ReadyPlanet.com


ศาลเรียกฟรีทีวีไต่สวนเพิ่ม ชี้ขาดคดีจอดำวันนี้


ศาลแพ่งเรียกฟรีทีวีทุกช่องไต่สวนเพิ่มเติมเทคนิคแพร่ภาพ คดีองค์กรผู้บริโภคร้องแกรมมี่-ฟรีทีวีช่อง 3,5,9 ทำ "จอดำบอลยูโร"คาดศาลมีคำสั่งวันนี้

            

ศาลแพ่งนัดไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อพิจารณาออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ตามที่องค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้อง สถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5, 9 และ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันละเมิดและกระทำผิดสัญญา การให้บริการสาธารณะในการแพร่ภาพและกระจายเสียง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้จำเลยที่ 1 ถึง 4 ที่ดำเนินการแพร่ภาพและกระจายเสียงรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012

หลังจากวันอังคาร ที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลได้ไต่สวนข้อมูลฝ่ายโจทก์ประกอบด้วยองค์กรผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปแล้ว  โดยวานนี้ (27 มิ.ย.) ศาลได้เรียกไต่สวนพยานเพิ่มเติมจำเลยที่ 4  คือ นายเดียว วรตั้งตระกูล กรรมการผู้จัดการ แพลตฟอร์ม สแตรทิจี้ (Platform Strategy) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด

นายเดียวได้ชี้แจงรูปแบบการออกอากาศการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ว่า  บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์จาก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือ “ยูฟ่า”  ให้ถ่ายทอดสดการแข่งขันเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งซื้อมาด้วยมูลค่าลิขสิทธิ์ค่อนข้างสูงดังกล่าวนั้น จึงได้เจรจาร่วมกันพันธมิตรในการบริหารลิขสิทธิ์ ประกอบด้วยช่องทางการแพร่ภาพทาง “ฟรีทีวี” คือช่อง 3, 5 และ 9  ซึ่งยูฟ่ากำหนดให้เป็นรูปแบบการออกอากาศฟรีทีวี ภาคพื้นดิน ที่รับชมผ่านเสารับสัญญาณก้างปลาและหนวดกุ้ง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณฟรีทีวี ด้วยคลื่นความถี่อนาล็อก ยูเอชเอฟ และวีเอชเอฟ ปกติ

ส่วนการส่งสัญญาณอีกระบบของฟรีทีวี ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จากสถานีแม่ข่ายไปยังสถานีลูกข่ายในต่างจังหวัดเพื่อวัตถุประสงค์ให้สัญญาณครอบคลุมทั่วประเทศ และมีความคมชัดนั้น  แต่เป็นสัญญาณจากดาวเทียมไทยคม 5 ที่ครอบคลุมถึง 22 ประเทศ ทำให้การส่งสัญญาณภาพยูโร 2012  ของฟรีทีวี ช่อง 3, 5 และ 9  ในระบบดาวเทียมจะต้องมีการเข้ารหัสระบบ  Bliss Key ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานการเข้ารหัสเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่ให้การส่งสัญญาณภาพยูโร 2012  ล้นออกไปนอกประเทศ ซึ่งจะผิดสัญญากับยูฟ่า ทำให้ช่องฟรีทีวี 3, 5 และ 9   ที่รับชมผ่านจานดาวเทียมระบบซีแบนด์ และเคยู แบนด์ อื่นๆ ที่ไม่ใช่พันธมิตรซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจากแกรมมี่ ต้องขึ้นข้อความขออภัยที่ไม่สามารถรับชมได้ หรือที่เรียกว่า “จอดำ” ฟุตบอลยูโร 2012

ส่วนพันธมิตรที่ถ่ายทอดสดทางระบบจานรับสัญญาณดาวเทียม ระบบซีแบนด์ คือ การรับชมผ่านกล่องรับสัญญาณที่มีการเข้ารหัส (Conditional Access :CA)  กล่อง “จีเอ็มเอ็ม แซท”  ส่วนการระบบเคยู แบนด์ คือ กล่องรับสัญญาณ "ดีทีวี"  ที่จะต้องรับชมผ่าน “ช่องพิเศษ” ที่แกรมมี่ ได้จัดทำขึ้น ไม่สามารถรับชมผ่านช่องฟรีทีวี 3, 5, และ 9 ได้เช่นเดียวกัน   

