโภค เช่น จำกัดจำนวนช่อง และห้ามใส่โปรแกรม.
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 07:58:21


ความคิดเห็นที่ 8 (3670630)
จิสด้าใช้ดาวเทียมตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าว-วางแผนใช้น้ำตลอดปี

วันที่ 9 มิถุนายน นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (จิสด้า) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) เปิดเผยว่า เพื่อติดตามสถานการณ์ การใช้น้ำสำหรับการทำการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปรัง และข้าวนาปี เพื่อการวางแผนการใช้น้ำตลอดทั้งปี การคาดการราคาข้าว และคาดการณ์สถานการณ์การใช้น้ำตลอดทั้งปี จิสด้า ได้ ใช้ข้อมูลดาวเทียม MODIS จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(นาซา) เพื่อติดตาม สถานการณ์การปลูกข้าวทั้งนาปรัง และข้าวนาปี ข้อมูลดังกล่าว สามารถติดตาม และตรวจสอบได้ทุก 2 สัปดาห์  มีพื้นที่เป้าหมายคือ ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ตาก นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา พิจิตร พิษณุโลก ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุตรดิตถ์ โดยมีการซ้อนกับข้อมูลพื้นที่ชลประทาน (กรมชลประทาน) ที่ได้มีการประกาศพื้นที่ปล่อยน้ำและงดปล่อยน้ำ 

"ข้อมูลดาวเทียม เพื่อติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวนาปรัง และข้าวนา ปี  นั้น โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://rice.gistda.or.th/ricefield ระบบดังกล่าว มีการทำงานคือ แสดงพื้นที่ปลูกข้าวจากข้อมูลดาวเทียมแยกตามช่วงเวลา ทุก 2 สัปดาห์ โดยแยกพื้นที่ตามวันที่เริ่มเพาะปลูกและวันที่จะเก็บเกี่ยว แสดงพื้นที่ชลประทาน ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ พื้นที่ปลูกข้าวราย 2 สัปดาห์ได้ สามารถดาวน์โหลดแผนที่ข้าวนาปรังรายจังหวัด (PDF) ได้ สามารถดาวน์โหลดรายงานสรุปสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวปัจจุบัน  ได้ โดยแยกตามจังหวัดและพื้นที่ชลประทาน และ สามารถติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2556-2557 ได้ นอกจากนี้ จิสด้า มีแผนการดำเนินงานในการใช้ข้อมูลดาวเทียมเพื่อติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกข้าว ปี 2557/58 ของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทำให้มีข้อมูลจากการประเมินพื้นที่เพาะปลูกและคาดการณ์ผลผลิตข้าวของประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย"

ถามว่า ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมดังกล่าว มีความแม่นยำมากแค่ไหน ผู้อำนวยการจิสด้า กล่าวว่า มีความถูกต้องแม่นยำ 80% ขึ้นไป สำหรับพื้นที่ที่ปลูกข้าวสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตาม เคยมีการตรวจสอบพบว่า บางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูก เช่น ที่ จ.บึงกาฬ ที่เปลี่ยนจากการปลูกข้าว เป็นปลูกยางพารา ซึ่งเมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วเห็นเป็นพื้นที่สีเขียวเหมือนกัน จึงอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวโดยการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเป็นวิธีการตรวจสอบเพื่อเตรียมการรับสถานการณ์ต่างๆนั้น สะดวก รวดเร็วกว่าการตรวจสอบโดยการเดินเท้าตรวจสอบเหมือนในสมัยก่อน เพราะวิธีการแต่เดิมนั้นอาจจะทำให้การคาดการณ์ต่างๆทำไม่ทันการณ์ เพื่อให้เกิดความแม่นยำมากที่สุด ในอนาคต จะต้องมีการผนวกกันระหว่างข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม และการตรวจสอบโดยการเดินเท้าภาคสนามควบคู่กันไป
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:02:12


ความคิดเห็นที่ 9 (3670633)
บริษัทไอทีสหรัฐฯ กล่าวหา “กองทัพจีน” แฮกระบบคอมพ์ต่างชาติ-ล้วงข้อมูลไปใช้ในโครงการอวกาศ

รอยเตอร์ - บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ในสหรัฐฯ เผยรายงานวานนี้ (9) ว่า หน่วยงานของกองทัพจีนโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลต่างชาติอย่างกว้างขวาง เพื่อเจาะข้อมูลไปใช้พัฒนาระบบดาวเทียมและโครงการด้านอวกาศของแดนมังกร
       
