ReadyPlanet.com


ข่าวจานดาวเทียม,ข่าวดาวเทียม june2013


จีเอ็มเอ็ม แซท จัดหนักเจาะพรีเมียม ทุ่ม 150 ล้านผุดกล่อง GMM Z HD  “จีเอ็มเอ็ม แซท” สบช่องคนไทยส่วนใหญ่ใช้ทีวี HD ทุ่มงบ 150 ล้านบาทเปิดตัว GMM Z HD ขึ้นแท่นขายกล่องทีวีดาวเทียมครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ดีเดย์วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ชูสโลแกน “แซ่บ ชัด ชัด” งัดกลยุทธ์สร้างการรับรู้และเสริมความเข้าใจ ดันลูกค้าเข้าถึงเกิดการตัดสินใจซื้อง่ายมาพร้อม 4 ช่องพิเศษที่ออนแอร์เฉพาะกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ยอดทะลุแสนกล่อง

นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มงานแพลตฟอร์มบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพของการทำตลาดกล่องทีวีดาวเทียมระบบความคมชัดสูง (HD) เนื่องจากปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ใช้ทีวีระบบ HD มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ค่อยได้นำมาใช้เต็มศักยภาพศักยภาพ ทางบริษัทจึงมองเป็นโอกาสในการรุกตลาดเอชดี

ล่าสุดพร้อมใช้งบการตลาดกว่า 150 ล้านบาท สำหรับเปิดตัวกล่องทีวีดาวเทียมระบบ HD ภายใต้ชื่อ “GMM Z HD” (กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เอชดี) ภายใต้สโลแกน “แซ่บ ชัด ชัด” พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้จำหน่ายกล่องทีวีดาวเทียมครอบคลุมครบทุกกลุ่มเป้าหมาย

เบื้องต้นบริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์มุ่งสื่อสารกับกลุ่มผู้ใช้ทีวี HD เพื่อสร้างการรับรู้และเสริมความเข้าใจว่า ทีวี HD ต้องใช้คู่กับกล่องทีวี HD ภาพถึงจะคมชัด มิฉะนั้นจะเป็นการใช้ศักยภาพของทีวี HD ไม่เต็มประสิทธิภาพ คาดว่าหลังจากสร้างการรับรู้และเสริมความเข้าใจเรื่องดังกล่าวแล้วจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้ามากขึ้น จะนำมาสู่การตัดสินใจซื้อกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เอชดี ได้ง่ายยิ่งขึ้น มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายกล่อง GMM Z HD ไม่ต่ำกว่า1 แสนกล่อง

อย่างไรก็ตาม กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เอชดี วางจำหน่ายในราคา 4,800 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำและร้านจำหน่ายจานดาวเทียมทั่วประเทศ พร้อมดูฟรี 1 ปีกับบริการเติมช่อง แซท เพย์ทีวี 8 ช่อง และ 3 ช่อง HD คือ ช่องหมายเลข 408 NAT GEO WILD HD สุดยอดสารคดีระดับโลก, ช่องหมายเลข 409 EURO SPORT HDกีฬาชั้นนำจากฝั่งยุโรป และช่องหมายเลข 410 GMM SPORT TWO HD ชมกีฬาสุดมันจาก edge channel และลีกฟุตบอลสุดมันบุนเดสลีกา (Bundesliga)

จากปัจจุบันกล่อง GMM Z HD สามารถรับชมช่องทีวีดาวเทียมได้กว่า 220 ช่อง (C-Band) และกว่า 80 ช่อง (KU-Band) รวมถึงช่องทีวีดาวเทียมสุดฮิตจากแกรมมี่ และ 4 ช่องพิเศษที่ออกอากาศเฉพาะกล่องทีวีดาวเทียมจีเอ็มเอ็ม แซท ได้แก่ ช่องหมายเลข 17 GMM THEATRE, ช่องหมายเลข 18 NAT GEO WILD, ช่องหมายเลข 19 GMM SPORT EXTRA และช่องหมายเลข 20 FANOKE

 



ผู้ตั้งกระทู้ ช.การไฟฟ้า :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-14 11:16:33


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3311432)

ประมูล"ทีวีดิจิทัล" "เอชดี"เคาะสูงสุด10%
วันที่ 2013-05-07 11:30:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวเด่นประจำวัน

จับตาบอร์ด กสท. เคาะราคาตั้งต้นประมูล "ทีวีดิจิทัล" ธุรกิจ 24 ช่อง วันนี้ ทีมจุฬาฯ เสนอตัวเลขมูลค่าคลื่นฯ ใหม่ ช่องเอชดีสูงสุดครั้งละ 10%

การประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณา "ราคาตั้งต้น" การประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน (ทีวีดิจิทัล) ประเภทธุรกิจจำนวน 24 ช่อง โดยทีมที่ปรึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เสนอราคาประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ล่าสุด หลังจากที่ได้เสนอราคาประมูลครั้งแรกเมื่อต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา

แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (7 พ.ค.) บอร์ด กสท.จะพิจารณาผลการศึกษาประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ "ทีวีดิจิทัล" ประเภทธุรกิจ หลังจากเมื่อวันที่ 11 มี.ค. บอร์ด กสท.ให้ทีมจุฬาฯ กลับไปศึกษาใหม่ เพราะมีการเปลี่ยนสูตรการแบ่งช่องรายการ จากเดิมใช้สูตรจัดสรรช่อง 5-5-10-4 ประกอบด้วยช่องรายการความชัดมาตรฐาน (standard definition : SD) และ ช่องรายการความคมชัดสูง (high definition : HD) แบ่งเป็น ช่องเด็ก SD 5 ช่อง, ข่าว SD 5 ช่อง, วาไรตี้ SD 10 ช่อง และ เอชดี 4 ช่อง

โดยบอร์ด กสท. เห็นชอบให้มีการจัดสรรประเภทช่องใหม่ด้วยสูตร 3-7-7-7 คือช่องเด็ก SD 3 ช่อง, ช่องข่าว SD 7 ช่อง, วาไรตี้ SD 7 ช่อง และ เอชดี 7 ช่อง พร้อมเพิ่มเงื่อนไขการศึกษาราคาตั้งต้นใหม่ ผู้ได้รับใบอนุญาตจะมีต้นทุนเพิ่มจากการเช่าโครงข่าย (Multiplexer : Mux) ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์ แคร์รี่ (Must Carry) ที่กำหนดให้ช่อง "ฟรีทีวีดิจิทัล" ต้องแพร่ภาพได้ทุกแพลตฟอร์มการรับชมของครัวเรือนไทยในปัจจุบัน ทั้งโทรทัศน์ระบบภาคพื้นดิน ทีวีดาวเทียม และ เคเบิลทีวี ทำให้การออกอากาศ "ทีวีดิจิทัล" จะมีต้นทุนจากค่าบริการโครงข่าย ทำหน้าที่ส่งสัญญาณทีวีดิจิทัลไปในทุกแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่าค่าโครงข่ายอยู่ที่ปีละ 40-50 ล้านบาทต่อช่อง แต่จากประกาศฯ มัสต์แคร์รี่ ทำให้ค่าบริการโครงข่ายอยู่ที่ปีละ 60 ล้านบาท

เคาะราคาใหม่ 24 ช่องธุรกิจ

หลังจากใช้เวลาการพิจารณาเกือบ 2 เดือน คณะที่ปรึกษาจุฬาฯ ได้เสนอราคาประมูลใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ราคาประเมินมูลค่าคลื่นความถี่และความสามารถของเอกชนในการจ่ายเงินค่าประมูล หลังจากหักต้นทุนต่างๆ รวมทั้งการคาดการณ์รายได้ในอนาคต 2.ราคาตั้งต้นประมูลที่มีการหักส่วนลดจากการคาดการณ์จำนวนผู้เข้าประมูล หากคาดว่ามีผู้เข้าประมูลจำนวนมาก ราคาตั้งต้นจะถูกลง เพื่อเป็นการจูงใจให้เข้าประมูลมากขึ้น และมีการแข่งขันกันเสนอราคามากขึ้น

โดยคณะที่ปรึกษาจุฬาฯ เสนอผลศึกษาราคาประเมินคลื่นความถี่ครั้งล่าสุด "ถูกกว่า" การศึกษาครั้งแรกรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท หรือเดิมราคาประเมินรวม 24 ช่อง อยู่ที่ 20,700 ล้านบาท เหลือประมาณ 15,000 ล้านบาท

สิ่งที่น่าสนใจคือ กสท. มีแนวคิดที่จะนำราคาประเมินมาเป็น "ราคาตั้งต้น" ประมูล 24 ช่องธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินประมูลที่จะได้รับไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน

สำหรับมูลค่าราคาประเมิน "ทีวีดิจิทัล" ช่องเอชดี อยู่ที่ช่องละ 1,507 ล้านบาท ช่องวาไรตี้ SD ช่องละ 374 ล้านบาท ข่าว SD ช่องละ 211 ล้านบาท และช่องเด็ก SD ช่องละ 134 ล้านบาท ทั้งนี้ บางช่องถูกกว่าการประเมินครั้งแรก จากตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไป คือ มีจำนวนช่องให้ประมูลมากขึ้น เช่น ช่องเอชดีจากเดิม 5 เป็น 7 ช่อง ครั้งแรกประเมินไว้ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนการประเมินล่าสุดเมื่อมีต้นทุนค่าเช่าโครงข่ายเพิ่ม และจำนวนช่องมากขึ้น ราคาจึงอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อช่อง ส่วนช่องเด็กราคาเพิ่มขึ้น เพราะว่าจำนวนช่องจาก 5 ช่อง เหลือเพียง 3 ช่อง

