บอร์ด กสท.ไฟเขียว 7 ช่องดาวเทียมออนแอร์ ASTV-บลูสกาย ได้ด้วย
มติ บอร์ด กสท.ให้ทีวีดาวเทียม 7 ช่อง รวม เอเอสทีวี-บลูสกายออนแอร์ โดยถือเป็นช่องที่ขออนุญาตใหม่ โดยใบอนุญาตเดิมถูกยุติถาวร เนื่องจากไม่มีการยกเลิกประกาศ คสช.ฉบับที่ 15 และต้องรับเงื่อนไขพิเศษในการกำกับดูแล...
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ในวันนี้ (27 ส.ค.) บอร์ด กสท. มีการพิจารณาวาระพิเศษเรื่องช่องโทรทัศน์ดาวเทียมที่ถูกระงับการออกอากาศ โดยประกาศของ คสช.ฉบับที่ 15/2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง คสช.ให้ กสทช.พิจารณาเพื่อให้กลับมาออกอากาศได้ โดยการขออนุญาตถือเป็นการขออนุญาตใหม่ ตามที่ คสช. อนุมัติให้นิติบุคคลรายเดิม มาขอรับใบอนุญาตใหม่ได้ ทำให้ใบอนุญาตเดิม หรือช่องรายการเดิมถูกยุติเป็นการถาวร เพราะไม่มีการยกเลิกประกาศฉบับที่ 15 แต่ประการใด ทำให้ต้องเป็นช่องรายการใหม่ และรับเงื่อนไขพิเศษที่กำหนดขึ้น เป็นข้อตกลงในการกำกับดูแลเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ บอร์ด กสท. ได้มีการพิจารณาอนุญาตให้ออกอากาศได้ 7 ช่อง คือ 1. Five Channel จากบริษัท เอซี เทเลวิชั่น จำกัด (เอ็มวี 5) 2. ฟ้าวันใหม่ จากบริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด 3. โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม บุญนิยม จากมูลนิธิบุญนิยม (เอฟเอ็มทีวี) 4. สถานี News1 จากบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด 5. People TV จากบริษัท พีแอนด์พี ชาแนล จำกัด 6. Peace TV จากบริษัท รวยทันที จำกัด (UDD) และ 7. 24 TV จาก เดโมเครซี นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (DNN)
ส่วนอีกช่องรายการที่เข้ามาเซ็น MOU แล้ว แต่ต้องรอทางสำนักงาน กสทช.ตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากมีการเปลี่ยนนิติบุคคล คือ บริษัท ดีเอ็นซี นิวส์ จำกัด ในชื่อช่อง DNC TV จากสถานีเอเชียอัปเดตเดิม รวมกับอีก 4 สถานีที่ยังไม่มีการเข้ามาเซ็น MOU คือ 1. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมโฟร์แชนแนล 2. สถานีดาวเทียมฮอตทีวี 3. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเรสคิ้ว และ 4. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ยังไม่สามารถออกอากาศได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนิติบุคคลได้ใบอนุญาตบริการโทรทัศน์ประเภทไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิกใหม่แล้ว จะมีระยะเวลา 1 ปี ที่สำคัญการกำกับดูแลสามารถข้ามขั้นตอนได้เลย เพราะมีเงื่อนไขที่อาจเพิกถอนใบอนุญาตได้ทันที โดยทางคณะกรรมการได้รับรองมติ และมีการทำรายงานไปยัง คสช. เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการต่างๆ
สำหรับเนื้อหาภายในบันทึกข้อตกลงส่วนใหญ่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เรื่องการให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของ คสช. และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 จึงทำบันทึกข้อตกลงกับสำนักงาน กสทช. โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
บริษัท ยินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ โดยจัดทำผังรายการไม่ให้มีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช.ฉบับดังกล่าว และเงื่อนไขการเป็นผู้รับใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังห้ามมิให้เชิญบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เป็นนักวิชาการ หรือผู้ที่เคยเป็นข้าราชการ รวมทั้งผู้ที่เคยปฏิบัติงานในศาล และกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนองค์กรอิสระ มาให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิด หรือขยายความขัดแย้ง บิดเบือน และสร้างความสับสนให้แก่สังคม รวมทั้งอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรง
สถานีมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้บุคคลดังกล่าว รวมทั้งบุคคลอื่นใดงดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะดังต่อไปนี้
(1) ข้อความอันเป็นเท็จ หรือที่ส่งไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
(2) ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งหมิ่นประมาทบุคคลอื่น
(3) การวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
(4) ข้อมูลเสียง ภาพ วีดิทัศน์ ความลับของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่างๆ
(5) ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร
(6) การชักชวน ซ่องสุมให้มีการรวมกลุ่มก่อการอันเกิดการต่อต้านเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(7) การขู่จะประทุษร้าย หรือทำร้ายบุคคล อันนำไปสู่ความตื่นตระหนก หวาดกลัวแก่ประชาชน
ในกรณีที่ ปรากฏว่า บริษัทฯ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ฝ่าฝืนไม่ฏิบัติตามข้อตกลง อาจจะถูกสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ โดยองค์กรวิชาชีพที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก และต้องปฏิบัติตามกฎหมายใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิก อย่างเคร่งครัด โดยข้อกำหนดในการหารายได้ของผู้รับใบอนุญาตจากโฆษณา และบริการธุรกิจตลอดทั้งวัน เฉลี่ยแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละห้านาที.