       บริษัท คราวด์สไตรค์ (CrowdStrike) อ้างว่า หน่วย 61486 สังกัดสำนักงานที่ 12 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ได้โจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลชาติตะวันตก ตลอดจนบริษัทคู่สัญญากลาโหม ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา
       
       การเจาะระบบดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่หน่วยงานด้านอวกาศและการสื่อสารของสหรัฐฯ รวมถึง “โปรแกรมเพิ่มผลผลิตยอดนิยมอย่าง Adobe Reader และ Microsoft Office เพื่อส่งมัลแวร์เข้าไปโจมตีทางอีเมล์” คราวด์สไตรค์ เผย
       
       ทั้งนี้ เมื่อไม่ถึง 3 สัปดาห์ก่อน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่งจะประกาศตั้งข้อหาทหารจีน 5 นายที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยความลับทางการค้า
       
       คราวด์สไตรค์ระบุว่า บริษัทกำลังจะเผยแพร่รายงานซึ่งได้ส่งไปแจ้งเตือนลูกค้าก่อนหน้านี้แล้วว่า ปฏิบัติการเจาะข้อมูลของกองทัพจีนอาจรุนแรงและกว้างขวางกว่าที่หลายคนคาดคิด
       
       “หลังจากที่จีนออกมาแก้ตัวเหมือนเช่นทุกครั้งว่าข้อกล่าวหาพวกนี้เป็นเรื่องกุขึ้น เราจึงคิดว่าควรจะเปิดเผยข้อมูลบางอย่างที่ทางการจีนปฏิเสธไม่ได้” ดมิตรี อัลเปโรวิตช์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง คราวด์สไตรค์ ให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่าบริษัทได้แจ้งให้หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯทราบล่วงหน้าแล้ว ก่อนจะเผยแพร่รายงาน
       
       คราวด์สไตรค์อ้างถึงบุคคลที่ชื่อ เฉิน ปิง ซึ่งเป็นผู้ลงทะเบียนชื่อเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการเจาะข้อมูล บล็อกส่วนตัวของชายผู้นี้ระบุว่า เขาอายุ 35 ปี และประกอบอาชีพทหาร
       
       อีเมลของ เฉิน เชื่อมโยงทั้งกับประวัติส่วนตัว, บล็อก และการโพสต์ข้อความในกระดานสนทนาต่างๆ และในบรรดาข้อมูลที่เขาโพสต์ยังมีอัลบั้มรูปที่ใช้ชื่อว่า “Office” ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพอาคารหลังหนึ่งที่ คราวด์สไตรค์ สามารถระบุได้ว่า เป็นศูนย์บัญชาการหน่วย 61486 ในนครเซี่ยงไฮ้
       
       ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถติดต่อโฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และ เฉิน เพื่อขอสัมภาษณ์ได้
       
       คราวด์สไตรค์ ก่อตั้งโดยอดีตผู้บริหารอาวุโสของบริษัทพัฒนาระบบป้องกันไวรัสแมคอาฟี (McAfee) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของค่ายอินเทล
       
       รายงานล่าสุดนี้คาดว่าจะยิ่งโหมกระพือความขัดแย้งด้านความมั่นคงไซเบอร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนซึ่งเป็นสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จีนก็ได้ออกมาแถลงตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนต่อการที่สหรัฐฯ ตั้งข้อหา 5 นายทหารจีน และยังกล่าวหาว่าวอชิงตันพยายามปล้นความลับทางทหารและการเมืองของจีนด้วย
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:04:38


ความคิดเห็นที่ 10 (3670634)

 อาร์เอสตั้งฉก.จับลิขสิทธิ์บอลโลก ขู่เว็บ-ทีวีดาวเทียมอย่าริฉกสัญญาณ

“อาร์เอส”ตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจจับพวกละเมิดลิขสิทธิ์บอลโลก จับตา 37 เว็บไซต์ เปิดถ่ายสดดูบอล เจอจับแน่ พร้อมประสานปิดเว็บ ส่วนทีวีดาวเทียม ก็ห้าม เตือนผู้ประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร เธค ผับ บาร์เบียร์ ต้องขออนุญาตใช้สิทธิให้ถูกต้อง ส่วนร้านข้าวริมทาง ส้มตำ ปล่อย ไม่ยุ่ง

นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานกฎหมายและปราบปราม บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด หรือทีซีซี ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจประกอบด้วยทีมทนายความและทีมปราบปรามจำนวนกว่า 300 คน กระจายลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบการใช้งานลิขสิทธิ์การแพร่เสียงแพร่ภาพรายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลกที่บราซิล ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.-13 ก.ค.2557 เพื่อป้องกันปัญหาการนำการถ่ายทอดสดฟุตบอลไปใช้ประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้อง

ทั้งนี้ ทีซีซีกำลังจับตาเว็บไซต์ที่ปกติได้ถ่ายทอดสดฟุตบอลของลีกต่างๆ ในต่างประเทศ และมีแนวโน้มว่าจะมีการดึงสัญญาณการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกไปเผยแพร่ ซึ่งมีประมาณ 37 เว็บไซต์ โดยให้จับตาอย่างใกล้ชิด และหากพบว่ามีการดึงสัญญาณไปถ่ายทอดสดจริง ก็จะตำรวจการจับกุมในทันที และประสานไปยังตำรวจและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อปิดเว็บไซต์ด้วย ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน

สำหรับทีวีดาวเทียม ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่มีความเสี่ยงที่จะดึงสัญญาณไปใช้ ซึ่งได้จับตาเช่นเดียวกัน เพราะทีซีซีไม่ได้อนุญาตให้ทีวีดาวเทียมนำโปรแกรมการถ่ายทอดสดไปใช้ ซึ่งหากตรวจสอบพบก็จะมีการดำเนินการจับกุมเช่นเดียวกัน โดยหากจับกุมได้จะมีโทษตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสุทธิศักดิ์กล่าวว่า ทีซีซีขอเตือนไปยังองค์กรธุรกิจ หน่วยงาน หรือสถานประกอบการต่างๆ ร้านอาหาร สวนอาหาร ศูนย์จำหน่ายอาหาร ร้านคาราโอเกะ ภัตตาการ เธค ผับ บาร์เบียร์ โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ ศูนย์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า คลับเฮาส์ และบริเวณสถานที่กลางแจ้งของร้านอาหาร สวนอาหาร สถานบันเทิง ที่ประสงค์จะนำงานอันมีลิขสิทธิ์ในงานแพร่เสียงแพร่ภาพดังกล่าวออกไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าในรูปแบบการนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชน หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมใดๆ เพื่อประโยชน์ทางการค้า ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง

“ตอนนี้ มีผู้ประกอบการในส่วนต่างๆ ติดต่อขอใช้สิทธิ์แล้วประมาณ 1 หมื่นราย ส่วนใครที่ยังไม่ขออนุญาตให้ถูกต้อง ก็ให้รีบติดต่อ เพราะใกล้จะเปิดการแข่งขันแล้ว ถ้าไม่ขอแล้วนำไปใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรม on ground ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงการจัดงานกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ โดยมีเจตนาแอบแฝงหรือซ่อนเร้นในการนำผลงานอันมีลิขสิทธิ์ไปเอื้อประโยชน์ ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้มีการขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องทำการแสดงหนังสือไว้ในที่เปิดเผย และง่ายต่อการตรวจสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้การตรวจสอบเข้าไปทำการรบกวนเวลาชมหรือรับประทานอาหารของลูกค้าในสถานประกอบการ ส่วนร้านค้ารายย่อย เช่น ร้านอาหารริมทาง ร้านส้มตำ ที่เปิดให้ลูกค้าดูการแข่งขันฟุตบอล ที่ไม่ใช่การจัดทำเพื่อการค้า ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ จะไม่มีการเข้าไปจับกุม

 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:06:28


ความคิดเห็นที่ 11 (3670636)
"นที" ทวีต แจงคูปองแลกกล่องดาวเทียม-เคเบิล



ประธาน กสท. โพสต์ทวิตเตอร์ แจงการใช้คูปองแลกกล่องดาวเทียมและเคเบิล ชี้เป็นผลดีต่อประชาชนในการรับชมทีวีดิจิตอล หากโครงข่ายติดตั้งล่าช้า...