นอกจากการพิจารณาราคาตั้งต้นประมูลแล้ว บอร์ด กสท. วันนี้ (7 พ.ค.) จะพิจารณาวิธีการประมูลที่คณะอนุกรรมการพิจารณาวิธีการประมูลเสนอ ที่สำคัญ คือหากจำนวนผู้เข้าแข่งขันประมูลมีเท่ากับจำนวนใบอนุญาต กสท.จะสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาว่าจะประมูลต่อหรือไม่ หรือหยุดการประมูล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้อง

ส่วนวิธีการเพิ่มเงินประมูลทีวีดิจิทัล กำหนดการเสนอเงินเพิ่มต่อครั้ง เป็นเปอร์เซ็นต์ตามราคาตั้งต้น แยกตามประเภท คือ ช่องเอชดี ประมูลเพิ่มครั้งละ10% ช่องวาไรตี้ SD 5% ช่องข่าว SD 2% และช่องเด็ก SD 1% ทั้งนี้ กสท.กำหนดกรอบเวลาการประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่องธุรกิจ ช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. นี้

ชี้ช่อง "เอชดี" ไม่เกินพันล้าน

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ราคาตั้งต้นประมูลทีวีดิจิทัล ประเภทช่องเอชดี ควรกำหนดราคาไม่เกิน 1,000 ล้านบาทต่อช่อง หากสูงกว่านี้ถือว่า "สูง" ไป เนื่องจากผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องแบกรับต้นทุนอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งค่าเช่าโครงข่าย ค่าผลิตรายการที่ไม่ต่างจากฟรีทีวีในปัจจุบัน และค่าธรรมเนียมต่างๆ

อีกทั้งยังมีคู่แข่งขัน "ทีวีสาธารณะ" ประเภทความมั่นคงที่สามารถหารายได้จากโฆษณาเช่นเดียวกับทีวีธุรกิจ แต่ได้รับการจัดสรรคลื่นและใบอนุญาตฟรีไม่ต้องแข่งประมูลเหมือนช่องธุรกิจ ดังนั้นควรกำหนดหลักเกณฑ์การหารายได้จากโฆษณาของทีวีสาธารณะให้ชัดเจน ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรเพื่อเป็นปัจจัยสำคัญให้เอกชนที่จะประมูลทีวีธุรกิจ นำไปจัดทำแผนการประเมินคู่แข่ง และงบประมาณสำหรับการประมูล

โดยมองว่าทีวีดิจิทัล ถือเป็นโอกาสที่ดีของ "คอนเทนท์ โปรวายเดอร์" และแกรมมี่ที่มีความพร้อม เพื่อโอกาสการเป็น "เจ้าของ" ช่องทีวี ที่มีฐานะเป็น "ฟรีทีวีดิจิทัล" มีเป้าหมายเข้าถึงครัวเรือนทั่วประเทศ โดยแกรมมี่วางแผนประมูล 3 ช่อง คือ เอชดี 1 ช่องและเอสดี 2 ช่อง ทั้งนี้เตรียมงบประมูลรวมการผลิตรายการไว้ราว 5,000 ล้านบาท

ระบุโครงข่ายไม่ชัดเจน

นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาตั้งต้นประมูลทีวีดิจิทัลที่ต่ำลงถือเป็นสิ่งที่ดี สะท้อนต้นทุนค่าโครงข่ายที่ค่อนข้างสูงเข้าไปพิจารณาเพิ่มเติมในการกำหนดราคา แต่ราคาของใบอนุญาตเพียงอย่างเดียวยังไม่ใช่ตัวแปรสำคัญสุดท้ายที่จะชี้ว่าการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ ยังมีปัจจัยการรับและการส่งสัญญาณยังไม่มีความชัดเจนพอ

"เราจำเป็นต้องทราบว่ามีผู้ประกอบการรายใดบ้าง ที่จะเข้ามารับใบอนุญาตการให้บริการด้านโครงข่าย มีการคิดค่าบริการกับผู้รับใบอนุญาตบริหารความถี่อย่างไร รายละเอียดเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญ" นางพรพรรณ กล่าว

อาร์เอส มีนโยบายจะเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัล 1-2 ช่อง ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของการวางแผนให้ภาคครัวเรือนไทยสามารถเข้าถึงทีวีดิจิทัลได้มากน้อยขนาดไหน ในระยะเวลาเท่าไร หากการเข้าถึงล่าช้า ก็จะทำให้ทีวีดิจิทัลไม่สามารถเป็นระบบหลักในการรับชมโทรทัศน์ของครัวเรือนไทยได้ ปัจจุบันการรับชมฟรีทีวีผ่านดาวเทียมและเคเบิลมีการเข้าถึง 80% ไปแล้ว หากระบบอื่นรวมทั้งทีวีดิจิทัลจะเข้ามาแทนที่ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ในสัดส่วนที่มากเท่า อีกทั้งยังมีทางเลือกในการรับชมด้วยจำนวนช่องที่น้อยกว่า จะทำให้ทีวีดิจิทัลอาจจะเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็ม แต่ไม่สามารถเป็นระบบหลักได้

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่าง ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:20:53


ความคิดเห็นที่ 2 (3311433)

ดาวเทียมสังเกตการณ์เวียดนามดวงแรกเข้าสู่วงโคจรแล้ว

ภาพที่เผยแพร่ในเว็บไซต์บริษัทอาริอานสเปซ ขณะดาวเทียมสังเกตการณ์พื้นโลกดวงแรก เข้าสู่วงโคจรในอวกาศตอนเช้าวันอังคาร 7 พ.ค.นี้ ดาวเทียมที่สามารถถ่ายภาพบนพื้นดินทีมีความคมชัดสูงจะช่วยให้เวียดนามสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก และสภาพแวดล้อม ช่วยป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งในการเฝ้าติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรณ์ในน่านน้ำและชายฝั่งทะเลความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร. .

