ReadyPlanet.com


ข่าวดาวเทียมวันที่12มิถุนายน2012


ทรูฯออกแถลงการณ์ยก10ล้านครัวเรือนจอดำกระทบหนัก-ผิดหวัง"แกรมมี่"

ทรูวิชั่นส์ ประกาศขอโทษสมาชิก จี้ ภาครัฐ/กสทช. สร้างความชัดเจนระบุ 10ล้านครัวเรือนกระทบ และผิดหวังแกรมมี่หลังถูกจํากัดสิทธิ์

ทรูวิชั่นส์ ต้องขออภัยผู้ชมในระบบของทรูวิชั่นส์ ที่ไม่สามารถรับชมฟุตบอล Euro 2012 ผ่านช่องฟรีทีวี 3, 5, 9 ที่ถ่ายทอดผ่านระบบของทรูวิชั่นส์ได้ เนื่องจากการระงับการเผยเเพร่จากช่องฟรีทีวี 3, 5, 9 ตามข้อตกลงกับผู้ถือลิขสิทธิ์ (บริษัท GMM Grammy) โดยจำกัดสิทธิ์การถ่ายทอดต่อ หรือ rebroadcast ฟุตบอลยูโร ไม่ให้เผยเเพร่ในทุกระบบทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ชมจะรับชมบอลยูโรบนฟรีทีวีโดยผ่านระบบเสาสัญญาน หนวดกุ้ง หรือระบบคลื่นสัญญานเเนวราบ (terrestrial tv) เท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างทำให้ผู้ชมในระบบดาวเทียมกว่าสิบล้านครัวเรือนไม่สามารถรับชมได้

ทรูวิชั่นส์ มีความรู้สึกผิดหวังต่อการจํากัดสิทธิ์ของฟรีทีวีในครั้งนี้ เพราะตลอดมานั้นไม่เคยมีการจํากัดสิทธิ์สาธารณชน ในการเผยเเพร่ในกรณีช่องฟรีทีวีมาก่อน ผู้ชมในระบบจานหรือเคเบิลต่างๆ สามารถรับชมการส่งต่อการเผยเเพร่รายการถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร หรือ ฟุตบอลอื่นบนช่องฟรีทีวีได้

ในอดีต ตามที่ ทรูวิชั่นส์ เป็นผู้ถือสิทธิ์ English Premier League ก็ไม่จำกัดสิทธิ์ในกรณีที่ให้สิทธิ์ฟรีทีวีเผยแพร่ เพราะตระหนักดีว่าช่องฟรีทีวีเป็นระบบเปิดที่เป็นสิทธิ์ที่สาธารณชนพึงได้รับชมไม่ว่าบนระบบอะไรก็ตาม ด้วยสาเหตุนี้ ที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์จึงมิได้มีการเจรจา หลังจากทราบว่าผู้ถือสิทธิ์ได้ให้สิทธิ์กับฟรีทีวีไปเเล้ว เพราะเข้าใจว่าเมื่อถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีแล้ว ก็สามารถแพร่ภาพต่อได้โดยเสรีดังที่ยึดปฏิบัติกันมาในสากล

ทรูวิชั่นส์ต้องการเรียกร้องให้ ภาครัฐ/กสทช สร้างความชัดเจนเเละสร้างมาตรฐานต่อฟรีทีวีให้เผยเเพร่รายการที่ไม่จํากัดสิทธิ์คนดูในทุกระบบ ตลอดจนสร้างมาตรฐาน ต่อผู้ถือลิขสิทธิ์ในการให้สิทธิ์ต่อ
ฟรีทีวี โดยมิให้จํากัดสิทธิ์ในการเผยเเพร่ต่อจากฟรีทีวี

ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ ก็ยังใช้ความพยายามในการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้เพื่อประโยชน์ต่อสมาชิกทรูวิชั่นส์และผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นสัปดาห์นี้



ผู้ตั้งกระทู้ ข่าวดาวเทียมวันที่12มิถุนายน2012 :: วันที่ลงประกาศ 2012-06-12 22:15:09


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3289361)

ผู้บริหาร RS ทวิตสอน GMM อย่าคิดว่าผู้บริโภคโง่ ชี้ทำอย่างนี้ “ยูโร 2012” จะไม่มีใครได้ประโยชน์
วันที่ 2012-06-09 13:59:30 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ธุรกิจ

tags : ทรูวิชั่น แกรมมี่ เดือดร้อน ผู้บริโภค ผู้บริหาร ดาวเทียม ลงโฆษณา อาร์เอส 

กรุงเทพมหานครASTVผู้จัดการ – ผู้บริหารอาร์เอสทวิตสอนแกรมมี่หลังบีบคอ “ดาวเทียม-เคเบิล-ทรูวิชั่นส์” ล็อกถ่ายทอดยูโร 2012 จนผู้ชมเดือดร้อน ระบุแม้ของฟรีไม่มีในโลก แต่เกมที่จะชนะได้ยาวๆ คือชนะใจผู้บริโภค ยันอ้างยูฟ่า-อ้างสัญญาณล้นฟังไม่ขึ้น ชี้ล็อกสัญญาณไม่เพียงผู้บริโภคเสีย แต่สปอนเซอร์ลงโฆษณาก็เหมือนถูกหลอกด้วย สุดท้ายไม่มีใครได้ประโยชน์

จากปมปัญหา กรณีบริษัทบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ถือครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม ทำการล็อกสัญญาณถ่ายทอดสยูโร 2012 ที่ออกอากาศผ่านทางฟรีทีวี ช่อง 3 ช่อง 5 และช่อง 9 โดยไม่ให้ผู้ชมที่ติดตั้งกล่องรับสัญญาณดาวเทียม และสมาชิกทรูวิชั่นส์ที่เสียค่าบริการรายเดือนรับชม โดยบังคับให้ซื้อเสาอากาศแบบก้างปลา หรือต้องซื้อกล่องรับสัญญาณดาวเทียมจีเอ็มเอ็มแซดเพื่อรับชมการถ่ายทอดสด

ช่วงเที่ยงวันนี้ (9 มิ.ย.) นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนตัว @KungPornpan แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวเป็นข้อความทางทวิตเตอร์จำนวน 18 ข้อความ ระบุว่า แม้ของฟรีจะไม่มีในโลก แต่การดำเนินการทางธุรกิจก็จำเป็นต้องคำนึงว่า จะต้องเล่นอยู่ในเกม กติกาเพื่อให้ทุกคนไม่เดือดร้อน และไม่เป็นการสร้างมาตรฐานที่ย่ำแย่ให้กับอุตสาหกรรม

“ธุรกิจเกิดนวัตกรรมตลอดเวลาตามความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการที่ปรับตัวไปพร้อมกับตลาดแต่ทั้งหมดควรอยู่บนพื้นฐานที่ไม่หลอกลวงผู้บริโภค การสร้างเกม win-lose ในโลกปัจจุบันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครโง่กว่าใคร เขาอาจจะยอมคุณก็เพราะไม่มีทางเลือกแต่ไม่มีวันชนะได้ในระยะยาว เกมที่จะชนะยาวๆ คือชนะใจผู้บริโภค เกมที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบ win-lose (ฉันจะบีบทุกคนให้ยอมเดินในเกมของฉัน) สุดท้ายก็เป็นเกมที่ lose-lose ของทุกคน” ผู้บริหารของอาร์เอส ซึ่งเคยได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ระบุ