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2557 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @DrNateeDigital ว่า "มีบางท่านถามว่า ทำไมคูปองส่วนลดเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่โทรทัศน์ระบบดิจิตอล จึงสามารถใช้ซื้อกล่องดาวเทียม/เคเบิลได้ กสท./กสทช.ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ในการกำหนดแนวนโยบายการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิตอลโดยรอบคอบ

ทั้งนี้ ประสบการณ์จากหลายประเทศ อุปสรรคสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิตอล มักเกิดจากการขยายโครงข่ายภาคพื้นดินล่าช้า เกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุประการหนึ่ง ก็คือ ความล่าช้าของระบบดิจิตอลย่อมเกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอะนาล็อกเดิม

แม้ว่าประเทศไทย ผู้ประกอบกิจการอะนาล็อกรายเดิม สนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้อย่างเต็มความสามารถในทุกขั้นตอน แต่ต้องระมัดระวังว่า ผู้ประกอบกิจการบริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิตอลทุกโครงข่าย เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์อะนาล็อกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผู้ประกอบกิจการบริการโครงข่ายบางราย เป็นหน่วยงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ อาจเกิดความล่าช้าจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้น การสนับสนุนระบบดาวเทียม/เคเบิล ให้เป็นอีกทางเลือก ก็เป็นการลดความเสี่ยงของผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลทุกรายด้วย

แม้ว่าในกรณีที่เกิดปัญหาการขยายโครงข่ายภาคพื้นดินล่าช้า แต่ประชาชนก็ยังสามารถรับชมโทรทัศน์ระบบดิจิตอลผ่านช่องทางอื่น ถ้าการขยายโครงข่ายภาคพื้นดินเกิดความล่าช้า ปชช. แลกกล่องดาวเทียม จะไม่เกิดผลดีต่อผู้ให้บริการโครงข่ายดิจิตอลภาคพื้นดิน การกำหนดให้ ปชช. สามารถนำคูปองไปแลกอุปกรณ์ที่หลากหลาย ย่อมทำให้เกิดอำนาจต่อรอง เป็นผลดีต่อการเปลี่ยนผ่าน ครับ".
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:08:28


ความคิดเห็นที่ 12 (3670638)
ป.คุมนักจัดรายการ “เอเชียอัพเดท” ส่งศาลทหาร

กองปราบปรามควบคุมตัวนักจัดรายการสถานีดาวเทียมช่องเอเชียอัพเดท เคลื่อนไหวต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งตัวไปยังศาลทหารกรุงเทพ พร้อมขออำนาจศาลฝากขัง 12 วัน

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.20 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน บก.ป. และเจ้าหน้าที่ทหาร ควบคุมตัว นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ ประธานสมาพันธ์ประชาชนรักประชาธิปไตย 20 จังหวัดภาคอีสาน และนายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ นักจัดรายการสถานีดาวเทียมช่องเอเชียอัพเดท ที่เคลื่อนไหวต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งตัวไปยังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขออำนาจฝากขังเป็นเวลา 12 วัน หลังจากกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป.จนครบกำหนด 7 วันตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำคำร้องมายังพนักงานสอบสวน บก.ป.ให้ดำเนินคดีต่อนายเยี่ยมยอด ตามความผิดฐานขัดคำสั่ง คสช.ที่ 14/2557 โดยไม่เข้ามารายงานตัวตามกำหนด มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่นายชัยนรินทร์ดำเนินการตามความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ คสช.ฉบับที่ 7/2557 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก มาตรา 8 และ 11 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงมีผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.ถูกกักตัวไว้ที่ บก.ป.รวม 31 ราย โดยทางทหารได้ทยอยสอบปากคำแต่ละราย ก่อนจะพิจาณาว่าจะดำเนินคดีหรือปล่อยตัว โดยการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับทางทหารที่จะใช้ดุลพินิจก่อนทำหนังสือมายังพนักงานสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ดี ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีบรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่ถูกคุมตัวเดินทางมาให้กำลังใจเป็นระยะ

มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงซึ่งถูกทหารควบคุมตัวจากพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อปรับทัศนคติ เนื่องจากก่อนหน้านี้นายสมบัติมีพฤติการณ์ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบผ่านทางเฟซบุ๊ก เป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โดยจะพิจารณาส่งตัวมากักไว้ที่ห้องขัง บก.ป.ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ก่อนจะมีการพิจารณาจากทางทหารว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดหรือไม่
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:10:14


ความคิดเห็นที่ 13 (3670641)
เรียกทีวีดาวเทียม 100 ช่องตรวจผังรายการ 11 มิ.ย. เอเอสทีวีปรับแนวไม่วิเคราะห์การเมือง