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ดาวเทียมสังเกตการณ์พื้นโลก (Earth Observation Satellite) ดวงแรกของเวียดนาม ได้เข้าสู่วงโคจรตามกำหนดแล้วในเช้าวันอังคาร 6 พ.ค.นี้ หลังจากถูกยิงขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดวีกา (Vega) จากศูนย์อวกาศยุโรปที่เมืองคูรู ดินแดนกิอานาของฝรั่งเศสในอเมริกาใต้

การยิงดาวเทียมดังกล่าวเลื่อนออกมาจากวันเสาร์ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย บริษัทอาริอานสเปซ (Arianespace) รายงานในเว็บไซต์ในวันเดียวกัน

ดาวเทียม NREDSat-1 ซึ่งเป็นชื่อเรียกสั้นๆ ตามชื่อโครงการดาวเทียมสำหรับเฝ้าติดตามทรัพยากรณ์ สภาพแวดล้อม และภัยพิบัติเวียดนาม (Natural Resources, Environment and Disaster Monitoring Satellite) มีมูลค่า 76 ล้านดอลลาร์ จากการช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลฝรั่งเศส 73 ล้านดอลลาร์ สมทบกับเงินงบประมาณแห่งรัฐ

ดาวเทียมลูกนี้จะช่วยให้เวียดนามที่มีน่านน้ำกับชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร กับเทือกเขาสลับซับซ้อนในภาคกลางกับภาคเหนือ สามารถตรวจติดตามสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ช่วยให้พยากรณ์ และป้องกันภัยธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกันกับการกู้ภัย และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ

ดาวเทียมที่มีน้ำหนักเพียง 120 กิโลกรัม ผลิตโดยบริษัทแอสเตรียม (Astrium) ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของบริษัทป้องกันทางการบินและอวกาศแห่งยุโรป สามารถถ่ายภาพบนพื้นโลกด้วยความชัดในระยะ 2.5 เมตร และเป็นดาวเทียมดวงที่ 3 ของเวียดนาม ถัดจากดาวเทียมสื่อสารวินาแส็ท-1 กับวินาแส็ท-2 ที่ส่งเข้าวงโคจรเมื่อปี 2551 และ 2555

หลายสิบปีที่ผ่านมา เวียดนามซึ่งเกิดภัยพิบัติร้ายแรงบ่อยครั้ง ต้องซื้อภาพถ่ายดาวเทียมจากองค์การ หน่วยงาน หรือบริษัทเอกชนต่างประเทศ ดาวเทียม NREDSat-1 จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านนี้ได้เป็นเงินมหาศาลตลอดหลายสิบปีข้างหน้า.

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่าง ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:24:31


ความคิดเห็นที่ 3 (3311434)

ศึกฟรีทีวีดาวเทียม

ศึกฟรีทีวีดาวเทียมแกรมมี่ปั้น"ช่องวัน"สู้อาร์เอส-แบ่งเค้กโฆษณา : คอลัมน์ โลกไร้เสา
    

          ข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว คงหนีไม่พ้นข่าว "แกรมมี่" ขายทิ้งหุ้นมติชนให้กลุ่ม "จึงรุ่งเรืองกิจ" เพราะหมดเสน่ห์ในสื่อสิ่งพิมพ์ พร้อมลุยทีวีดิจิตอล
 
          ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ตัดใจขายหุ้นใน บมจ.มติชน ออกทั้งหมดจำนวน 42.39 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยที่ 11.09 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่า 469.94 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาขาย "เท่าทุน" กับที่ซื้อมาในปี 2548
 
          ทั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนในธุรกิจหลักของแกรมมี่ในกลุ่มกิจการบรอดแคสต์ โดยเฉพาะธุรกิจ "จีเอ็มเอ็ม แซท" ที่ประกอบไปด้วยธุรกิจแพลตฟอร์มกล่องรับสัญญาณดาวเทียม และเพย์ทีวี รวมทั้งการประมูล "ทีวีดิจิตอล" ที่ กสทช. กำหนดประมูลในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ 
 