นอกจากนี้นายเดียวได้ชี้แจงขั้นตอนการรับสัญญาณภาพการแข่งขันยูโร 2012 ว่า ยูฟ่าจะส่งสัญญาณภาพมายัง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งแกรมมี่ เป็นผู้เช่าช่องสัญญาณไฟเบอร์ออฟติค  เพื่อดาวน์ลิงค์สัญญาณภาพยูโร มาที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่  ซึ่งจะมีขั้นตอนในการผลิตทั้งการพากย์และการใช้เทคนิคภาพ 

หลังจากนั้น แกรมมี่ จะส่งสัญญาณภาพไปยังฟรีทีวี ช่อง 3, 5 และ 9  ซึ่งฟรีทีวี จะส่งสัญญาณเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.สัญญาณอนาล็อก ฟรีทีวี ภาคพื้นดิน ปกติ และ 2.สัญญาณผ่านดาวเทียม ซึ่งในระบบนี้ ฟรีทีวีแต่ละช่อง จะมีการเข้ารหัสสัญญาณ Bliss Key เพื่อป้องกันสัญญาณล้นนอกประเทศไทย ไปยังสถานีลูกข่าย จึงทำให้ฟรีทีวีจอดำในช่วงการถ่ายทอดสด

ส่วนสัญญาณภาพระบบผ่านดาวเทียม แกรมมี่ได้ส่งสัญญาณไปยังดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งมีการเข้ารหัสสัญญาณ  โดยสามารถรับชมได้ผ่านกล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่มีการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด คือ กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท และกล่องดีทีวี รุ่นเอชดี ซึ่งเป็นกล่องที่มีการเข้ารหัสแบบ CA หรือการเข้ารหัสที่มีมาตรฐานป้องกันสูงสุด  โดยเป็นการรับชมผ่านช่องจีเอ็มเอ็ม 0 และจีเอ็มเอ็ม 399 ไม่ใช่ช่องฟรีทีวี ช่อง 3, 5 และ 9  ซึ่งช่องดังกล่าวอยู่ในภาวะจอดำฟุตบอลยูโร 2012 ทางกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท และกล่องดีทีวี รุ่นเอชดี

ศาลเรียกพยานฟรีทีวีเพิ่มเติม

หลังจากศาลไต่สวนจำเลยผู้บริหารจีเอ็มเอ็ม แซท ในช่วงเช้าวานนี้ ศาลได้มีคำสั่งออกหมายเรียกพยานเพิ่มเติมประกอบด้วยสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี “ทุกช่อง” ทั้งช่องที่เป็นคู่สัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร ช่อง 3, 5 และ 9 รวมทั้งฟรีทีวีช่องอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ทั้งช่อง 7, 11 และไทยพีบีเอส  รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจาก กสทช. เพื่อสอบถามข้อมูลในเชิงเทคนิคการออกอากาศในแพลตฟอร์มต่างๆ

เนื่องจากศาลยังมีข้อสงสัยเรื่องเทคนิคบางประการ ที่จะนำมาพิจารณาในการออกคำสั่งในวันนี้ (28 มิ.ย.)  เพราะคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานการรับชมการถ่ายทอดสดกีฬาและรายการที่มีลิขสิทธิ์ในอนาคต สำหรับการรับชมทางช่องทางฟรีทีวี  ที่ส่งผลต่อผู้บริโภคไทยจำนวนมาก

 



ผู้ตั้งกระทู้ ข่าวดาวเทียมวันที่ 28มิถุนายน2012 :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-02 16:04:08


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3291751)

ขายตรงสายพันธุ์ไทยชู"ทีวีดาวเทียม"รุก AEC : คอลัมน์ โลกไร้เสา

       

ในจำนวนร้อยกว่าช่องทีวีดาวเทียมของบ้านเรา ผู้ผลิตช่องรายการต่างก็แยกกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างกลุ่มธุรกิจเครือข่ายตรงก็มีทีวีดาวเทียมเป็นของตัวเอง

กลุ่มทีวีขายตรงที่ระบือลือลั่น ต้องพูดถึงช่อง "ทีวี" target="blank_">ไอเอ็นทีวี" และ "ทีวีดี" ของ ณัชรุตม์ ทบวงศรี หรือ "กาย ไพรินทร์" เจ้าของ นสพ.ตลาดวิเคราะห์ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อคนเครือขายตรง 