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 มิ.ย. ได้เชิญผู้ประกอบการดาวเทียม เคเบิลทีวี จำนวน 100 ช่อง ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เข้ามาชี้แจงสถานะของตัวเอง โดยให้เตรียมเทปออกอากาศย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. พร้อมเอกสารหลักฐานการยืนยันการโฆษณาหรือเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนช่องรายการใดที่ไม่ได้การโฆษณาผิดกฎหมายใด เป็นแต่เพียงช่องหนัง หรือช่องเพลง ก็ขอให้ร้องเรียนได้เพื่อขอคืนสิทธิ์ออกอากาศ

ทั้งนี้ หลังจากตรวจเทปและผังรายการแล้ว จะนำข้อมูลเข้าสู่ที่ประชุมของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาเพื่อส่งต่อให้ที่ประชุมกสท. อนุมัติ ก่อนส่งไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหากได้รับอนุญาตแล้ว ห้ามกระทำผิดตามประกาศคสช. และกสท. ซึ่งหากกระทำผิดต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทันทีและไม่อุทธรณ์ได้

นอกจากนี้ ช่องเอเอสทีวีได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กสท. เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ปรับผังรายการใหม่โดยงดเว้นการวิเคราะห์วิจารณ์การเมือง และเน้นการนำเสนอรายงานข่าว การเล่า วิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ เน้นรายการสุขภาพและสังคม  

นายประเมนทร์ ภักดิ์วาปี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี กล่าวว่า  เอเอสทีวีได้ยื่นเอกสารปรับเนื้อหาและผังรายการใหม่ต่อคสช.และกสท. เพื่อให้พิจารณา โดยจะไม่นำเสนอเนื้อหาข่าวสารที่ขัดต่อประกาศคสช. เช่นเดียวกับช่องวอยซ์ ทีวี และช่อง ทีนิวส์
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:13:09


ความคิดเห็นที่ 14 (3670643)
ตั้งเป้าขยายพื้นที่ศึกษาผ่าน "ดาวเทียม" 3,300 โรงเรียนทั่วไทย



กระทรวงศึกษาธิการ สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนร่วมเดินหน้าขยาย พท.รับสัญญาณศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในโรงเรียน 3,300 โรง หวังนักเรียนทันข่าวสารสถานการณ์สำคัญ...

นายศุภกร วงศ์ปราชญ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เป็นประธานการแถลงข่าว ความร่วมมือโครงการ "ไทยคมมอบอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อการศึกษา" โดยมอบแก่กระทรวงศึกษาธิการ สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน เมื่อวันอังคารที่ 10 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา

โดยนายศุภกร กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ร่วมกับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) มีนโยบายในการสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยเปิดโอกาสการเข้าถึงการสื่อสารอย่างเท่าเทียม โดยใช้ศักยภาพและความเชี่ยวชาญของบริษัท ดำเนินงานภายใต้โครงการสนับสนุนการศึกษา "ไทยคิด ไทยคม" โดยมอบจานรับสัญญาณดาวเทียม พร้อมกล่องและอุปกรณ์ แก่กองลูกเสือ และยุวกาชาดทั่วประเทศ เพื่อประกอบในการเรียนการสอน การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมโรงเรียนไกลกังวล และเพื่อการติดตามข้อมูลข่าวสารให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน



"ซึ่งโครงการนี้จะเป็นช่องทางหนึ่งในการพัฒนาการลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาดของสถานศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ ต่อไปนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนจานรับสัญญาณดาวเทียม พร้อมกล่องและอุปกรณ์ แก่สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งต่อให้กองลูกเสือ และหมู่ยุวกาชาด ของสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึก และการมีส่วนร่วม ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยผ่านกระบวนการลูกเสือ และยุวกาชาด และเพื่อร่วมมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมนวัตกรรมในส่งเสริมกิจการลูกเสือในสถานศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มโรงเรียนที่มีกองลูกเสือ หมู่ยุวกาชาดทั่วประเทศ ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาน จำนวน 3,300 โรงเรียน ชุดละ 3,752บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 12,382,722 บาท และติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 นี้อีกด้วย"