นอกจากนี้ยังกล่าวต่อด้วยกว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่อยากกล่าวพาดพิงบริษัทคู่แข่งแต่เห็นได้ชัดว่าวิธีการชี้แจงของผู้บริหารเครือแกรมมี่มีปัญหา เพราะการหลอกคนดูว่าจอดำเพราะยูฟ่าเจ้าของลิขสิทธิ์บังคับมานั้นเป็นคำอ้างที่ตื้นเขินเกินไป เพราะการเข้ารหัสสัญญาณปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

“วันนี้ไม่เหมือนเดิม กล่องรับสัญญาณของพีเอสไอ บิ๊กโฟร์ ดีทีวี สามารถเข้ารหัสแบบไม่มีเงื่อนไขได้เกือบทั้งตลาด ทรูวิชั่นส์ก็เป็นระบบปิด100% การอ้างเรื่องสัญญาณล้น หรือสัญญากับยูฟ่า มีได้แค่ 2 อย่าง คนพูดไม่รู้จริงๆ หรือไม่ก็ตั้งใจหลอกประชาชนทั้งประเทศ” นางพรพรรณระบุ และว่า“ของซื้อ ของขายไม่มีใครว่า ถ้าจะเก็บตังค์ก็บอกกันตรงๆ ส่วนไหนจะให้ดูฟรี ก็ต้องฟรีจริงๆ ไม่ใช่ฟรีเฉพาะส่วนที่คิดไม่ออกว่าจะหลอกยังไง ยูฟ่าหรือฟีฟ่าอยากให้ถ่ายฟรีบางส่วนอยู่แล้ว แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ซื้อสิทธิ์หาเงินได้สำหรับการได้ดูครบทั้งทัวร์นาเมนต์ มาวันนี้สปอนเซอร์ถูกหลอกก็มาทวงถามว่าจะชดเชยให้เขาอย่างไร เกมนี้มองไม่เห็นว่าใครได้ เสียหายกันทุกส่วน”

สำหรับความเห็นทั้งหมดของ “คุณกุ้ง” พรพรรณ หรือ ซีโอโอของ บมจ.อาร์เอส ต่อปมปัญหาการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 มีดังนี้

“ถามทัศนะส่วนตัวกันเข้ามาเยอะเกี่ยวกับกรณียูโร ขอเล่าประมาณนี้ค่ะ ถูกค่ะของฟรีไม่มีในโลก แต่เราก็ควรเล่นอยู่ในเกม กติกาเพื่อให้ทุกฝ่ายไม่เดือดร้อน เรื่องของคอนเทนต์ก็มีอยู่แค่ว่าคุณจะหารายได้หลักจากอะไร

“หากอยากหารายได้จากโฆษณาก็เปิดให้คนดูฟรีไม่ต้องเสียเงินเพื่อดูคอนเทนต์นั้นๆ จะได้มีคนดูเยอะๆสปอนเซอร์ก็จะยอมจ่ายเงินโฆษณาในราคาที่สูง หากอยากหารายได้จากคอนเทนต์โดยตรงก็ใช้วิธีเก็บเงินค่าดู อาจจะอยู่ในรูปแบบของค่าสมาชิกรายเดือน (monthly subscription) หรือ ให้ลูกค้าจ่ายต่อการดูเป็นครั้งๆ (pay per view) หรือหากเป็นการตั้งต้นธุรกิจใหม่อาจใช้คอนเทนต์ที่แข็งแรงนี้ในการสร้างฐานจำนวนกล่องในตลาด

“ธุรกิจเกิดนวัตกรรมตลอดเวลาตามความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการที่ปรับตัวไปพร้อมกับตลาดแต่ทั้งหมดควรอยู่บนพื้นฐานที่ไม่หลอกลวงผู้บริโภค การสร้างเกม win-lose ในโลกปัจจุบันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครโง่กว่าใคร เขาอาจจะยอมคุณก็เพราะไม่มีทางเลือกแต่ไม่มีวันชนะได้ในระยะยาว เกมที่จะชนะยาวๆ คือชนะใจผู้บริโภค เกมที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบwin-lose(ฉันจะบีบทุกคนให้ยอมเดินในเกมของฉัน)สุดท้ายก็เป็นเกมที่ lose-loseของทุกคน

“เรื่องที่เกิดขึ้นบอกตามตรงว่าเรารู้มานานแล้ว พยายามเตือนไปทุกทางที่ทำได้ว่าอย่าเดินเกมนี้ เดือดร้อนทุกฝ่าย สร้างมาตรฐานแย่ๆ ในอุตสาหกรรม การหลอกคนดูว่าจอดำเพราะยูฟ่าบังคับนั้นมันตื้นเขินเกินไป การเข้ารหัสสัญญาณเป็นเรื่องใหม่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่โลกหมุนเร็วมาก วันนี้ไม่เหมือนเดิม กล่องรับสัญญาณของพีเอสไอ บิ๊กโฟร์ ดีทีวี สามารถเข้ารหัสแบบไม่มีเงื่อนไขได้เกือบทั้งตลาด ทรูวิชั่นส์ก็เป็นระบบปิด100% การอ้างเรื่องสัญญาณล้น หรือสัญญากับยูฟ่า มีได้แค่ 2 อย่าง คนพูดไม่รู้จริงๆ หรือไม่ก็ตั้งใจหลอกประชาชนทั้งประเทศ

“ของซื้อ ของขายไม่มีใครว่า ถ้าจะเก็บตังค์ก็บอกกันตรงๆ ส่วนไหนจะให้ดูฟรี ก็ต้องฟรีจริงๆ ไม่ใช่ฟรีเฉพาะส่วนที่คิดไม่ออกว่าจะหลอกยังไง ยูฟ่าหรือฟีฟ่าอยากให้ถ่ายฟรีบางส่วนอยู่แล้ว แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ซื้อสิทธิ์หาเงินได้สำหรับการได้ดูครบทั้งทัวร์นาเมนต์ มาวันนี้สปอนเซอร์ถูกหลอกก็มาทวงถามว่าจะชดเชยให้เขาอย่างไร เกมนี้มองไม่เห็นว่าใครได้ เสียหายกันทุกส่วน”

“ก่อนหน้านี้ไม่อยากพาดพิงเลย แต่การพยายามออกสื่ออย่างต่อเนื่องแล้วพูดว่ายังไงก็ไม่ปลดล็อคสัญญาณมันเป็นการดูถูกคนฟังมากๆ หวังว่าผู้ติดตามคงได้รับความเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลระดับโลกรายการนี้ไปบ้าง คู่แข่งนั้นไม่ใช่ศัตรู เค้าทำดีเราก็เก็บมาคิดแล้วปรับใช้ สิ่งใดเค้าทำแย่ เราก็เก็บมาเป็นบทเรียนเตือนใจว่าอย่าเดินย่ำไปบนความผิดพลาดนั้น จบแล้วค่ะ ขอไปทำหน้าที่แม่ในวันหยุดต่อนะคะ”

