Home | CCTV | PPibox | Dynasat | PSI | GMM Z | SunBox | IPM | CTH | DTV | true | KU | เสาทีวี | IPTV | Multisat | C-BAND | เว็ปบอร์ด | เพิ่มจุด |
ข่าวจานดาวเทียม,ข่าวดาวเทียม june2013 | |
จีเอ็มเอ็ม แซท จัดหนักเจาะพรีเมียม ทุ่ม 150 ล้านผุดกล่อง GMM Z HD “จีเอ็มเอ็ม แซท” สบช่องคนไทยส่วนใหญ่ใช้ทีวี HD ทุ่มงบ 150 ล้านบาทเปิดตัว GMM Z HD ขึ้นแท่นขายกล่องทีวีดาวเทียมครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ดีเดย์วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ชูสโลแกน “แซ่บ ชัด ชัด” งัดกลยุทธ์สร้างการรับรู้และเสริมความเข้าใจ ดันลูกค้าเข้าถึงเกิดการตัดสินใจซื้อง่ายมาพร้อม 4 ช่องพิเศษที่ออนแอร์เฉพาะกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ยอดทะลุแสนกล่องนายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มงานแพลตฟอร์มบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพของการทำตลาดกล่องทีวีดาวเทียมระบบความคมชัดสูง (HD) เนื่องจากปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ใช้ทีวีระบบ HD มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ค่อยได้นำมาใช้เต็มศักยภาพศักยภาพ ทางบริษัทจึงมองเป็นโอกาสในการรุกตลาดเอชดีล่าสุดพร้อมใช้งบการตลาดกว่า 150 ล้านบาท สำหรับเปิดตัวกล่องทีวีดาวเทียมระบบ HD ภายใต้ชื่อ “GMM Z HD” (กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เอชดี) ภายใต้สโลแกน “แซ่บ ชัด ชัด” พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้จำหน่ายกล่องทีวีดาวเทียมครอบคลุมครบทุกกลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นบริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์มุ่งสื่อสารกับกลุ่มผู้ใช้ทีวี HD เพื่อสร้างการรับรู้และเสริมความเข้าใจว่า ทีวี HD ต้องใช้คู่กับกล่องทีวี HD ภาพถึงจะคมชัด มิฉะนั้นจะเป็นการใช้ศักยภาพของทีวี HD ไม่เต็มประสิทธิภาพ คาดว่าหลังจากสร้างการรับรู้และเสริมความเข้าใจเรื่องดังกล่าวแล้วจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้ามากขึ้น จะนำมาสู่การตัดสินใจซื้อกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เอชดี ได้ง่ายยิ่งขึ้น มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายกล่อง GMM Z HD ไม่ต่ำกว่า1 แสนกล่องอย่างไรก็ตาม กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เอชดี วางจำหน่ายในราคา 4,800 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำและร้านจำหน่ายจานดาวเทียมทั่วประเทศ พร้อมดูฟรี 1 ปีกับบริการเติมช่อง แซท เพย์ทีวี 8 ช่อง และ 3 ช่อง HD คือ ช่องหมายเลข 408 NAT GEO WILD HD สุดยอดสารคดีระดับโลก, ช่องหมายเลข 409 EURO SPORT HDกีฬาชั้นนำจากฝั่งยุโรป และช่องหมายเลข 410 GMM SPORT TWO HD ชมกีฬาสุดมันจาก edge channel และลีกฟุตบอลสุดมันบุนเดสลีกา (Bundesliga)จากปัจจุบันกล่อง GMM Z HD สามารถรับชมช่องทีวีดาวเทียมได้กว่า 220 ช่อง (C-Band) และกว่า 80 ช่อง (KU-Band) รวมถึงช่องทีวีดาวเทียมสุดฮิตจากแกรมมี่ และ 4 ช่องพิเศษที่ออกอากาศเฉพาะกล่องทีวีดาวเทียมจีเอ็มเอ็ม แซท ได้แก่ ช่องหมายเลข 17 GMM THEATRE, ช่องหมายเลข 18 NAT GEO WILD, ช่องหมายเลข 19 GMM SPORT EXTRA และช่องหมายเลข 20 FANOKE | |