ดร.สกล กิตติวัชราพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานปฏิบัติการระบบภาคพื้นดิน บมจ.ไทยคม กล่าวว่า บริษัทมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อดำเนินโครงการ "ไทยคมมอบอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อการศึกษา" แก่กระทรวงศึกษาธิการ ไทยคมตระหนักดีถึงพันธสัญญาในการในการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างสังคมไทย บริษัทจึงดำเนินงานตามนโยบายการสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ในโครงการ "ไทยคมมอบอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อการศึกษา" ที่ริเริ่มบนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ประโยชน์ของโครงการนี้ไม่เพียงจะลดปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอน แต่ยังช่วยเปิดโลกทัศน์ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ด้วยการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เช่นหลักสูตรของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม อีกทั้งยังเป็นโครงการที่สามารถกระจายการส่งมอบเทคโนโลยี และอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมต่อไปยังเยาวชน และชุมชนทั่วประเทศอย่างทั่วถึงอีกกว่า 3,300 แห่งด้วย.
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:15:07


ความคิดเห็นที่ 15 (3670644)

Google เทเงินสด 500 ล้านดอลล์ซื้อบริษัทดาวเทียม Skybox

กูเกิล (Google) เจ้าพ่อธุรกิจออนไลน์ประกาศซื้อกิจการบริษัท “สกายบ็อกซ์ อิมเมจจิ้ง (Skybox Imaging Inc.)” ด้วยเงินสดมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท มั่นใจเทคโนโลยีภาพถ่ายผ่านดาวเทียมของ Skybox จะสามารถเสริมแกร่งบริการแผนที่ของกูเกิลได้ ขณะที่เทคโนโลยีดาวเทียมของ Skybox จะช่วยให้กูเกิลพัฒนาบริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลได้ก้าวกระโดด

กูเกิลประกาศการซื้อกิจการบริษัทดาวเทียม Skybox ไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าเทคโนโลยีของ Skybox จะทำให้กูเกิลมีภาพถ่ายทางอากาศที่ทันสมัยมาใช้ในบริการแผนที่ “กูเกิลแม็ปส์ (Google Maps)” แถมภาพยังมีความละเอียดสูงมากเพราะเทคโนโลยีของ Skybox ทำให้ดาวเทียมสามารถเก็บภาพถ่ายทางอากาศในระดับที่เหนือกว่าพื้นดินต่ำกว่า 1 เมตรลงไป

ไม่เพียงภาพ กูเกิลเชื่อว่าทีมงานและเทคโนโลยีของ Skybox ยังสามารถพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตไร้สาย ให้ผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลสามารถใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ได้อย่างเสรีกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ความสามารถของ Skybox ยังอาจนำมาประยุกต์ใช้เพื่อกระบวนการบรรเทาภัยพิบัติบนโลกได้ ซึ่งถือเป็นกลุ่มงานที่กูเกิลแสดงความสนใจมาตลอด

การซื้อ Skybox ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากกูเกิลพยายามเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจแผนที่และการขยายตลาดใหม่ด้วยการเปิดเสรีให้ผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมากูเกิลเดินหน้าในการทำโครงการอย่าง “โปรเจกต์ลูน (Project Loon)” และมีการทดสอบด้วยการส่งบอลลูนลอยฟ้าที่สามารถปล่อยสัญญาณไวไฟเพื่อให้ผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลได้ออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ของตัวเองตั้งแต่ปี 2013 ก่อนที่ช่วงเดือนเมษายน 2014 กูเกิลจะประกาศซื้อบริษัท “ไตตัน แอโรสเปซ (Titan Aerospace)” บริษัทผลิตเครื่องร่อนพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถบินค้างบนอากาศได้นานกว่า 5 ปีโดยไม่ต้องลงจอด ซึ่งช่วยให้ชาวโลกมีช่องทางเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม

การซื้อกิจการ Titan Aerospace ของกูเกิลในครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวลือว่า เจ้าพ่อเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ก็สนใจซื้อ Titan Aerospace เช่นกัน โดยก่อนที่กูเกิลจะประกาศการซื้อกิจการครั้งนี้ราว 1 เดือน สำนักข่าวออนไลน์ “เทคครันช์ (TechCrunch)” รายงานว่าเฟซบุ๊กเสนอซื้อกิจการ Titan Aerospace เพราะโครงการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่คนทั่วโลกที่เฟซบุ๊กเคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ ต่อมาสำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี (CNBC)” ก็ยืนยันข่าวนี้อีกครั้ง โดยบอกว่าได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกระบวนการเจรจาว่าจุดเด่นที่ทำให้เฟซบุ๊กสนใจซื้อกิจการ Titan Aerospace คือการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีเครื่องร่อนพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถทรงตัวบนอากาศได้ต่อเนื่องนานเกิน 5 ปี ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการนำไปเป็นสถานีสำหรับติดตั้งอุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ทุรกันดารที่การติดตั้งเสาสัญญาณเข้าไม่ถึง