          แต่ก่อนจะถึงการประมูลทีวีดิจิตอล "แกรมมี่" จัดทัพผู้บริหารลุยรีแบรนด์ "ช่องวัน" (ONE) ลงทุน 200 ล้านบาท ผลิตคอนเทนท์วาไรตี้บันเทิง พร้อมกับเปลี่ยนช่องจีเอ็มเอ็ม วัน ซึ่งเดิมกำหนดให้เป็นช่องรายการเอ็กซ์คูลซีฟ ที่รับชมได้เฉพาะกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ให้เป็นช่องฟรีทูแอร์
 
          ถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องวัน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากทิศทางการเติบโตของฐานผู้ชมช่องรายการผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียมและเคเบิลทีวีกว่า 12 ล้านครัวเรือนในปัจจุบัน จากทั่วประเทศ 22 ล้านครัวเรือน บริษัทจึงได้ปรับแพลตฟอร์ม การออกอากาศช่องจีเอ็มเอ็ม วัน เป็นรูปแบบฟรีทูแอร์
 
          เมื่อให้ "ช่องวัน" เป็นเรือธง แกรมมี่ได้ดึงผู้บริหารในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ระดับขุนพลเข้ามาร่วมพัฒนารายการในช่องวัน
 
          เริ่มจาก "บอย ถกลเกียรติ" จากเอ็กแซ็กท์-ซีเนริโอ ผู้นำด้านละครซิทคอมที่ครองใจฐานผู้ชมกลุ่มคอละคร และการันตีด้วยซิทคอม "เป็นต่อ ขั้นเทพ"" ที่พอจะกระชากเรตติ้งให้ช่องวัน
 
          แถมเอาใจแฟนคลับเดอะ สตาร์ กับรายการ "เดอะสตาร์วันนี้" ที่จะติดตาม ตามติดชีวิตเหล่าเดอะสตาร์ทุกรุ่น ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 22.00 น.
 
          "เจ๊ฉอด" สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา จากเอไทม์มีเดีย ก็ขายคอนเทนท์ที่ถนัดกับซิทคอมดีเจเครือเอไทม์ "เลิฟออนแอร์ ไม่บอกรัก...แต่รักมาก" และ "คลับ ฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์" ให้มาออกอากาศก่อนหน้านั้นแล้ว
 
          ที่ขาดไม่ได้คือข่าวบันเทิง โดยดีเจฝีปากกล้ากับรายการ "สถานีแสนแสบ" แสบทุกเที่ยง โดยดีเจมดดำ, ตุ๊ยตุ่ย, เผือก, อาร์ต, แตงโม, บุ๊กโกะ, เป้ วิศวะ, โตโต้, เบลเยี่ยม รายงานสดหน้าจอทุกวันจันทร์-ศุกร์
 
          สำหรับคอหนังซีรีส์ จีทีเอช เตรียมเปิดจอรอชมได้เลยมี จินา โอสถศิลป์ ทุ่มผลิตซีรีส์ใหม่ออนแอร์ช่องวัน เริ่มจาก "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น.
 
          ทีเด็ดจริงๆ ต้อง GTH side stories ภาคต่อจากหนังดัง GTH 8 เรื่อง ในแง่มุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ลัดดาแลนด์ เป็นต้น ปิดท้ายด้วย ""เอทีเอ็ม 2 คู่เวอร์..เออเร่อ..เออรัก"" ที่จะพาไปดูชีวิตคู่ภาคต่อของคู่พระนางต่อไป
 
          สุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดช่องวัน กล่าวว่า หลังรีแบรนด์ช่องวันและเปิดตัวอย่างเป็นทางในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ได้กำหนดราคาขายสปอตโฆษณาช่องวัน ที่เฉลี่ยนาทีละ 20,000 บาท ถือว่าสูงกว่าช่องทีวีดาวเทียมอื่นๆ ของแกรมมี่ในช่วงเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ
 
          พูดง่ายๆ แกรมมี่ตั้งใจจะหารายได้จากโฆษณาทีวีดาวเทียม ชดเชยรายได้จากเพย์ทีวี ที่ไม่ขยับ เพราะคอนเทนท์กีฬาไม่โดนใจลูกค้า
 
          แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทแกรมมี่ มีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงโดยเฉพาะการตัดค่าเสื่อมจากธุรกิจ "เพย์ทีวี" ปีละประมาณ 1 พันล้านบาท ทำให้บริษัทจะต้องประสบกับภาระขาดทุนต่อไปอีกระยะหนึ่ง
 
          การขายหุ้นมติชน ก็ยังไม่ได้ทำให้ฐานะของบริษัทดีขึ้นมา และเชื่อว่าบริษัทมีแผนจะขายหุ้นโพสต์ (POST) ที่ถือลงทุนออกมาอีกในเร็ววันนี้
 
          กลยุทธ์การปั้น "ฟรีทีวี" บนทีวีดาวเทียมนั้น "อาร์เอส" ได้ลงทุนทำอย่างจริงจังคือ ช่องสบายดีทีวี, ช่อง 8, ช่องยู แชนแนล, ช่องสตาร์แม็กซ์ และช่องซัน แชนแนล
 
          ทีวีดาวเทียมยังเป็นธุรกิจดาวเด่นของอาร์เอสในปีที่ผ่านมา และยังเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ โดยอาร์เอสตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโต 40% จากปีก่อน
 