ผู้ตั้งกระทู้ ช.การไฟฟ้า :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-14 11:16:33 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3311432) | |
ประมูล"ทีวีดิจิทัล" "เอชดี"เคาะสูงสุด10% จับตาบอร์ด กสท. เคาะราคาตั้งต้นประมูล "ทีวีดิจิทัล" ธุรกิจ 24 ช่อง วันนี้ ทีมจุฬาฯ เสนอตัวเลขมูลค่าคลื่นฯ ใหม่ ช่องเอชดีสูงสุดครั้งละ 10% การประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณา "ราคาตั้งต้น" การประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน (ทีวีดิจิทัล) ประเภทธุรกิจจำนวน 24 ช่อง โดยทีมที่ปรึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เสนอราคาประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ล่าสุด หลังจากที่ได้เสนอราคาประมูลครั้งแรกเมื่อต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (7 พ.ค.) บอร์ด กสท.จะพิจารณาผลการศึกษาประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ "ทีวีดิจิทัล" ประเภทธุรกิจ หลังจากเมื่อวันที่ 11 มี.ค. บอร์ด กสท.ให้ทีมจุฬาฯ กลับไปศึกษาใหม่ เพราะมีการเปลี่ยนสูตรการแบ่งช่องรายการ จากเดิมใช้สูตรจัดสรรช่อง 5-5-10-4 ประกอบด้วยช่องรายการความชัดมาตรฐาน (standard definition : SD) และ ช่องรายการความคมชัดสูง (high definition : HD) แบ่งเป็น ช่องเด็ก SD 5 ช่อง, ข่าว SD 5 ช่อง, วาไรตี้ SD 10 ช่อง และ เอชดี 4 ช่อง โดยบอร์ด กสท. เห็นชอบให้มีการจัดสรรประเภทช่องใหม่ด้วยสูตร 3-7-7-7 คือช่องเด็ก SD 3 ช่อง, ช่องข่าว SD 7 ช่อง, วาไรตี้ SD 7 ช่อง และ เอชดี 7 ช่อง พร้อมเพิ่มเงื่อนไขการศึกษาราคาตั้งต้นใหม่ ผู้ได้รับใบอนุญาตจะมีต้นทุนเพิ่มจากการเช่าโครงข่าย (Multiplexer : Mux) ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์ แคร์รี่ (Must Carry) ที่กำหนดให้ช่อง "ฟรีทีวีดิจิทัล" ต้องแพร่ภาพได้ทุกแพลตฟอร์มการรับชมของครัวเรือนไทยในปัจจุบัน ทั้งโทรทัศน์ระบบภาคพื้นดิน ทีวีดาวเทียม และ เคเบิลทีวี ทำให้การออกอากาศ "ทีวีดิจิทัล" จะมีต้นทุนจากค่าบริการโครงข่าย ทำหน้าที่ส่งสัญญาณทีวีดิจิทัลไปในทุกแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่าค่าโครงข่ายอยู่ที่ปีละ 40-50 ล้านบาทต่อช่อง แต่จากประกาศฯ มัสต์แคร์รี่ ทำให้ค่าบริการโครงข่ายอยู่ที่ปีละ 60 ล้านบาท เคาะราคาใหม่ 24 ช่องธุรกิจ หลังจากใช้เวลาการพิจารณาเกือบ 2 เดือน คณะที่ปรึกษาจุฬาฯ ได้เสนอราคาประมูลใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ราคาประเมินมูลค่าคลื่นความถี่และความสามารถของเอกชนในการจ่ายเงินค่าประมูล หลังจากหักต้นทุนต่างๆ รวมทั้งการคาดการณ์รายได้ในอนาคต 2.ราคาตั้งต้นประมูลที่มีการหักส่วนลดจากการคาดการณ์จำนวนผู้เข้าประมูล หากคาดว่ามีผู้เข้าประมูลจำนวนมาก ราคาตั้งต้นจะถูกลง เพื่อเป็นการจูงใจให้เข้าประมูลมากขึ้น และมีการแข่งขันกันเสนอราคามากขึ้น โดยคณะที่ปรึกษาจุฬาฯ เสนอผลศึกษาราคาประเมินคลื่นความถี่ครั้งล่าสุด "ถูกกว่า" การศึกษาครั้งแรกรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท หรือเดิมราคาประเมินรวม 24 ช่อง อยู่ที่ 20,700 ล้านบาท เหลือประมาณ 15,000 ล้านบาท สิ่งที่น่าสนใจคือ กสท. มีแนวคิดที่จะนำราคาประเมินมาเป็น "ราคาตั้งต้น" ประมูล 24 