สำหรับ Skybox นั้นเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่นำเทคโนโลยีดาวเทียมมาเก็บรวมข้อมูลเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการด้านสถาปัตยกรรม กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูล และกลุ่มประกันภัย ข้อมูลระบุว่า Skybox เขียนแผนธุรกิจเหล่านี้เมื่อปี 2009 ขณะนี้ Skybox มีบุคลากรราว 100 คนภายใต้การนำของซีอีโอ “Tom Ingersoll”

จุดนี้ซีอีโอ Skybox แถลงว่า การย้ายไปอยู่ใต้ชายคากูเกิลนั้นเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากกูเกิลสามารถท้าทายบริษัทให้คิดการใหญ่และสร้างประโยชน์ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่ากูเกิลจะสามารถสนับสนุน Skybox ให้สามารถเดินตามวิสัยทัศน์ของตัวเองได้ดีแน่นอน

ติดตามภาพจากเทคโนโลยีของ Skybox ได้จากด้านล่าง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:16:36


ความคิดเห็นที่ 16 (3670647)

ชาวบุรีรัมย์ชะลอซื้อกล่องรับสัญญาณบอลโลก ลุ้น คสช. ถกถ่ายทอดผ่านฟรีทีวี

บุรีรัมย์ - ร้านจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม จ.บุรีรัมย์เงียบเหงา ประชาชนชะลอการซื้อ เพื่อรอลุ้น คสช.หารือ กสทช. ถึงแนวทางให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทุกนัดผ่านช่องฟรีทีวีบ่ายวันนี้ ขณะผู้ประกอบการโอดหวั่นกล่องรับสัญญาณ RS ที่สั่งมาสต็อกไว้ ขายไม่ได้ทำขาดทุน

วันนี้ ( 12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามร้านจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังรอลุ้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถึงแนวทางที่จะให้มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ผ่านช่องฟรีทีวี ว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร

จึงได้ชะลอการซื้อกล่องรับสัญญาณ เพราะหากผลการหารือสามารถถ่ายทอดสดผ่านช่องฟรีทีวีได้ทุกนัดของการแข่งขันจริง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องรับสัญญาณของ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ชนะคดี กสทช. เกี่ยวกับปัญหาการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ประกอบกับกล่องรับสัญญาณดังกล่าวมีราคาสูงถึงกล่องละ 1,590 บาท ต่างจากกล่องรับสัญญาณดาวเทียมทั่วไป ราคาอยู่ที่ประมาณ 600 - 700 บาท

นายประเทือง มั่นธรรมมงคล เจ้าของร้านจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับกรณีที่ คสช.จะหารือกับ กสทช.เพื่อหาแนวทางให้มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่จะเริ่มขึ้นในคืนนี้แล้ว (12 มิ.ย.) เพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน

แต่อย่างไรก็ตามอยากให้เล็งเห็นถึงผลกระทบของผู้ประกอบการด้วย เพราะขณะนี้ได้มีการสั่งกล่องรับสัญญาณมาสต็อกไว้จำหน่ายมากกว่า 200 กล่อง ขายไปแล้วเพียงประมาณกว่า10 กล่อง ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบว่าจะขายได้หรือไม่ เพราะหากผลการเจรจาออกมาว่าสามารถถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีได้ทุกนัดจริง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ผู้ประกอบการต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

“ จึงอยากให้ทาง คสช.ได้หาทางออกให้มีจุดกึ่งกลางเกิดประโยชน์ทั้งกับประชาชน และผู้ประกอบการ โดยหากถ่ายทอดจริงก็ไม่ควรจะถ่ายทอดครบทุกนัดของการแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้จำหน่ายกล่องที่มีอยู่ในสต็อก หรืออาจมีการชดเชยค่าเสียหายให้อย่างใดอย่างหนึ่ง” นายประเทือง กล่าว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:18:12


ความคิดเห็นที่ 17 (3670650)

 "สุภิญญา"ทวิตปมคืนสิทธิ์ทีวีดาวเทียมพิจารณาจันทร์นี้     เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กิจการประจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ ถึงความคืบหน้าของโทรทัศน์ดาวเทียมที่ยังไม่สามารถออกอากาศได้ว่า กรณีการคืนสิทธิ์ให้โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่ไม่มีปัญหาทางกฎหมาย ได้ทำวาระเสนอประธาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) แล้ว จะมีการพิจารณาในวันจันทร์นี้ รวมทั้งจดหมายร้องเรียนของทั้ง บลูสกายแชนแนล และ เอสเอทีวี ก็ได้ทำวาระเสนอไปแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:20:28