          นับเป็นปีแรกที่รายได้จากธุรกิจ "สื่อ" โดยมีทีวีดาวเทียมเป็นสื่อหลักในการทำรายได้ จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้แตะ 50% ของรายได้รวมบริษัท
 
          ขณะที่แกรมมี่ไปมุ่งการทำ "เพย์ทีวี" บนทีวีดาวเทียม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตรงกันข้ามกับอาร์เอส ที่ทำ "ฟรีทีวี" ในทีวีดาวเทียม สร้างรายได้จากเม็ดโฆษณาเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะช่องสบายดีทีวี และช่อง 8 ที่มีเรตติ้งสูง
 
          อาร์เอส ลงทุนทำคอนเทนท์ละคร ด้วยคอนเซ็ปต์ "แซบเว่อร์" จึงทำให้ช่อง 8 ติดตลาดอย่างรวดเร็ว หรือการเขย่าช่องสตาร์แม็กซ์ ด้วยทอล์กวาไรตี้ "คนดังนั่งเคลียร์" โดยอาจารย์ยิ่งศักดิ์ เพียงไม่กี่สัปดาห์ รายการนี้ก็ได้รับการโจษขานมากมาย
 
          ถือว่าศึกนี้เป็นสมรภูมิก่อนเวลาของค่ายใหญ่ ก่อนที่ยุคของทีวีดิจิตอล จะเข้ามาแทนที่ทีวีดาวเทียมในอนาคต
.......................................
(หมายเหตุ ศึกฟรีทีวีดาวเทียมแกรมมี่ปั้น"ช่องวัน"สู้อาร์เอส-แบ่งเค้กโฆษณา : คอลัมน์ โลกไร้เสา)


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:27:13


ความคิดเห็นที่ 4 (3311435)

 THCOM แจงสหรัฐฯ เลื่อนส่งไทยคม 6 เผยขายช่องสัญญาณล่วงหน้าได้กว่า 60% แล้ว

 “ซีอีโอ” แจง บ.ดาวเทียมสหรัฐฯ เลื่อนส่ง “ไทยคม 6” เพราะติดคิวดาวเทียมอื่นที่ล่าช้า ยันมีดาวเทียมสำรอง และการดำเนินการเป็นไปตามแผน เผยขายช่องสัญญาณล่วงหน้าได้กว่า 60% แล้ว
      
       นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยว่า เดิมดาวเทียม “ไทยคม 6” มีกำหนดการส่งดาวเทียมในช่วงกลางปี 2556 แต่ล่าสุด บริษัท สเปซ เอ็กซพลอเรชั่น เทคโนโลยีส์ คอร์ปอเรชั่น (Space Exploration Technologies Corporation- SpaceX) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทฯ ผู้รับจัดส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร ได้แจ้งว่าเกิดความล่าช้าในกำหนดการส่งของดาวเทียมดวงอื่นที่มีลำดับการส่งขึ้นสู่วงโคจรก่อนดาวเทียมไทยคม 6 ทำให้กำหนดการส่งดาวเทียมไทยคม 6 ต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงปลายไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ของปีนี้
      
       ทั้งนี้ การเลื่อนกำหนดการจัดส่งดาวเทียม ในการดำเนินธุรกิจดาวเทียมถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะการยิงดาวเทียมแต่ละดวงมีปัจจัยหลายประการที่สามารถจะส่งผลกระทบต่อกำหนดการส่งดาวเทียม
      
       อย่างกรณีนี้ก็เกิดขึ้นจากความล่าช้าในการจัดส่งดาวเทียมดวงอื่นที่มีลำดับการส่งขึ้นสู่วงโคจรก่อนดาวเทียมไทยคม 6 แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นปัญหา เพราะการจัดสร้างดาวเทียมไทยคม 6 ยังคงเป็นไปตามแผนงาน และขั้นตอนทางเทคนิคที่กำหนดไว้ และไทยคมก็สามารถจัดหาดาวเทียมมาให้บริการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าก่อนการส่งไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร
      
       อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับความต้องการการใช้งานช่องสัญญาณของลูกค้า ไทยคมได้จัดหาดาวเทียมมาให้บริการที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออกเป็นการชั่วคราวก่อนการส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งตามแผนที่กำหนดไว้
      
       ทั้งนี้ ดาวเทียมดังกล่าวจะสามารถเริ่มให้บริการได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2556 นี้ พร้อมยืนยันว่า ปัจจุบัน ไทยคมสามารถขายช่องสัญญาณล่วงหน้าบนดาวเทียมไทยคม 6 ได้แล้วกว่าร้อยละ 60 ของช่องสัญญาณทั้งหมด

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:29:54


ความคิดเห็นที่ 5 (3311436)

ตัวแทนฮอลลีวูด ร้อง กสทช.ลงดาบช่องทีวีดาวเทียม ฉายหนังละเมิดลิขสิทธิ์  น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ล่าสุดทางบริษัท โมชั่น พิคเจอร์ แอสโซซิเอชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือเอ็มพีเอ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ถือครองลิขสิทธิ์การเผยแพร่ภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ได้ดำเนินการร้องต่อ กสทช. ให้ดำเนินการเอาผิดช่องทีวีดาวเทียม ซันมูฟวี่ ที่มีบริษัท ซันเทค มัลติมีเดีย เวิร์คกรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ถือครองใบอนุญาต เนื่องจากช่องทีวีดาวเทียมดังกล่าวกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำภาพยนตร์จากฮอลลีวูดที่ไม่ได้ผ่านการขอลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง มาเปิดให้รับชมผัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอด 24 ชม.