สำหรับ ทวิตเตอร์ @KungPornpan ของนางพรพรรณ แม้จะมีผู้ติดตามอยู่ราว 5,000 คน แต่ข้อความดังกล่าวถูก “เฮียฮ้อ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอาร์เอสซึ่งใช้ทวิตเตอร์เป็นประจำในนาม @HereHorRS และมีผู้ติดตามมากกว่า 78,000 คนนำไปทวิตต่อ (Retweet) จึงเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นประเด็นถกเถียงกันในวงกว้าง โดยเฉพาะในช่วงต้นเทศกาลฟุตบอลยูโร ณ เวลานี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ดูบอลยูโร 2012 ต้องจ่าย “กู๋” เท่านั้น ฟรีทีวีของกู (ไม่ใช่ของอากู๋) “จิตตนาถ” ประณาม “อากู๋” คุกคามสิทธิคนไทย สลดใจ กสทช.เอาใจนายทุน แนะ ปชช.มีมาตรการสั่งสอน เคลียร์ไม่ลงตัว!! เปิดสนามยูโรทรูฯ จอดำ กสทช.หย่าศึกจอดำบอลยูโร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวดาวเทียม วันที่ตอบ 2012-06-12 22:18:20


ความคิดเห็นที่ 2 (3289362)

ทรูฯออกแถลงการณ์ยก10ล้านครัวเรือนจอดำกระทบหนัก-ผิดหวัง"แกรมมี่"
วันที่ 2012-06-09 18:00:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวเด่นประจำวัน

 tags : ทรูวิชั่น แกรมมี่ ทรู ผิดหวัง จอดำ ฟุตบอล ประกาศ ชัดเจน 

ทรูวิชั่นส์ ประกาศขอโทษสมาชิก จี้ ภาครัฐ/กสทช. สร้างความชัดเจนระบุ 10ล้านครัวเรือนกระทบ และผิดหวังแกรมมี่หลังถูกจํากัดสิทธิ์

เอกสารชี้แจงเพิ่มเติมจากทรูวิชั่นส์ กรณียูโร 2012

ทรูวิชั่นส์ ต้องขออภัยผู้ชมในระบบของทรูวิชั่นส์ ที่ไม่สามารถรับชมฟุตบอล Euro 2012 ผ่านช่องฟรีทีวี 3, 5, 9 ที่ถ่ายทอดผ่านระบบของทรูวิชั่นส์ได้ เนื่องจากการระงับการเผยเเพร่จากช่องฟรีทีวี 3, 5, 9 ตามข้อตกลงกับผู้ถือลิขสิทธิ์ (บริษัท GMM Grammy) โดยจำกัดสิทธิ์การถ่ายทอดต่อ หรือ rebroadcast ฟุตบอลยูโร ไม่ให้เผยเเพร่ในทุกระบบทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ชมจะรับชมบอลยูโรบนฟรีทีวีโดยผ่านระบบเสาสัญญาน หนวดกุ้ง หรือระบบคลื่นสัญญานเเนวราบ (terrestrial tv) เท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างทำให้ผู้ชมในระบบดาวเทียมกว่าสิบล้านครัวเรือนไม่สามารถรับชมได้

ทรูวิชั่นส์ มีความรู้สึกผิดหวังต่อการจํากัดสิทธิ์ของฟรีทีวีในครั้งนี้ เพราะตลอดมานั้นไม่เคยมีการจํากัดสิทธิ์สาธารณชน ในการเผยเเพร่ในกรณีช่องฟรีทีวีมาก่อน ผู้ชมในระบบจานหรือเคเบิลต่างๆ สามารถรับชมการส่งต่อการเผยเเพร่รายการถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร หรือ ฟุตบอลอื่นบนช่องฟรีทีวีได้

ในอดีต ตามที่ ทรูวิชั่นส์ เป็นผู้ถือสิทธิ์ English Premier League ก็ไม่จำกัดสิทธิ์ในกรณีที่ให้สิทธิ์ฟรีทีวีเผยแพร่ เพราะตระหนักดีว่าช่องฟรีทีวีเป็นระบบเปิดที่เป็นสิทธิ์ที่สาธารณชนพึงได้รับชมไม่ว่าบนระบบอะไรก็ตาม ด้วยสาเหตุนี้ ที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์จึงมิได้มีการเจรจา หลังจากทราบว่าผู้ถือสิทธิ์ได้ให้สิทธิ์กับฟรีทีวีไปเเล้ว เพราะเข้าใจว่าเมื่อถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีแล้ว ก็สามารถแพร่ภาพต่อได้โดยเสรีดังที่ยึดปฏิบัติกันมาในสากล

ทรูวิชั่นส์ต้องการเรียกร้องให้ ภาครัฐ/กสทช สร้างความชัดเจนเเละสร้างมาตรฐานต่อฟรีทีวีให้เผยเเพร่รายการที่ไม่จํากัดสิทธิ์คนดูในทุกระบบ ตลอดจนสร้างมาตรฐาน ต่อผู้ถือลิขสิทธิ์ในการให้สิทธิ์ต่อ
ฟรีทีวี โดยมิให้จํากัดสิทธิ์ในการเผยเเพร่ต่อจากฟรีทีวี

ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ ก็ยังใช้ความพยายามในการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้เพื่อประโยชน์ต่อสมาชิกทรูวิชั่นส์และผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นสัปดาห์นี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวดาวเทียม วันที่ตอบ 2012-06-12 22:22:14


ความคิดเห็นที่ 3 (3289363)

จอดำ “ยูโร2012” กสทช.แค่เสือกระดาษ?

วันที่ 2012-06-10 21:20:13 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กีฬา

tags : การแข่งขันฟุตบอล astvผู้จัดการ ฟุตบอล ผู้จัดการ สุดสัปดาห์ จอดำ 2012 ความขัดแย้ง 
ตราดASTVผู้จัดการรายวัน-การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 ซึ่งมีเจ้าภาพร่วมสองประเทศคือ โปแลนด์ - ยูเครน เริ่มต้นการแข่งขันนัดแรกไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนตลอดทั้งสุดสัปดาห์ที่ผ่านผลของการแข่งขันจะไม่ร้อนแรงเท่ากับกรณีจอดำ อันเกิดจากการเจรจาที่ไม่ลงตัวระหว่าง แกรมมี่ ในฐานะเจ้าของกล่องรับสัญญาณดาวเทียม GMMZ ที่ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายสัญญานการแข่งขัน และ ทรูวิชั่น เจ้าของเคเบิลบอกรับสมาชิกรายใหญ่ของเมืองไทย ถึงเวลานี้ความขัดแย้งอยู่ในระหว่างเจรจาหากมีประเด็นที่แฟนบอลมองผ่านไปคือการทำหน้าที่ของ กสทช. ต่อการกำกับดูแลฟรีทีวี ซึ่งดร.นิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคม นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย)ได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นหน้าที่โดยตรงของ กสทช.มิเช่นนั้นแล้วผู้บริโภคจะถูกเอาเปรียบเช่นนี้อยู่ร่ำไป