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว "กาย ไพรินทร์" ปั้น "ปูแดงโคไตซาน" ธุรกิจเครือข่ายจนดังระเบิด กระทั่งมีแผนการเปิดทีวีดาวเทียมช่อง "เอทีวี"
     
จำได้ว่า "เสี่ยปูแดง" สมปอง แซ่ตั้ง ได้ทำสัญญากับทีวี" target="blank_">ไอเอ็นทีวี เป็นระยะเวลา 5 ปีเต็ม และต่ออายุสัญญาได้ถึง 10 ปี โดยแบ่งจ่ายในแต่ละเดือนละ เดือนกว่า 3 ล้านบาท คิดเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท 
     
แล้วแผนงานทุกอย่างก็ล่มสลาย เมื่อดีเอสไอบุกเข้าตรวจค้นบริษัทปูแดง พร้อมตั้งข้อหาทำธุรกิจแชร์ ซึ่งมีการดำเนินคดีความกันไปแล้ว ปัจจุบัน สมปอง แซ่ตั้ง กลับมาทำธุรกิจปูแดงอีกครั้ง แต่ไม่ฟู่ฟ่าเหมือนเก่า
     
ยุคปูแดงผ่านไป ตลาดขายตรงไม่เคยว่างเว้นดาวเด่น ในเวลานี้ที่น่าติดตามคือการประชันกันทางหน้าจอทีวี ระหว่าง "นีโอไลฟ์" กับ "กิฟฟารีน" สองแบรนด์อันแตกต่างกัน 
     
ล่าสุด ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เทกโอเวอร์ นสพ.สยามธุรกิจ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อช่องทีวีดาวเทียม “นีโอทีวี” เป็น “นีโอทีวี สยามธุรกิจ” 
     
ช่องนีโอทีวี ถือว่ามีความโดดเด่นที่สุดในกลุ่มทีวีเครือข่ายตรง โดยมี ดร.นพรุจ เวชกุล กับ ดร.รัชนี มหานิยม ประธานฝ่ายสมาชิกของบริษัทนีโอไลฟ์ เป็นตัวชูโรงในช่องนี้
     
ขณะนี้ บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ขยายการทำธุรกิจสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 
     
ที่ผ่านมา บริษัทนีโอไลฟ์ฯ ได้ทำการขยายศูนย์สู่ประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ ส.ป.ป.ลาว มี 4 สาขา (เวียงจันทน์, สะหวันเขต, จำปาสัก และอุดมไซ) สิงคโปร์ และเวียดนาม
     
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ทำการขยายศูนย์สาขาเข้าไปที่ประเทศกัมพูชา โดยวางจุดตั้งสาขาที่เมืองหลวงกรุงพนมเปญ 
     
เครื่องมือในการรุกไปในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่ทรงพลังคือ "ทีวีดาวเทียม" ที่ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคม ระบบซีแบนด์
     
วันนี้ ช่องนีโอทีวี เปลี่ยนเป็น "นีโอ สยามธุรกิจ" เพราะการผันเปลี่ยนของการรับข่าวสารในปัจจุบันของประชาชน ซึ่งนิยมรับข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อรูปแบบใหม่ต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นสื่อเก่าทำงานได้อย่างยากลำบาก และเป็นเรื่องยากที่จะดึงคนเข้ามารับข่าวสารในช่องทางนี้ 
     
ทำให้ นสพ.สยามธุรกิจราย 3 วัน ต้องคิดและวางแผนในการทำงาน ใหม่ เพื่อให้สื่อสิ่งพิมพ์ยืนอยู่ในลู่การแข่งขันต่อไป
     
มิเพียงแบรนด์น้องใหม่ขายตรงที่ปรับตัว แบรนด์ดังอย่าง "กิฟฟารีน” ก็ทุ่ม 50 ล้านบาท เปิดตัวทีวีดาวเทียม “กิฟฟารีน แชนแนล” ยิงสัญญาณไปทั่วอาเซียน รับมือกับการเปิดตลาด AEC เช่นกัน
     
พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม “กิฟฟารีน แชนแนล” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สนับสนุนแผนการทำตลาดของกิฟฟารีน 
     
โดยมีด้วยกัน 9 รายการ แบ่งเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของบริษัท 30-40% และอีก 60-70% เป็นการสื่อสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักธุรกิจ และสาระความบันเทิงเพื่อ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจกิฟฟารีน 70% และที่เหลืออีก 30% สำหรับบุคคลทั่วไป โดยเริ่มทดลองแพร่ภาพออกอากาศทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา  
     