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา บอร์ด กสท.ได้มีคำสั่งให้สำนักงาน กสทช.กระทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยด่วนแล้ว โดยหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง อัตราโทษจะมีตั้งแต่ ปรับ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงช่องซันมูฟวี่อาจถูกตั้งข้อหาแสดงหลักฐานเท็จแก่เจ้าพนักงาน เนื่องจากในช่วงที่ให้ผู้ประกอบการแสดงเอกสารรับรองในเรื่องลิขสิทธิ์ทางช่องซันมูฟวี่ก็ได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวให้แก่ กสทช.แล้ว ทั้งนี้ในแง่บทลงโทษของ กสทช.จะไม่นับรวมกับความผิดตามกฎหมายของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่จะไปสู่ชั้นศาลต่อไป

 
 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:34:53


ความคิดเห็นที่ 6 (3311437)

เอ็นเอ็มจีเตรียมประมูลทีวีดิจิตอลต.ค.นี้

เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป เตรียมยื่นประมูลทีวีดิจิตอล 3 ช่อง ต.ค.นี้ มั่นใจรายได้ทั้งปีทะลุ 3.5 พันล้าน

นางสาวดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นประมูลทีวีดิจิตอล 3 ช่องภายในเดือน ต.ค. นี้ โดยจะเข้าประมูลช่องวาไรตี้ HD , ช่องข่าว และช่องเด็ก ขณะที่บริษัทได้เตรียมเงินลงุทนไว้จำนวน 2 พันล้านบาทที่มาจากเงินเพิ่มทุน และเตรียมกำหนดวงเงินออกหุ้นกู้อีก 1.5 พันล้านบาท หากตัวเลขการประมูลสูงกว่าที่คาดไว้ หลังจากนี้ บริษัทจะเดินสายโรดโชว์ไปต่างประเทศ ซึ่งในเดือนมิ.ย.นี้จะเริ่มจากสิงคโปร์

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมออกหนังสือพิมพ์ในพม่า คาดว่าจะเริ่มได้ในต้นไตรมาส 4/56 ตามแผนงานที่กำหนดไว้ในลักษณะหนังสือพิมพ์รายวัน เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผลการเติบโตของเศรษฐกิจพม่า โดยการร่วมทุนในการออกหนังสือพิมพ์ในพม่า NMG เข้าถือหุ้น 49% และผู้ประกอบการพม่าถือในสัดส่วน 51%

ส่วนรายได้ในไตรมาส 2/56 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/56 ตามการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยในไตรมาสแรกรายได้จากค่าโฆษณาจากสื่อสิ่งพิมพ์ของกลุ่มบริษัทเติบโต 6% สูงกว่าตลาดที่เติบโตระดับ 4% เท่านั้น และสื่อผ่านทีวีดาวเทียมเติบโต 22% นิวมีเดียเติบโต 21% ทั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ ส่วนทั้งปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโต 15-16% มาที่ 3.5 พันล้านบาท จากปีก่อน 3.1 พันล้านบาท

"โดยรวมไตรมาส 1 ไตรมาส 2 น่าจะโตต่อเนื่อง ตัวเลขทางการตลาดที่ใช้โฆษณายังอยู่ในอัตราที่คาดหมาย ยังไม่มีเทรนที่ชะลอ แม้ว่าในไตรมาส 2 มีวันหยุดเยอะแต่กลุ่มบริษัทจะมีกลุ่มกิจกรรมมารองรับ เช่นใน ปลายมิ.ย. มีงานครบรอบ 43 ปี ของกลุ่มเนชั่น"

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:37:23


ความคิดเห็นที่ 7 (3311438)

CTH โวสปอนเซอร์ 5 พันล้าน คาดดูดลูกค้าทรูวิชั่นส์ล้านราย

นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) (ที่สองจากซ้าย)โหมเปิดตัวรายการฟุตบอลที่จะเป็นแม่เหล็กดูดสมาชิกจากทรูฯ ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีทีเอชเล็งสูบฐานสมาชิกคอบอลพรีเมียร์ลีกใหม่ 1 ล้านรายจากทรูวิชั่นส์ ถึงสิ้นปีคาดว่ามีสมาชิกที่ซื้อแพกเกจดูบอลพรีเมียร์ลีกร่วม 2 ล้านราย พร้อมเสริมทัพเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมจากเวียดนามรับสมาชิกใหม่ คาดรายได้จากสมาชิกเกิน 1,000 ล้านบาทผ่าน 4 แพกเกจหลัก เริ่มที่ 199-899 บาทต่อเดือน ยิ้มรับสปอนเซอร์หลัก 5 ราย ทั้งเอไอเอส, การบินไทย, ฮอนด้า, สิงห์ และโตโยต้า กวาดเงินเข้ากระเป๋าอีก 3,000-5,000 ล้านบาท