ความคิดเห็นที่ 18 (3670652)
ญี่ปุ่นเตรียมปล่อยดาวเทียม 2 ดวง “จับตา” โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ฟูกูชิมะ - เชอร์โนบิล” 

สภาพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "ฟูกูชิมะไดอิจิ" ของญี่ปุ่น หลังได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง และคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 
 
 
       เอเอฟพี - ทางการแดนอาทิตย์อุทัยเผยว่า รัสเซียจะส่งดาวเทียม 2 ดวงของญี่ปุ่นขึ้นสู่วงโคจรในช่วงค่ำวันนี้ (19 มิ.ย.) เพื่อเฝ้าระวังตรวจตราความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม ใกล้โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล และโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะอันชำรุดทรุดโทรม 
       
       จรวด “เนปเปอร์” (Dnepr) ซึ่งผลิตโดยยูเครนจะนำดาวเทียม 33 ดวง ซึ่งรวมถึงดาวเทียมญี่ปุ่นทั้งสองดวง จะทะยานขึ้นจากศูนย์อวกาศในแถบเทือกเขาอูราลในเวลา 19.11 น. ตามเวลาโลก (ตรงกับ 02.11 น. ในเมืองไทย)

 
  มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นผู้พัฒนาดาวเทียมทั้ง 2 ดวง ที่มีชื่อว่า โฮโดโยชิ-3 และโฮโดโยชิ-4 ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงนักคือ 300 ล้านเยน (ราว 96 ล้านบาท) ต่อดวง
       
       ชินอิจิ นากาสุกะ หัวหน้าโครงการ ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐบาลญี่ปุ่นแห่งนี้กล่าวว่า “ดาวเทียมทั้งสองดวงมีภารกิจที่ต้องทำมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือการเฝ้าระวังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่ง”
       
       ตามแผนการที่วางไว้ ดาวเทียมทั้งสองดวงจะเก็บภาพโรงฟ้า 2 แห่งและพื้นที่โดยรอบ ตลอดจนข้อมูลที่ได้รับเป็นประจำ เป็นต้นว่า ระดับกัมมันตภาพรังสี จากอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ใกล้โรงไฟฟ้า 2 แห่งนี้
       
       นากาสุกะกล่าวว่า “ผมหวังว่า ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ญี่ปุ่นและยูเครนรับรู้ผลกระทบที่สิ่งแวดล้อมใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่งได้รับ อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง”
       
       เขากล่าวเสริมว่า ดาวเทียมทั้งสองดวงจะทำหน้าที่สอดส่องระดับน้ำในแม่น้ำทั่วโลก และส่งข้อมูลให้แก่ “22 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม ไทย และบังกลาเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่”
       
       การปล่อยดาวเทียมครั้งนี้ซึ่งวางแผนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เกิดขึ้นช้ากว่ากำหนด แต่นากาสุกะกล่าวว่า ความล่าช้าไม่ได้เป็นผลมาจากสถานการณ์ทางการเมืองในยูเครน
       
       เมื่อปี 1986 ได้เกิดอุบัติภัยนิวเคลียร์เชิงสันติครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลของยูเครน โดยเหตุระเบิดได้คร่าชีวิตประชาชนไป 30 คน และอีก 2,500 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอาการเจ็บป่วยที่สืบเนื่องมาจากการสัมผัสรังสี
       
       เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง และคลื่นยักษ์สึนามิได้ถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ส่งผลให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในจังหวัดฟูกูชิมะหลอมละลาย
       
       ทั้งนี้ คาดการณ์กันว่า ทางการแดนอาทิตย์อุทัยจะยังสั่งยกเลิกการดำเนินการทั้งหมดในโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ต่อไปอีกหลายทศวรรษ โดยยังคงมีการออกคำสั่งห้ามเข้าพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และบรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ชุมชนบางแห่งอาจมีสภาพรกร้าง เนื่องจากชาวบ้านพากันอพยพหนีภัยกัมมันตภาพรังสีที่ยังตกค้างอยู่ในระดับสูง
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2014-07-16 08:25:00



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.