ช่องธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินประมูลที่จะได้รับไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน สำหรับมูลค่าราคาประเมิน "ทีวีดิจิทัล" ช่องเอชดี อยู่ที่ช่องละ 1,507 ล้านบาท ช่องวาไรตี้ SD ช่องละ 374 ล้านบาท ข่าว SD ช่องละ 211 ล้านบาท และช่องเด็ก SD ช่องละ 134 ล้านบาท ทั้งนี้ บางช่องถูกกว่าการประเมินครั้งแรก จากตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไป คือ มีจำนวนช่องให้ประมูลมากขึ้น เช่น ช่องเอชดีจากเดิม 5 เป็น 7 ช่อง ครั้งแรกประเมินไว้ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนการประเมินล่าสุดเมื่อมีต้นทุนค่าเช่าโครงข่ายเพิ่ม และจำนวนช่องมากขึ้น ราคาจึงอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อช่อง ส่วนช่องเด็กราคาเพิ่มขึ้น เพราะว่าจำนวนช่องจาก 5 ช่อง เหลือเพียง 3 ช่อง นอกจากการพิจารณาราคาตั้งต้นประมูลแล้ว บอร์ด กสท. วันนี้ (7 พ.ค.) จะพิจารณาวิธีการประมูลที่คณะอนุกรรมการพิจารณาวิธีการประมูลเสนอ ที่สำคัญ คือหากจำนวนผู้เข้าแข่งขันประมูลมีเท่ากับจำนวนใบอนุญาต กสท.จะสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาว่าจะประมูลต่อหรือไม่ หรือหยุดการประมูล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้อง ส่วนวิธีการเพิ่มเงินประมูลทีวีดิจิทัล กำหนดการเสนอเงินเพิ่มต่อครั้ง เป็นเปอร์เซ็นต์ตามราคาตั้งต้น แยกตามประเภท คือ ช่องเอชดี ประมูลเพิ่มครั้งละ10% ช่องวาไรตี้ SD 5% ช่องข่าว SD 2% และช่องเด็ก SD 1% ทั้งนี้ กสท.กำหนดกรอบเวลาการประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่องธุรกิจ ช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. นี้ ชี้ช่อง "เอชดี" ไม่เกินพันล้าน นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ราคาตั้งต้นประมูลทีวีดิจิทัล ประเภทช่องเอชดี ควรกำหนดราคาไม่เกิน 1,000 ล้านบาทต่อช่อง หากสูงกว่านี้ถือว่า "สูง" ไป เนื่องจากผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องแบกรับต้นทุนอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งค่าเช่าโครงข่าย ค่าผลิตรายการที่ไม่ต่างจากฟรีทีวีในปัจจุบัน และค่าธรรมเนียมต่างๆ อีกทั้งยังมีคู่แข่งขัน "ทีวีสาธารณะ" ประเภทความมั่นคงที่สามารถหารายได้จากโฆษณาเช่นเดียวกับทีวีธุรกิจ แต่ได้รับการจัดสรรคลื่นและใบอนุญาตฟรีไม่ต้องแข่งประมูลเหมือนช่องธุรกิจ ดังนั้นควรกำหนดหลักเกณฑ์การหารายได้จากโฆษณาของทีวีสาธารณะให้ชัดเจน ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรเพื่อเป็นปัจจัยสำคัญให้เอกชนที่จะประมูลทีวีธุรกิจ นำไปจัดทำแผนการประเมินคู่แข่ง และงบประมาณสำหรับการประมูล โดยมองว่าทีวีดิจิทัล ถือเป็นโอกาสที่ดีของ "คอนเทนท์ โปรวายเดอร์" และแกรมมี่ที่มีความพร้อม เพื่อโอกาสการเป็น "เจ้าของ" ช่องทีวี ที่มีฐานะเป็น "ฟรีทีวีดิจิทัล" มีเป้าหมายเข้าถึงครัวเรือนทั่วประเทศ โดยแกรมมี่วางแผนประมูล 3 ช่อง คือ เอชดี 1 ช่องและเอสดี 2 ช่อง ทั้งนี้เตรียมงบประมูลรวมการผลิตรายการไว้ราว 5,000 ล้านบาท ระบุโครงข่ายไม่ชัดเจน นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาตั้งต้นประมูลทีวีดิจิทัลที่ต่ำลงถือเป็นสิ่งที่ดี สะท้อนต้นทุนค่าโครงข่ายที่ค่อนข้างสูงเข้าไปพิจารณาเพิ่มเติมในการกำหนดราคา