หลังจากความขัดแย้งระหว่างแกรมมี่ และ ทรูวิชั่น กลายเป็นประเด็นข่าวที่ทำให้แฟนฟุตบอลยูโร 2012 ต้องคอยติดตามกันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการเจรจาในภาคแรก ที่มี กสทช ไม่สามารถหาข้อตกลงได้ ทำให้แฟนบอลในเมืองไทยที่ติดจานรับสัญญานของทรูวิชั่น หรือ จานดาวเทียมของเจ้าอื่นแต่ไม่ได้ซื้อกล่องรับสัญญาน GMMZ ต้องพลาดการรับชมการแข่งขันในช่วงเวลาถ่ายทอดสด พลันวันรุ่งขึ้น เสียงของแฟนบอลที่ไม่ได้รับชมก็กระหึ่มเมือง ส่วนหนึ่งกล่าวโทษทรูวิชั่น ด้วยเข้าใจว่า ทรูฯไม่ยอมจ่ายเงินให้เจ้าของลิขสิทธิ์เลยทำให้ไม่ได้ชมการแข่งขัน อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ติดจากรับสัญญานของทรูวิชั่น แต่ติดจานรับสัญญานในรูปแบบที่ไม่ต้องเสียสมาชิกรายเดือน หากไม่ได้ซื้อกล่อง GMMZ มองว่า แกรมมี่ ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดว่ามัดมือชกให้ผู้บริโภคต้องไปซื้อกล่องรับสัญญานชนิดไม่มีทางเลี่ยง

ล่าสุด นาย ธนา เธียรอัจฉริยะ ซีอีโอของ GMMZ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเจรจากับทรูวิชั่น ผ่านสื่อเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิย.ที่ผ่านมาว่า "หากเจรจากับทางทรูฯ ได้จริง ทางทรูฯ ก็ต้องเปิดสัญญาณเพิ่มช่องชั่วคราวขึ้นมาอีกหนึ่งช่อง เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรฯ แพร่ภาพเป็น “ช่องฟรีทีวีเทียม” (ช่องรับสัญญานที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่) ที่อยู่บนกล่องทีวีแบบบอกรับสมาชิก เหมือนๆกับผู้ชมที่ชมทางกล่อง GMMZ ที่รับชมอยู่ในช่องที่ถูกเพิ่มขึ้นมาชั่วคราวในกล่อง" จากถ้อยคำของนายธนา แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ยูโร 2012 นั้นไม่สามารถชมผ่านฟรีทีวีได้อยู่แล้วเนื่องจากทางยูฟ่าฯ ไม่ยอมให้สัญญาณรั่วไหลเพียงแต่ กล่องรับสัญญาน GMMZ นั้นยังไม่มีจำนวนสมาชิกที่มากพอทำให้ แกรมมี่ใช้ช่องทางจากฟรีทีวี เป็นทางเข้าเพื่อดึงดูดแฟนบอลโดยใช้คำโฆษณาว่า "ใครๆก็ดูได้" (มิใช่ดูฟรี) นั่นหมายถึงต้องซื้อกล่องถึงจะได้รับชมการถ่ายทอดสด

ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นถ้ามองแบบผ่านๆ อาจเห็นว่าเป็นเรื่องขัดแย้งของภาคเอกชนสองเจ้าที่กำลังต่อสู้เรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอล และใช้คนดูเป็นตัวประกัน แต่ถ้าขยายความชัดเจนขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น จะพบว่านี่คือเรื่องที่กำลังกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภคทั้งประเทศ และคณะทำงานภาครัฐที่ต้องดูแลไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบไปมากกว่านี้คือ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ซึ่งเป็นผู้กำกับและดูแลฟรีทีวีอันหมายถึง 3-5-7-9-11 และ ไทยพีบีเอส ไม่ให้ช่องฟรีทีวีนั้นจำกัดสิทธิคนดู โดยดร.นิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) ได้ให้สัมภาษณ์แบบไขความกระจ่างต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า

"ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การขัดแย้งระหว่าง แกรมมี่ กับ ทรูวิชั่นอย่างเดียว หากแต่เป็นการวัดความสามารถในการทำงานของ กสทช. ที่จะใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่หรือไม่ ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้ามองตามเหตุการณ์แล้วไปดูกฎหมายลิขสิทธิ์นั้น แกรมมี่ ถูกต้องทั้งหมดในฐานะเจ้าของสิทธิ์การถ่ายทอดสด แต่ถ้าไปดูตามพรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 32 ส่วนที่ 4 ที่ระบุว่า "เพื่อส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม และป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาด ลด หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ให้การประกอบกิจการของผู้รับใบอนุญาตอยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าและมาตรการเฉพาะที่คณะกรรมการประกาศกำหนดตามลักษณะการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์การกระทำอันเป็นการผูกขาด ลด หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ ให้หมายความรวมถึงการถือครองธุรกิจในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกันหรือการใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ติดตั้งเป็นพิเศษเพื่อรับสัญญาณเสียงหรือภาพในลักษณะที่กีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม"

จากใจความสำคัญในพรบ.ดังกล่าว นั้นดร.นิพนธ์ นาคสมภพ มองว่าเป็นสิ่งที่ทาง แกรมมี่ กำลังละเมิดสิทธิของผู้บริโภคนอกจากนี้ แกรมมี่ ยังไม่สามารถห้ามฟรีทีวี ทำการเผยแพร่การแข่งขันด้วยวิธีการหรือเครื่องมือใดๆด้วยเช่นกัน ซึ่งนายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า "ฟรีทีวีนั้นอยู่ในความควบคุมของ กสทช. ดังนั้นแกรมมี่ จึงไม่สามารถไปห้ามไม่ให้เผยแพร่ภาพได้ แต่ประเด็นที่ต้องจับตามองต่อจากนี้คือ กสทช. ต้องทำหน้าที่ในฐานะองค์กรภาครัฐที่ดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งก็หมายถึงคนดู ซึ่งในเวลานี้ดูเหมือน กสทช. เพิกเฉยต่อหน้าที่ของตนเองในการควบคุมดูแลช่องฟรีทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้ พรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ในมาตราดังกล่าว อันทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนและถูกเอาเปรียบ"

ดร.นิพนธ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่ใช่ครั้งแรกฟุตบอลโลก 2010 ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายกันและสุดท้ายทาง เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ต้องเผยแพร่ภาพออกมา เพราะถ้าว่ากันตามกฎหมายเขาไม่สามารถห้ามฟรีทีวีได้ และที่ผ่านมาทางสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) มิได้เพิกเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้นได้นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อ กสทช. มาโดยตลอดเพราะทางสมาคมฯมีมติเห็นชอบร่วมกันว่า การถ่ายทอดสด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกีฬา หรือ มหกรรมอื่นใดที่อยู่ในระดับชาติ โดยเฉพาะในกรณีที่ได้รับความสนับสนุนจากภาครัฐอย่าง โอลิมปิก ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดในระดับชาติ เป็นเรื่องที่สาธารณชนควรจะได้ชมไม่ควรผูกขาด นอกจากนี้มติดังกล่าวของสมาคมฯ ยังมีวัตถุประสงค์ป้องกันไม่ให้เงินรั่วไหลไปยังเจ้าของสิทธิต่างชาติมากเกินไปในกรณีที่ต้องไปประมูลเพื่อซื้อลิขสิทธิมาเผยแพร่"

ทั้งนี้ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย)ได้ทิ้งท้ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ว่า "หาก กสทช. เพิกเฉยต่อ พรบ.ข้อดังกล่าวคนที่เดือดร้อนไม่ใช่แกรมมี่ หรือ ทรูวิชั่น หากแต่เป็นผู้บริโภค และเหตุการณ์ในครั้งนี้ กสทช. ควรจะใช้อำนาจในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะมิเช่นนั้นแล้วบทสรุปจากเรื่องที่เกิดขึ้น จะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อไปหากมีเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นในอนาคต และท้ายที่สุดผู้บริโภคต้องตกเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป"