นายเกษม อินทร์แก้ว กรรมการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมาชิกเคเบิลทีวีทั่วประเทศมีกว่า 3.5 ล้านครัวเรือน โดยกว่า 2.5 ล้านสมาชิกมาจาก 200 โอเปอเรเตอร์ที่อยู่ในซีทีเอช ซึ่งทางบริษัทพร้อมทยอยเปลี่ยนกล่องเซตท็อปบ็อกซ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีสมาชิกกว่า 1 ล้านรายที่จะใช้บริการแพกเกจที่รับชมพรีเมียร์ลีกได้ ส่วนสมาชิกใหม่ที่เป็นคอบอลพรีเมียร์ลีกคาดว่าจะสมัครเข้ามาอีก 1 ล้านรายเช่นกัน รวมแล้วถึงสิ้นปีนี้มองว่าจะมีสมาชิกที่รับชมพรีเมียร์ลีกกว่า 2 ล้านราย หรือน่าจะมีรายได้จากสมาชิกที่รับชมแพกเกจพรีเมียร์ลีกทั้งหมดมากกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับสมาชิกใหม่มี 2 แพลตฟอร์มให้รับชม คือ 1. การรับชมผ่านสายไฟเบอร์ออปติก จะต้องเสียค่ามัดจำกล่อง 1,800 บาท สำหรับกล่องแบบเอชดี ส่วนเอสดีจะมีราคาที่ถูกลงมาอีก แล้วจ่ายเพิ่มในส่วนของแพกเกจการรับชมอีกส่วนหนึ่ง ส่วนการติดตั้งเพิ่มจุดที่ 2, 3 จะเสียเฉพาะค่ามัดจำกล่องเพิ่มแต่ละกล่องในราคาเดียวกัน 2. การรับชมผ่านระบบจานดาวเทียม จะเสียค่ากล่อง ค่าติดตั้ง และจานรับสัญญาณ รวม 999 บาท แล้วจ่ายเพิ่มในส่วนของแพกเกจการรับชมอีกส่วนหนึ่งเช่นกัน

ขณะที่แพกเกจรายเดือนนั้น เบื้องต้นจะมี 4 แพกเกจ คือ 1. แพกเกจ 199 บาท/เดือน รับชมได้ 79 ช่อง 2. แพกเกจ 299 บาท/เดือน รับชมได้ 107 ช่อง 3. แพกเกจ 399 บาท/เดือน รับชมได้ 120 ช่อง ซึ่งทั้ง 3 แพกเกจนี้จะมีช่องพรีเมียร์ลีกให้ชม 1 ช่อง และทั้งหมดไม่มีช่องเอชดี ส่วน 4. แพกเกจ 899 บาท/เดือน รับชมได้ 125 ช่อง โดยจะมี 5 ช่องเป็นช่องพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะ และสามารถรับชมช่องเอชดีรวมไม่ต่ำกว่า 30 ช่องด้วย ทั้งนี้ ในอนาคตยังจะมีแพกเกจย่อยออกมาให้บริการเพิ่มอีก ไม่ว่าจะเป็นแพกเกจแบบเลือกชมในคู่ที่ชอบ หรือเลือกซื้อช่องพรีเมียร์ลีกเป็นรายช่อง ราคาช่องละ 100 บาท หรือรับชมผ่านมือถือที่จะมีการร่วมมือกันกับเอไอเอสด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ซีทีเอชยังได้เช่าช่องสัญญาณจานดาวเทียม วีนาแซค ของประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับกลุ่มสมาชิกใหม่ในส่วนของการรับชมผ่านจานดาวเทียมด้วย

ด้านนายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ทางซีทีเอชได้สปอนเซอร์หลักพรีเมียร์ลีกแล้ว 5 ราย คือ เอ.พี.ฮอนด้า, สิงห์, โตโยต้า, เอไอเอส และการบินไทย โดยจะมีเพิ่มเข้ามาอีก 2 ราย และเมื่อรวมสปอนเซอร์ทุกแพกเกจรวมกันตอนนี้มีแล้วกว่า 8-9 ราย โดยทางบริษัทยังเปิดกว้างรับสปอนเซอร์อีกต่อเนื่องในแพกเกจรองลงมา ส่งผลให้เชื่อว่าจะทำให้มีรายได้จากสปอนเซอร์ไม่ต่ำกว่า 3,000-5,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนแพกเกจราคาสมาชิกนั้นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีก 20 วันข้างหน้า

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2013-06-14 11:50:12



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.