แต่ราคาของใบอนุญาตเพียงอย่างเดียวยังไม่ใช่ตัวแปรสำคัญสุดท้ายที่จะชี้ว่าการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ ยังมีปัจจัยการรับและการส่งสัญญาณยังไม่มีความชัดเจนพอ "เราจำเป็นต้องทราบว่ามีผู้ประกอบการรายใดบ้าง ที่จะเข้ามารับใบอนุญาตการให้บริการด้านโครงข่าย มีการคิดค่าบริการกับผู้รับใบอนุญาตบริหารความถี่อย่างไร รายละเอียดเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญ" นางพรพรรณ กล่าว อาร์เอส มีนโยบายจะเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัล 1-2 ช่อง ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของการวางแผนให้ภาคครัวเรือนไทยสามารถเข้าถึงทีวีดิจิทัลได้มากน้อยขนาดไหน ในระยะเวลาเท่าไร หากการเข้าถึงล่าช้า ก็จะทำให้ทีวีดิจิทัลไม่สามารถเป็นระบบหลักในการรับชมโทรทัศน์ของครัวเรือนไทยได้ ปัจจุบันการรับชมฟรีทีวีผ่านดาวเทียมและเคเบิลมีการเข้าถึง 80% ไปแล้ว หากระบบอื่นรวมทั้งทีวีดิจิทัลจะเข้ามาแทนที่ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ในสัดส่วนที่มากเท่า อีกทั้งยังมีทางเลือกในการรับชมด้วยจำนวนช่องที่น้อยกว่า จะทำให้ทีวีดิจิทัลอาจจะเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็ม แต่ไม่สามารถเป็นระบบหลักได้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช่าง ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:20:53 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3311433) | |
ดาวเทียมสังเกตการณ์เวียดนามดวงแรกเข้าสู่วงโคจรแล้ว ภาพที่เผยแพร่ในเว็บไซต์บริษัทอาริอานสเปซ ขณะดาวเทียมสังเกตการณ์พื้นโลกดวงแรก เข้าสู่วงโคจรในอวกาศตอนเช้าวันอังคาร 7 พ.ค.นี้ ดาวเทียมที่สามารถถ่ายภาพบนพื้นดินทีมีความคมชัดสูงจะช่วยให้เวียดนามสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก และสภาพแวดล้อม ช่วยป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งในการเฝ้าติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรณ์ในน่านน้ำและชายฝั่งทะเลความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร. . ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ดาวเทียมสังเกตการณ์พื้นโลก (Earth Observation Satellite) ดวงแรกของเวียดนาม ได้เข้าสู่วงโคจรตามกำหนดแล้วในเช้าวันอังคาร 6 พ.ค.นี้ หลังจากถูกยิงขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดวีกา (Vega) จากศูนย์อวกาศยุโรปที่เมืองคูรู ดินแดนกิอานาของฝรั่งเศสในอเมริกาใต้ การยิงดาวเทียมดังกล่าวเลื่อนออกมาจากวันเสาร์ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย บริษัทอาริอานสเปซ (Arianespace) รายงานในเว็บไซต์ในวันเดียวกัน ดาวเทียม NREDSat-1 ซึ่งเป็นชื่อเรียกสั้นๆ ตามชื่อโครงการดาวเทียมสำหรับเฝ้าติดตามทรัพยากรณ์ สภาพแวดล้อม และภัยพิบัติเวียดนาม (Natural Resources, Environment and Disaster Monitoring Satellite) มีมูลค่า 76 ล้านดอลลาร์ จากการช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลฝรั่งเศส 73 ล้านดอลลาร์ สมทบกับเงินงบประมาณแห่งรัฐ ดาวเทียมลูกนี้จะช่วยให้เวียดนามที่มีน่านน้ำกับชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร กับเทือกเขาสลับซับซ้อนในภาคกลางกับภาคเหนือ สามารถตรวจติดตามสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ช่วยให้พยากรณ์ และป้องกันภัยธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกันกับการกู้ภัย และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ดาวเทียมที่มีน้ำหนักเพียง 120 กิโลกรัม ผลิตโดยบริษัทแอสเตรียม (Astrium) ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของบริษัทป้องกันทางการบินและอวกาศแห่งยุโรป สามารถถ่ายภาพบนพื้นโลกด้วยความชัดในระยะ 2.5 เมตร และเป็นดาวเทียมดวงที่ 3 ของเวียดนาม ถัดจากดาวเทียมสื่อสารวินาแส็ท-1 กับวินาแส็ท-2 ที่ส่งเข้าวงโคจรเมื่อปี 2551 และ 2555 หลายสิบปีที่ผ่านมา เวียดนามซึ่งเกิดภัยพิบัติร้ายแรงบ่อยครั้ง ต้องซื้อภาพถ่ายดาวเทียมจากองค์การ หน่วยงาน หรือบริษัทเอกชนต่างประเทศ ดาวเทียม NREDSat-1 จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านนี้ได้เป็นเงินมหาศาลตลอดหลายสิบปีข้างหน้า. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช่าง ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:24:31 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3311434) | |
ศึกฟรีทีวีดาวเทียม ข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว คงหนีไม่พ้นข่าว "แกรมมี่" ขายทิ้งหุ้นมติชนให้กลุ่ม "จึงรุ่งเรืองกิจ" เพราะหมดเสน่ห์ในสื่อสิ่งพิมพ์ พร้อมลุยทีวีดิจิตอล
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:27:13 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3311435) | |
THCOM แจงสหรัฐฯ เลื่อนส่งไทยคม 6 เผยขายช่องสัญญาณล่วงหน้าได้กว่า 60% แล้ว “ซีอีโอ” แจง บ.ดาวเทียมสหรัฐฯ เลื่อนส่ง “ไทยคม 6” เพราะติดคิวดาวเทียมอื่นที่ล่าช้า ยันมีดาวเทียมสำรอง และการดำเนินการเป็นไปตามแผน เผยขายช่องสัญญาณล่วงหน้าได้กว่า 60% แล้ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:29:54 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3311436) | |
ตัวแทนฮอลลีวูด ร้อง กสทช.ลงดาบช่องทีวีดาวเทียม ฉายหนังละเมิดลิขสิทธิ์ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ล่าสุดทางบริษัท โมชั่น พิคเจอร์ แอสโซซิเอชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือเอ็มพีเอ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ถือครองลิขสิทธิ์การเผยแพร่ภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ได้ดำเนินการร้องต่อ กสทช. ให้ดำเนินการเอาผิดช่องทีวีดาวเทียม ซันมูฟวี่ ที่มีบริษัท ซันเทค มัลติมีเดีย เวิร์คกรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ถือครองใบอนุญาต เนื่องจากช่องทีวีดาวเทียมดังกล่าวกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำภาพยนตร์จากฮอลลีวูดที่ไม่ได้ผ่านการขอลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง มาเปิดให้รับชมผัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอด 24 ชม. อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา บอร์ด กสท.ได้มีคำสั่งให้สำนักงาน กสทช.กระทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยด่วนแล้ว โดยหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง อัตราโทษจะมีตั้งแต่ ปรับ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงช่องซันมูฟวี่อาจถูกตั้งข้อหาแสดงหลักฐานเท็จแก่เจ้าพนักงาน เนื่องจากในช่วงที่ให้ผู้ประกอบการแสดงเอกสารรับรองในเรื่องลิขสิทธิ์ทางช่องซันมูฟวี่ก็ได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวให้แก่ กสทช.แล้ว ทั้งนี้ในแง่บทลงโทษของ กสทช.จะไม่นับรวมกับความผิดตามกฎหมายของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่จะไปสู่ชั้นศาลต่อไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:34:53 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3311437) | |
เอ็นเอ็มจีเตรียมประมูลทีวีดิจิตอลต.ค.นี้ เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป เตรียมยื่นประมูลทีวีดิจิตอล 3 ช่อง ต.ค.นี้ มั่นใจรายได้ทั้งปีทะลุ 3.5 พันล้าน นางสาวดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นประมูลทีวีดิจิตอล 3 ช่องภายในเดือน ต.ค. นี้ โดยจะเข้าประมูลช่องวาไรตี้ HD , ช่องข่าว และช่องเด็ก ขณะที่บริษัทได้เตรียมเงินลงุทนไว้จำนวน 2 พันล้านบาทที่มาจากเงินเพิ่มทุน และเตรียมกำหนดวงเงินออกหุ้นกู้อีก 1.5 พันล้านบาท หากตัวเลขการประมูลสูงกว่าที่คาดไว้ หลังจากนี้ บริษัทจะเดินสายโรดโชว์ไปต่างประเทศ ซึ่งในเดือนมิ.ย.นี้จะเริ่มจากสิงคโปร์ ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมออกหนังสือพิมพ์ในพม่า คาดว่าจะเริ่มได้ในต้นไตรมาส 4/56 ตามแผนงานที่กำหนดไว้ในลักษณะหนังสือพิมพ์รายวัน เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผลการเติบโตของเศรษฐกิจพม่า โดยการร่วมทุนในการออกหนังสือพิมพ์ในพม่า NMG เข้าถือหุ้น 49% และผู้ประกอบการพม่าถือในสัดส่วน 51% ส่วนรายได้ในไตรมาส 2/56 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/56 ตามการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยในไตรมาสแรกรายได้จากค่าโฆษณาจากสื่อสิ่งพิมพ์ของกลุ่มบริษัทเติบโต 6% สูงกว่าตลาดที่เติบโตระดับ 4% เท่านั้น และสื่อผ่านทีวีดาวเทียมเติบโต 22% นิวมีเดียเติบโต 21% ทั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ ส่วนทั้งปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโต 15-16% มาที่ 3.5 พันล้านบาท จากปีก่อน 3.1 พันล้านบาท "โดยรวมไตรมาส 1 ไตรมาส 2 น่าจะโตต่อเนื่อง ตัวเลขทางการตลาดที่ใช้โฆษณายังอยู่ในอัตราที่คาดหมาย ยังไม่มีเทรนที่ชะลอ แม้ว่าในไตรมาส 2 มีวันหยุดเยอะแต่กลุ่มบริษัทจะมีกลุ่มกิจกรรมมารองรับ เช่นใน ปลายมิ.ย. มีงานครบรอบ 43 ปี ของกลุ่มเนชั่น" | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:37:23 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3311438) | |
CTH โวสปอนเซอร์ 5 พันล้าน คาดดูดลูกค้าทรูวิชั่นส์ล้านราย นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) (ที่สองจากซ้าย)โหมเปิดตัวรายการฟุตบอลที่จะเป็นแม่เหล็กดูดสมาชิกจากทรูฯ ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีทีเอชเล็งสูบฐานสมาชิกคอบอลพรีเมียร์ลีกใหม่ 1 ล้านรายจากทรูวิชั่นส์ ถึงสิ้นปีคาดว่ามีสมาชิกที่ซื้อแพกเกจดูบอลพรีเมียร์ลีกร่วม 2 ล้านราย พร้อมเสริมทัพเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมจากเวียดนามรับสมาชิกใหม่ คาดรายได้จากสมาชิกเกิน 1,000 ล้านบาทผ่าน 4 แพกเกจหลัก เริ่มที่ 199-899 บาทต่อเดือน ยิ้มรับสปอนเซอร์หลัก 5 ราย ทั้งเอไอเอส, การบินไทย, ฮอนด้า, สิงห์ และโตโยต้า กวาดเงินเข้ากระเป๋าอีก 3,000-5,000 ล้านบาท นายเกษม อินทร์แก้ว กรรมการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมาชิกเคเบิลทีวีทั่วประเทศมีกว่า 3.5 ล้านครัวเรือน โดยกว่า 2.5 ล้านสมาชิกมาจาก 200 โอเปอเรเตอร์ที่อยู่ในซีทีเอช ซึ่งทางบริษัทพร้อมทยอยเปลี่ยนกล่องเซตท็อปบ็อกซ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีสมาชิกกว่า 1 ล้านรายที่จะใช้บริการแพกเกจที่รับชมพรีเมียร์ลีกได้ ส่วนสมาชิกใหม่ที่เป็นคอบอลพรีเมียร์ลีกคาดว่าจะสมัครเข้ามาอีก 1 ล้านรายเช่นกัน รวมแล้วถึงสิ้นปีนี้มองว่าจะมีสมาชิกที่รับชมพรีเมียร์ลีกกว่า 2 ล้านราย หรือน่าจะมีรายได้จากสมาชิกที่รับชมแพกเกจพรีเมียร์ลีกทั้งหมดมากกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับสมาชิกใหม่มี 2 แพลตฟอร์มให้รับชม คือ 1. การรับชมผ่านสายไฟเบอร์ออปติก จะต้องเสียค่ามัดจำกล่อง 1,800 บาท สำหรับกล่องแบบเอชดี ส่วนเอสดีจะมีราคาที่ถูกลงมาอีก แล้วจ่ายเพิ่มในส่วนของแพกเกจการรับชมอีกส่วนหนึ่ง ส่วนการติดตั้งเพิ่มจุดที่ 2, 3 จะเสียเฉพาะค่ามัดจำกล่องเพิ่มแต่ละกล่องในราคาเดียวกัน 2. การรับชมผ่านระบบจานดาวเทียม จะเสียค่ากล่อง ค่าติดตั้ง และจานรับสัญญาณ รวม 999 บาท แล้วจ่ายเพิ่มในส่วนของแพกเกจการรับชมอีกส่วนหนึ่งเช่นกัน ขณะที่แพกเกจรายเดือนนั้น เบื้องต้นจะมี 4 แพกเกจ คือ 1. แพกเกจ 199 บาท/เดือน รับชมได้ 79 ช่อง 2. แพกเกจ 299 บาท/เดือน รับชมได้ 107 ช่อง 3. แพกเกจ 399 บาท/เดือน รับชมได้ 120 ช่อง ซึ่งทั้ง 3 แพกเกจนี้จะมีช่องพรีเมียร์ลีกให้ชม 1 ช่อง และทั้งหมดไม่มีช่องเอชดี ส่วน 4. แพกเกจ 899 บาท/เดือน รับชมได้ 125 ช่อง โดยจะมี 5 ช่องเป็นช่องพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะ และสามารถรับชมช่องเอชดีรวมไม่ต่ำกว่า 30 ช่องด้วย ทั้งนี้ ในอนาคตยังจะมีแพกเกจย่อยออกมาให้บริการเพิ่มอีก ไม่ว่าจะเป็นแพกเกจแบบเลือกชมในคู่ที่ชอบ หรือเลือกซื้อช่องพรีเมียร์ลีกเป็นรายช่อง ราคาช่องละ 100 บาท หรือรับชมผ่านมือถือที่จะมีการร่วมมือกันกับเอไอเอสด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ซีทีเอชยังได้เช่าช่องสัญญาณจานดาวเทียม วีนาแซค ของประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับกลุ่มสมาชิกใหม่ในส่วนของการรับชมผ่านจานดาวเทียมด้วย ด้านนายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ทางซีทีเอชได้สปอนเซอร์หลักพรีเมียร์ลีกแล้ว 5 ราย คือ เอ.พี.ฮอนด้า, สิงห์, โตโยต้า, เอไอเอส และการบินไทย โดยจะมีเพิ่มเข้ามาอีก 2 ราย และเมื่อรวมสปอนเซอร์ทุกแพกเกจรวมกันตอนนี้มีแล้วกว่า 8-9 ราย โดยทางบริษัทยังเปิดกว้างรับสปอนเซอร์อีกต่อเนื่องในแพกเกจรองลงมา ส่งผลให้เชื่อว่าจะทำให้มีรายได้จากสปอนเซอร์ไม่ต่ำกว่า 3,000-5,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนแพกเกจราคาสมาชิกนั้นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีก 20 วันข้างหน้า
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:50:12 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1057040 |