เดิมทีบริษัทมีช่องทางการสื่อสารหลักคือ การจัดอบรมสัมมนา การติดต่อ สื่อสารผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งบางครั้ง อาจทำให้การกระจายข้อมูลข่าวสารเป็นไป อย่างไม่ทั่วถึง เพราะกิฟฟารีนมีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
     
เมื่อมีการจัดอบรมสัมมนาขึ้นในพื้นที่ส่วนกลาง ก็มีสมาชิกหลายๆ คนพลาดโอกาสเข้าร่วม หรือช่องทางสื่อสารทางเว็บไซต์ของบริษัท ก็ไม่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของนักธุรกิจบางคนที่อาจไม่ถนัดในด้านไอทีนัก 
     
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้นักธุรกิจจำนวนมากเกิดความรู้สึกห่างเหินกับทีมงานและองค์กร จนทำให้บางคนเลิกทำธุรกิจกับบริษัทไปโดยปริยาย 
     
จากการสำรวจของบริษัทพบว่าสมาชิกนักธุรกิจในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะมีการติดจานดาวเทียมถึงร้อยละ 70 ขณะที่สมาชิกในกรุงเทพฯ มีจานดาวเทียมร้อยละ 30-40 
     
ฉะนั้น พญ.นลินี จึงคิดว่าการที่บริษัทเปิดช่องทีวีดาวเทียมขึ้น จะทำให้ดึงนักธุรกิจเก่ากลับมา และเหนืออื่นใดสามารถสร้างนักธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นได้อีกมาก
     
ทั้งนี้ “กิฟฟารีน แชนแนล” จะมีการแพร่ภาพ ส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ทั้งในทวีปเอเชีย, ยุโรป และออสเตรเลีย โดยใช้ระบบสัญญาณดาวเทียมซีแบนด์ 
     
สิ่งที่บริษัทจะได้รับอีกอย่างหนึ่งคือ ช่องทางดังกล่าวสามารถรองรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้เป็นอย่างดี เพราะขณะนี้กิฟฟารีนได้รุกขยายเครือข่าย ธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย, กัมพูชา, ลาว และปีหน้ากำลังจะรุกเข้าสู่ประเทศอินโดนีเซีย 
     
การมีช่องทีวีดาวเทียมจึงสามารถเชื่อมโยงนักธุรกิจ ในกลุ่มประเทศอาเซียนให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับกิฟฟารีนเมืองไทยได้  
     
เมื่อการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียนมาถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า "ขายตรงสายพันธุ์ไทย" ก็รุกเข้าไปประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยกลยุทธ์ดาวเทียมนำการตลาด!

(หมายเหตุ ขายตรงสายพันธุ์ไทยชู"ทีวีดาวเทียม"รุก AEC : คอลัมน์ โลกไร้เสา)

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวดาวเทียม วันที่ตอบ 2012-07-05 07:20:47


ความคิดเห็นที่ 2 (3291752)


กสทช.จี้รัฐบาลสั่ง"ไทยคม"ดูแลทีวีดาวเทียมโฆษณาเกินจริง

"สุภิญญา"แนะออกมติครม.ให้ไอซีทีสั่ง"ไทยคม"โดยตรง ก่อนกฏหมายจะเสร็จ ระบุอาจผิดกฎหมายสคบ.และอย.วันที่ 29 มิถุนายน 2555 21:35

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เดินทางเข้าพบและหารือกับนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล

โดยภายหลังการเข้าพบ น.ส.สุภิญญา เปิดเผยว่า จากการเข้าพบกสทช.ได้ขอให้รัฐบาลในฐานะผู้ให้สัมปทานดาวเทียมไทยคมเข้าไปกำกับดูแลบริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้ตรวจสอบการออกอากาศรายการต่าง ๆ ผ่านทางเคเบิ้ลทีวี เนื่องจากในขณะนี้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากว่ามีการออกอากาศภาพและข้อความโฆษณาเกินจริง ซึ่งรวมไปถึงช่อง “ป้าเช็ง” ด้วย ที่อาจผิดกฎหมายทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และองค์กรอาหารและยา (อย.) ดูแลอยู่