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวดาวเทียม ลงวันที่ 12มิถุนายน2012 วันที่ตอบ 2012-06-12 22:24:58


ความคิดเห็นที่ 4 (3289365)

แกรมมี่ออกแถลงการณ์อัด"ทรูฯ" จี้ให้แจ้งสมาชิกตรงไปตรงมา

วันที่ 2012-06-11 15:15:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวเด่นประจำวัน

tags : แกรมมี่ ทรูวิชั่น เข้าใจ ทรู ฟุตบอล ความเข้าใจ สมาชิก การแข่งขันฟุตบอล 

"แกรมมี่"ออกแถลงการณ์ยาวอัดทรูวิชั่นส์ ที่ผ่านมารับรู้เงื่อนไขจอดำมาตลอด ระบุควรทำความเข้าใจกับสมาชิกอย่างตรงไปตรงมาและเคารพในเรื่องลิขสิทธิ

สืบเนื่องจากกรณีเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ในเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2012 ที่ยังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ และมีสัญญาณว่ากำลังจะถูกบิดเบือนจากประเด็นทางธุรกิจให้กลายป็นประเด็นทางสังคม

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในฐานะผู้ได้สิทธิ์เผยแพร่การถ่ายทอดฟุตบอลยูโร แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตระหนักถึงการทำธุรกิจบนพื้นฐานของคุณธรรมและความถูกต้อง ซึ่งเป็นแนวทางที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ยึดถือและปฏิบัติมาตลอด 30 ปี จึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจในการบริหารสิทธิ์และการรับชมฟุตบอลยูโรอีกครั้ง

การได้ลิขสิทธิ์ของ ฟุตบอลยูโร 2012 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ได้ลิขสิทธิ์เผยแพร่ในทุกช่องทางการรับชม (All rights) ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินในการประมูลค่าลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาล มีการประมูลแข่งขันกับผู้ประกอบการในประเทศหลายราย เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายในการผลิตแล้ว เป็นตัวเลขสูงกว่า 400 ล้านบาท การบริหารสิทธิ์ที่ได้มาครั้งนี้จึงอยู่บนความชอบธรรมที่ผู้ได้รับสิทธิ์จะดำเนินภายใต้วิธีการบริหารจัดการที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บริโภคที่พึงได้รับสิทธิ์ในแต่ละช่องทางการรับชม

ซึ่งเงื่อนไขสำคัญในก่อนการประมูลนั้น ผู้เข้าประมูลจะต้องระบุถึงช่องทางการรับชมเสนอต่อ ยูฟ่า ผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์ อย่างชัดเจน เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการเผยแพร่การแข่งขันระดับโลกครั้งนี้สู่ผู้ชมอย่างกว้างขวางและเพียงพอต่อมาตรฐานที่ยูฟ่ากำหนด และต้องเผยแพร่การถ่ายทอดการแข่งขันครั้งนี้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆจะต้องขออนุญาตและได้รับความเห็นชอบจากยูฟ่าก่อนทุกกรณี หลักการนี้เป็นหลักการสากลที่ผู้เคยเจรจาซื้อลิขสิทธิ์กับยูฟ่าย่อมรู้ดี

การเจรจาเพื่อหาพันธมิตรในการจับมือทางธุรกิจช่องทางการรับชมช่องทางต่างๆ จึงเริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงกลางปี 2554 โดยเฉพาะ 3 ช่องทางการรับชมหลัก ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ของคนไทยปัจจุบันนี้ คือ ฟรีทีวี ระบบภาคพื้นดิน (terrestrial TV), เคเบิลทีวี ทางสาย coaxial (Cable TV), และ โทรทัศน์ดาวเทียม (satellite TV) ซึ่งระบุตัวเลขรวมของผู้ชมโดยรายงานล่าสุดของ AGB Nielsen เมื่อเดือน สิงหาคม 2511 ประมาณ 22 ล้าน ครัวเรือน เป็นผู้ชมฟรีทีวีผ่านเสาอากาศ เสาก้างปลา ประมาณ 10.9 ล้านครัวเรือน ผ่านระบบเคเบิลทีวีท้องถิ่น 2.3 ล้านครัวเรือน ที่เหลือเป็นระบบจานดาวเทียมทั้ง ซีแบนด์ และเคยูแบนด์ ประมาณ 6.8 ล้าน และของทรูวิชั่น อีก 1.8 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นตัวเลขที่รวบรวมก่อนสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา และไม่รู้ว่าฐานผู้ชมในแต่ละระบบ ณ ปัจจุบันคือเท่าใด แต่ที่แน่ๆหลังน้ำลดผู้ชมกว่าครึ่งประเทศต้องเปลี่ยนทีวี และเครื่องรับสัญญานใหม่เกือบทั้งหมด

ในช่องทางฟรีทีวี จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ บรรลุข้อตกลงกับ ช่อง 3 , 5 และ9 ในรูปแบบความร่วมมือทางธุรกิจ การหาโฆษณาและแบ่งรายได้ โดยใช้ฐานผู้ชมจากตัวเลขของ AGB Nielsen เป็นฐานในการนำเสนอแพคเกจต่อผู้สนับสนุน เพราะคำว่า ฟรีทีวี ยูฟ่าระบุชัดเจนว่าเป็นการรับชมในภาคพื้นดิน ที่รับชมอย่างอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขผ่านเสาอากาศทุกประเภทเท่านั้น

หากฟรีทีวีที่นำสัญญาณไปทวนซ้ำ หรือ rebroadcast ในระบบดาวเทียม เช่นกรณี ทรู , DTV , IPM โดยเฉพาะทรูซึ่งมีรายได้จากการบอกรับสมาชิกและช่องรายการฟรีทีวีก็รวมอยู่ในแพคเกจที่ต้องจ่ายค่าสมาชิกด้วย ซึ่งถือเป็นสิทธิ์อีกช่องทางหนึ่งและต้องมีระบบการเข้ารหัสสัญญาน หรือ encryption เพื่อไม่ให้สัญญาณหลุดออกนอกประเทศ อันเป็นกติกาที่ฟรีทีวีทุกช่องทราบดี และไม่ใช่เฉพาะฟุตบอลยูโร เท่านั้น การแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ระดับโลกอื่นๆ ก็ล้วนต้องเข้ารหัสทั้งสิ้นหากต้องยิงสัญญานผ่านดาวเทียม

เมื่อการ rebroadcast ถือเป็นสิทธิ์ที่นอกเหนือจากฟรีทีวี จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จึงมีความชอบธรรมในการหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อร่วมบริหารสิทธิ์ในแต่ละช่องทางต่างๆเหล่านั้นต่อไป

ณ เวลานั้น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ วางนโยบายในการร่วมมือกับทุกกลุ่มพันธมิตร เพื่อร่วมบริหารสิทธิ์ในแต่ละช่องทางให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกัน พร้อมกันนั้น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ประกาศชัดเจนในการเข้าสู่ธุรกิจ แพลทฟอร์ม ด้วยการเปิดตัวกล่องรับสัญญานดาวเทียม ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น จีเอ็มเอ็ม แซท ในภายหลัง โดย จีเอ็มเอ็มแซทได้แสดงจุดยืนในการบอกต่อสาธารณะมาตลอด ถึงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลยูโรจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่นี้ แต่พร้อมจะแบ่งปันคอนเทนท์เพื่อร่วมบริหารสิทธิ์ และลดต้นทุนที่จีเอ็มเอ็มต้องแบกรับ และมีความเชื่อมาโดยตลอดว่า การร่วมกัน แบ่งปันกันจะสร้างความมั่นคงให้ธุรกิจนี้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และเปลี่ยนแนวคิดในลักษณะการซื้อแบบผูกขาด exclusive รวมทั้งการตั้งความหวังการรวมตัวเพื่อร่วมกันซื้อคอนเท้นท์ระดับโลก เพื่อให้คนไทยทุกระดับได้รับชมเป็นวงกว้างในราคาที่ถูกลง

ทรูวิชั่น คือพันธมิตรอันดับต้นๆ ที่ จีเอ็มเอ็ม ให้ความสำคัญ เสนอไมตรีในการหารือความเป็นไปได้ทางธุรกิจในการร่วมบริหารสิทธิ์ช่องทางของทีวีดาวเทียม ตั้งแต่ปลายปี 2554 เพราะเล็งเห็นว่า กลุ่มเป้าหมายของทรูวิชั่น กับ จีเอ็มเอ็ม แซท นั้นเป็นคนละกลุ่ม จึงมีความเป็นไปได้ในแบ่งปันคอนเทนท์อย่างลงตัว จีเอ็มเอ็มแซท ได้เสนอแลกเปลี่ยนสิทธิ์ของ ฟุตบอลยูโร โดยเฉพาะในระบ HD กับ คอนเทนท์อื่นๆที่ทรูวิชั่นถือสิทธิ์อยู่ โดยไม่มีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
และทุกครั้งในการเจรจา จีเอ็มเอ็มได้แสดงนโยบายชัดเจน ในการเข้ารหัสสัญญานผ่านดาวเทียม การถ่ายทอดฟุตบอลยูโรช่องฟรีทีวีที่มีการทวนสัญญาณ ทั้งซีแบนด์ และ เคยูแบนด์ กล่องหรือแพลทฟอร์มใดที่ไม่ได้รับสิทธิ์ จะพบสถานการณ์ “จอดำ” ไม่สามารถรับชมได้แน่นอน จึงไม่มีเหตุผลใดที่ทรูวิชั่นจะปฏิเสธการรับรู้ หรือเข้าใจเองว่าสามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลยูโรได้ตามแถลงการณ์ที่ออกมา

และด้วยนโยบาย exclusive (การทำธุรกิจแบบผูดขาดทางด้านรายการ) ของทรูวิชั่นส์ การเจรจาแต่ละครั้งจึงไม่บรรลุข้อตกลง แม้ว่าจะมีความพยายามจาก จีเอ็มเอ็มแซท ในการเสนอรูปแบบธุรกิจอื่นๆ อีกหลายครั้งก็ตาม จึงเป็นความชัดเจนและสรุปได้ในที่สุดจากระยะเวลาที่ผ่านมาว่า ทรูวิชั่นส์ไม่สามารถดำเนินธุรกิจตามแนวทางใดที่จีเอ็มเอ็มแซทนำเสนออย่างแน่นอน

ในเวลาต่อมา จีเอ็มเอ็มแซท จึงเปิดเจรจากับพันธมิตรรายอื่น ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงตามเงื่อนไขธุรกิจที่พึงพอใจทั้งสองฝ่าย ในการรับชม ฟุตบอลยูโร ทั้งช่องทางเคเบิลทีวี กับ ซีทีเอช และผู้ประกอบการเคเบิ้ลท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมทั้งแพลทฟอร์ม ดีทีวี ที่ยินดีร่วมมือทางธุรกิจในการถ่ายทอดฟุตบอลยูโรในระบบ เอชดี (HD) รวมทั้งคอนเทนท์กีฬาเอชดี อีก 3 ช่อง ในมูลค่าหลายสิบล้าน โดยร่วมมือผลิตกล่องรับสัญญาณระบบ เอชดี ภายใต้ชื่อ จีเอ็มเอ็มแซท บาย ดีทีวี (GMMZ by DTV) แต่มีเงื่อนไขการร่วมธุรกิจด้วยการขอความเชื่อมั่น สำหรับการรับชมของฟุตบอลยูโร ในรุ่นมาตรฐานจะดูได้เฉพาะ จีเอ็มเอ็มแซท และรุ่นเอชดี เฉพาะ จีเอ็มเอ็มแซท บายดีทีวีเท่านั้น

การร่วมธุรกิจของ ดีทีวี ซึ่งมีแพลทฟอร์มระบบเคยูแบนด์ เหมือนทรูวิชั่น และมีฐานสมาชิกกว่า 1.3 ล้านครัวเรือน ก็เข้าใจในหลักการ “จอดำ” การถ่ายทอด ฟุตบอลยูโร จากฟรีทีวี เพราะตระหนักดีในหลักการ rebroadcast ว่าเป็นคนละสิทธิ์กับฟรีทีวีภาคพื้นดิน ค่าสิทธิ์ที่ตกลงไว้สำหรับผู้ชมระบบ เอชดี เท่านั้น ผู้ชมผ่านจานและกล่องดีทีวีรุ่นทั่วไป 1.3 ล้านครัวเรือน ก็ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดได้เช่นกัน

และแม้ว่าได้สิทธิ์ไปแล้ว ปรากฏการณ์ “จอดำ” จากช่องฟรีทีวี ช่วงการถ่ายทอดสดบนแพลทฟอร์มพันธมิตร ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ทั้ง จีเอ็มเอ็ม แซท และจีเอ็มเอ็ม แซท บาย ดีทีวี รวมถึงเคเบิลทีวี แพลทฟอร์มเหล่านี้ต้องหาช่องพิเศษรองรับการถ่ายทอดสัญญาณที่แยกออกมาจากสัญญาณช่องฟรีทีวี แม้ต้องมีค่าใช้จ่ายการเช่าช่องสัญญาณใหม่เพิ่มเติม แต่เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพราะเป็นความถูกต้องของกติกาการใช้ลิขสิทธิ์ที่ไม่สามารถทวนสัญญาณ หรือ rebroadcast ได้

ซึ่งจะเห็นว่า ใครจะดูถ่ายทอดฟุตบอลยูโร ในกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ต้องกดไปที่ช่อง 0 , DTV HD ดูที่ช่อง 1 เคเบิลทีวี ก็ต้องหาช่องพิเศษรองรับสัญญาณ เพราะภาพของช่องฟรีทีวี ช่อง 3 , 5 , 9 ที่มีการถ่ายทอดสดในทุกกล่อง จะพบ”จอดำ”โดยไม่มีข้อยกเว้น หรือเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด

จากการปฏิเสธของทรูวิชั่นส์ด้วยการมิได้ตอบรับข้อเสนอของจีเอ็มเอ็มแซท แผนการตลาดของจีเอ็มเอ็มแซทจึงประกาศสู่สาธารณะอย่างชัดเจน ถึงช่องทางการรับชมฟุตบอลยูโร 2012 และระบุการรับชมผ่านทีวีดาวเทียมต้องผ่านกล่องรับสัญญาณของ จีเอ็มเอ็ม แซท และจีเอ็มเอ็ม แซท บาย ดีทีวีเท่านั้น สองสัปดาห์ก่อนการการแข่งขัน ทรูวิชั่นส์ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อเจรจาขอสิทธิ์เผยแพร่สำหรับสมาชิก แลกกับคอนเทนท์ตามเงื่อนไขที่เคยเจรจากันไว้

แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์ย่อมเปลี่ยน แม้ใจมีไมตรี แต่จีเอ็มเอ็มไม่อยู่ในสถานะที่สามารถตอบตกลงกับทรูได้ เพราะจีเอ็มเอ็ม ได้มีข้อตกลงกับ DTV ที่จะร่วมเป็นพันธมิตรและได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ อีกทั้งการเจรจากับยูฟ่าที่ต้องใช้เวลา สิ่งสำคัญที่สุดคือคำมั่นสัญญาที่ประกาศไปในตลาด ทั้งลูกค้า ดีลเลอร์ และสังคม ที่ได้ประกาศไปแล้วว่าสามารถดูได้ผ่านกล่องจีเอ็มเอ็มแซทแล้วเท่านั้น นี่ต่างหากที่จะทำให้จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ถูกตั้งคำถามว่าทำธุรกิจด้วยการหลอกลวงผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์หรือไม่ ?

จีเอ็มเอ็ม แซท เสนอทางออกให้ทรู ด้วยรูปแบบการให้เช่ากล่อง แม้จะรู้ว่าทรูทำใจรับยาก แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก จึงเป็นข้อเสนอเดียวที่จะทำให้จีเอ็มเอ็มแซทไม่ทำผิดสัญญากับพาร์ทเนอร์ และสามารถเดินธุรกิจกับทรูได้โดยไม่ต้องขอคำตอบจากยูฟ่า และสถานการณ์ก็บานปลายเมื่อทรูต้องตอบคำถามกับสมาชิก ที่ไม่สามารถรับชมฟุตบอลยูโรผ่านแพลทฟอร์มของ ทรูได้จริงๆ ตามข่าวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์สุดท้ายก่อนการแข่งขัน จนถึงขั้นมีแถลงการณ์ขออภัยผู้ชมและแสดงความผิดหวังต่อการจำกัดสิทธิ์ของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ผ่านทุกช่องทางของทุกสื่อที่ทรูมี เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อสังคมที่ทำให้จีเอ็มเอ็ม จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในปัญหา

ทั้งที่ก่อนหน้านั้นในวันศุกร์ ที่ 8 มิถุนายน มีการเจรจาของผู้บริหารระดับสูงสุดของทั้งสองฝ่าย เพื่อพยายามหาทางออกให้กับความขัดแย้งครั้งนี้ ซึ่งผู้บริหารของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ก็ตอบรับในการที่จะพยายามเจรจากับยูฟ่าอีกครั้ง แม้ว่าจะสามารถปฏิเสธด้วยความชอบธรรมก็ตามที โดยไม่มีเรื่องเงินหรือการแลกเปลี่ยนใดๆเป็นเงื่อนไขในการเจรจา แต่พื่อเป็นการยืนยันในไมตรีที่มีให้ทรูในฐานะคู่ค้า ทั้งๆที่รู้ว่าจะมีกระแสสังคมกดดันกลับมาที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่อย่างแน่นอน

จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ยืนยันจะใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุด บนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าของพันธมิตร คู่ค้า และผู้บริโภคกล่องจีเอ็มเอ็มแซท เพื่อลดความขัดแย้งครั้งนี้ โดยได้ส่งเรื่องให้ยูฟ่าแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ทรูต้องยอมรับสถานการณ์"จอดำ"ไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทรูได้เลือกเองตั้งแต่ต้น จนกว่าจะได้คำตอบจากยูฟ่าในสัปดาห์นี้ และไม่ว่าผลสรุปจะออกมาเป็นเช่นใด จีเอ็มเอ็มแกรมมี่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทรูจะทำความเข้าใจกับสมาชิกอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเคารพในเรื่องการบริหารลิขสิทธิ์ด้วยข้อเท็จจริง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วันพระไม่ได้มีหนเดียวนะครับท่าน วันที่ตอบ 2012-06-12 22:27:50


ความคิดเห็นที่ 5 (3289636)


วันที่ 12 มิถุนายน 2555 12:36จี้กสท.บีบฟรีทีวีแพร่ภาพ ปรับ"แกรมมี่-ทรู"

เครือข่ายองค์กรเพื่อผู้บริโภค จี้ กสท. บังคับทางปกครองช่อง 3,5,9 ให้แพร่ภาพโดยไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมเปรียบเทียบปรับแกรมมี่ เพิ่มโทษปรับทรู

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่จะผลักดันให้ประชาคมอาเซียน(AEC)เป็นวาระแห่งชาติโดยมีการตั้งเป้าหมาย 4 ด้าน คือ 1. ประเทศไทยจะเป็นตลาดอาเซียนบนฐานการผลิตเดียวกันของประเทศสมาชิก 2. การให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจแบบเสมอภาคเช่นเรื่องภาษีจะต้องมีการปรับตัวและศึกษาเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการดำเนินธุรกิจ 3. ความร่วมมือเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อเพิ่มผลผลิตของอาเซียน 4.การใช้ฐานของอาเซียนทำงานร่วมกับเวทีเศรษฐกิจโลก

เครือข่ายองค์กรผู้จำนวน 302 องค์กรที่มาร่วมสัมมนาองค์กรผู้บริโภคเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชนในวันนี้(12 มิ.ย.) ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเป็นผู้นำระดับอาเซียนในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเร่งรัดและสนับสนุนในฐานะรัฐบาลเสียงข้างมากให้มีการพิจารณา เพื่อเร่งผ่าน (ร่าง) พระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ที่รอการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 3 หลังจากผ่านวุฒิสภาตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้บริโภคไทย และเป็นแบบอย่างเชิงสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำในประเทศต่างๆ ในประชาคมอาเซียนและในระดับนานาชาติต่อไป เพราะที่ผ่านมาอาเซียนได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับอาเซียน ซึ่งประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำในด้านนี้ได้เป็นอย่างดี

การคุ้มครองผู้บริโภคมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นได้ชัดอย่างชัดเจนในปัจจุบัน กรณีรูปธรรมปัญหาการเข้าไม่ถึงการแพร่ภาพและการกระจายเสียงกรณีการถ่ายทอดฟุตบอลยูโร พร้อมเรียกร้องรูปธรรมให้รัฐบาล และคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) สนับสนุนการดำเนินการดังนี้

1. ต้องเร่งผลักดันให้มีองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เพราะรัฐบาลได้เดินหน้าสนับสนุนให้มีการพิจารณาต่อเนื่องแล้ว และผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาเมื่อวันที่ 31 มกราคมไปแล้ว เหลือเพียงการพิจารณาวาระที่ 3 ในขั้นสุดท้ายของกฎหมายเท่านั้น เพราะหากมีองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในปัจจุบัน ผู้บริโภคคนเล็กคนน้อยที่จอทีวีมีป้ายขอโทษคงทำได้ลำบาก เพราะอย่างน้อยน่าจะขอให้อัยการช่วยฟ้องคดีบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทนผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ สามารถปกป้องผู้บริโภคคนเล็กคนน้อยที่ต้องจ่าย 200 บาทซื้อหนวดกุ้งโดยไม่มีเหตุผลในปัจจุบัน