ขณะนี้ กสทช.อยู่ในระหว่างการออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแลการโฆษณาเกินจริงทางวิทยุและโทรทัศน์ อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ รัฐบาลควรมีมาตรการในการดูแลอย่างเร่งด่วนก่อนที่กฎหมายจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ เพราะการโฆษณาเกินจริงในบางรายสินค้าเป็นอันตรายต่อประชาชน

น.ส.สุภิญญา กล่าวอีกว่า วิธีการที่ทำได้เร็วที่สุดคือ รัฐบาลควรออกเป็นมติ ครม.ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีหนังสือไปถึงไทยคมให้ดูแลเนื้อหาของโฆษณาที่ฉายผ่านรายการต่าง ๆ ทางเคเบิ้ลทีวีให้เป็นไปตามกฎหมาย ของสคบ.และอย.เนื่องจากช่องสัญญาณของเคเบิลทีวีส่วนใหญ่ของประเทศเป็นลูกข่ายของดาวเทียมไทยคมเกือบทั้งหมด หากรัฐบาลมีคำสั่งในส่วนนี้ลงไปก็จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนได้ระดับหนึ่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวดาวเทียม ลงวันที่ 29มิถุนายน2012 วันที่ตอบ 2012-07-05 07:26:23


ความคิดเห็นที่ 3 (3291753)

ภาพถ่ายดาวเทียมเห็นความร้อนบนผิวโลกชนวนไฟป่า

ไฟป่าลุกท่วมพื้นที่ทางภาคกลางของสหรัฐ เผาผลาญบ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือนและประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพแผนที่ที่ถ่ายจากดาวเทียมขององค์การบริหารอวกาศและการบินของสหรัฐ หรือ นาซ่า ที่ถ่ายได้ในช่วงไม่กี่วันก่อนได้แสดงให้เห็นสาเหตุของการเกิดไฟป่าครั้งนี้ ค่าอุณหภูมิบนพื้นผิวโลก หรือ LST ได้สูงขึ้นอย่างผิดปกติในรัฐโคโลราโด , เนบราสก้า , ยูท่าห์ และไวโอมิ่ง เป็นระยะเวลาแค่ 8 วันในเดือนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ที่เคยเกิดไฟป่ารุนแรงยากที่จะรับมือได้ ซึ่งจากภาพแผนที่นาซ่าที่เป็นสีแดง ได้บรรยายว่า เป็นสภาพอากาศร้อนที่ผิดปกติ
LST แตกต่ทางอย่างชัดเจนจากอุณหภูมิของอากาศ ที่สำนักอุตินิยมวิทยาวัดได้ ซึ่ง LST ได้ชี้ให้ เห็นถึงความร้อนบนผิวโลก ที่ทำให้พืชผักเหี่ยวแห้ง และความชุ่มชื่นสูญสลายไป ง่ายต่อการติดไฟและลุกลามอย่างรวดเร็ว
ยังคงเกิดความร้อนผิดปกติที่รู้สึกได้ต่อเนื่องอีก 4 วัน หลังเกิดความร้อนจัดในช่วงวันที่ 17 - 24 มิถุนายน ซึ่งรัฐโคโลราโด ต้องผชิญไฟป่าถึง 8 จุด เช่นเดียวกับไวโอมิ่งและยูท่าห์ ที่แผนที่ดาวเทียมของนาซ่า แสดงให้เห็นเป็นสีแดงซึ่งหมายถึงสภาพที่ร้อนจัด ยังไม่รวมไฟป่าที่กำลังเผาผลาญที่มอนตาน่า , นิวเม็กซิโก และอริโซน่า
เมื่อวันเสาร์ อุณหภูมิได้พุ่งสูงเป็นตัวเลข 3 หลัก ใน 25 รัฐ ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน 47 ล้านคน ที่แอตแลนต้า เมืองเอกของรัฐจอร์เจีย ได้ทุบสถิติอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 106 องศา สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่เคยมีการบันทึกไว้เมื่อปี 1980 ถึง 1 องศา
ทางเหนือของกรุงวอชิงตัน ดีซี อุณหภูมิอยู่ที่ 104 องศาล กลายเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของเดือนมิถุนายน และชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องต่อสู้กับความร้อนในสภาพที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะรัฐในแถบมิดเวสต์ และเอด-แอตแลนติก เนื่องจากเกิดพายุรุนแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 13 คน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ข่าวด่วน ข่าวดาวเทียม วันที่ตอบ 2012-07-05 07:28:36



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.