2.พร้อมเรียกร้องกสท. ให้มีคำสั่งทางปกครองกับช่อง 3,5 และ 9 เนื่องจากการให้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลยูโรมีเงื่อนไขของยูฟ่า ว่า ต้องถ่ายทอดผ่านระบบฟรีทีวี ดังนั้นถือเป็นบริการสาธารณะปกติ แต่เมื่อให้ถ่ายทอดทางช่อง 3,5 และ 9  สถานีโทรทัศน์เหล่านี้ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตให้บริการสาธารณะ กลับพบว่า มีการออกอากาศสองรูปแบบในปัจจุบัน คือ มีรายการฟุตบอลและมีการขึ้นคำขออภัยซึ่งเท่ากับว่าสถานีเหล่านี้หยุดให้บริการสาธารณะ ดังนั้น กสท. ต้องมีคำสั่งบังคับทางปกครองในฐานะผู้รับใบอนุญาตบริการสาธารณะที่หยุดให้บริการในปัจจุบันเช่นเดียวกับบริษัท TRUE หรือหากจะเข้มงวดจริงก็ต้องยกเลิกให้ใบอนุญาตบริการสาธารณะ เพราะปฏิบัติขัดต่อแผนแม่บทการเข้าถึงการกระจายเสียงและการแพร่ภาพสาธารณะ เนื่องจากแผนแม่บทเรื่องการเข้าถึงของกสทช.ไม่ได้จำกัดเฉพาะวิธีหนวดกุ้งหรือภาคพื้นดินแต่จะเป็นวิธีการเป็นแบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเคเบิ้ล หรือดาวเทียม โดยพบว่าในปัจจุบันผู้บริโภคจำนวน 20 ล้านครัวเรือน มีเพียงร้อยละ 25 เท่านั้นที่ใช้ระบบหนวดกุ้ง เสาอากาศหรือภาคพื้นดิน และมีสูงถึงร้อยละ 75 เป็นผู้บริโภคที่ใช้เคเบิ้ลและดาวเทียมเป็นเครื่องมือในการเข้าถึง FREE TV อาจจะเนื่องจากหลายเหตุผล เช่น ไม่สามารถรับสัญญาณจากหนวดกุ้งหรือเสาอากาศได้ อาศัยในอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียม หรือบ้านเรือนปกติแต่ถูกอาคารสูงแวดล้อมจนรับสัญญาณไม่ได้ หรือมีความชอบทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ช่วยสถานีโทรทัศน์ 3,5,9 ให้บริการสาธารณะและส่งสัญญาณออกอากาศมาเป็นเวลานาน โดยโทรทัศน์ประเภทบริการสาธารณะหรือ FREE TVแทบจะไม่มีแผนในการขยายพื้นที่ในการส่งสัญญาณภาคพื้นดินในปัจจุบัน

3. ดำเนินการลงโทษ และเปรียบเทียบปรับบริษัทแกรมมี่ในฐานะผู้ได้ลิขสิทธิ์ในปัจจุบันที่ได้ประโยชน์มากมาย ทั้งการประชาสัมพันธ์ช่องของตนเอง การขายกล่อง การขายโฆษณา การมีพันธมิตรธุรกิจด้านนี้ แต่ดำเนินการผูกขาดในการให้บริการ และที่สำคัญบริษัทแกรมมี่ไม่สนใจผู้บริโภคที่เผอิญไปเป็นลูกค้าของคู่แข่งทางการค้าของตนเอง และต้องบอกว่าเรื่องค่าตอบแทนลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญน้อยในทางธุรกิจครั้งนี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการรับรู้ถึงความมีตัวตนของช่องแกรมมี่ เป้าหมายการขายโฆษณา ซึ่งแกรมมี่ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ใช่เอาทุกอย่าง ไม่ใช่บอกว่าขณะนี้กฎหมายไม่ได้ห้าม

แต่ถึงอย่างไรก็ตามองค์กรผู้บริโภคก็มีจุดยืนว่า การคุ้มครองผลประโยชน์ลิขสิทธิ์เอกชนต้องไม่เกินเลยผลประโยชน์สาธารณะที่ไม่ได้ดูฟุตบอลในครั้งนี้ จะมาอ้างเพียงว่าใครอยากดูก็ให้ไปซื้อจานของตนเอง(แกรมมี่) หรือไม่ก็สามารถซื้อหนวดกุ้งมาติดชั่วคราว อันละประมาณ 200 บาท(เอง) แต่ 200 บาทเมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือนที่ไม่น้อยกว่า 10 ล้านครัวเรือนก็สูงถึง 2,000 ล้านบาทเชียว นอกจากนี้แกรมมี่ยังออกอากาศของตนเองด้วยช่องทางผ่านดาวเทียม เพราะลูกค้าต้องใช้กล่องรับสัญญาณเช่นเดียวกันกับเจ้าอื่น(ดังนั้นในทางเทคนิคไม่ควรเถียงกันว่า จะจัดการให้จานดาวเทียมต่างๆจำกัดการแพร่ภาพและกระจายเสียงอยู่เฉพาะในเมืองไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ในทางเทคนิคเกือบ 100%) แต่แกรมมี่เลือกที่จะให้ใครเข้ามาใช้บริการหรือเป็นพันธมิตรได้บ้าง การผูกขาดในการให้บริการการของแกรมมี่ กสท.จะอ้างว่าไม่ใช่ผู้รับใบอนุญาต เลยจัดการไม่ได้คงไม่ถูกต้อง หรือคงไม่เพียงพอหากดำเนินการเพียงการขึ้นบัญชีดำ หากมาขอใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์ในอนาคต แต่ต้องจัดการปัญหาการผูกขาดในการให้บริการ(เถื่อน)ครั้งนี้ด้วยเพราะให้บริการเถื่อนโดยไม่ต้องขออนุญาตแล้วยังใช้โอกาสผูกขาดอีก ขัดต่อกฎหมาย และที่สำคัญจะเยี่ยงอย่างให้กับผู้ประกอบธุรกิจอื่นๆ หากอีกสองปีใครได้รับอนุญาตเป็นผู้แพร่ภาพและกระจายเสียงฟุตบอลโลกเราคงต้องซื้อกล่องใหม่กันอีก โดยไม่สนใจผู้บริโภค แล้วผู้บริโภคไทยต้องมีกล่องกี่ประเภทถึงจะเข้าถึงการแพร่ภาพและการกระจายเสียง

4. พร้อมขอให้กสท.ช่วยสนับสนุนการดำเนินการฟ้องคดีกับ TRUE เพราะค่าปรับทางปกครองตามกฎหมายที่ต่ำมากเกินไปในปัจจุบัน ควรต้องสนับสนุนให้เกิดการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากการให้บริการของ TRUE มีการให้สัญญากับลูกค้าหรือผู้บริโภคว่าสามารถดู FREE TV หรือดูฟุตบอลยูโรได้ และสมาชิก TRUE บางส่วนมีการเก็บค่าสมาชิกรายเดือนกับลูกค้า ก็ควรรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากการให้สัญญากับลูกค้าหรือผู้บริโภคแล้วไม่ทำตามคำสัญญา

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวดาวเทียมวันที่ 12มิถุนายน2012 วันที่ตอบ 2012-06-15 16:31:57



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.