ผ่า!อนาคตธุรกิจทีวีดาวเทียม"หน้าใหม่เพิ่ม-โฆษณาพุ่ง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ "คม ชัด ลึก" ทางสถานีโทรทัศน์ เนชั่นชาแนล ค่ำที่ผ่านมา(4ม.ค.)ได้จัดรายการในตอน "อนาคตธุรกิจทีวีดาวเทียม 2555" โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย  พ.อ.นที ศุกลรัตน์  รองประธาน กสทช. นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นบีซี ที่ปรึกษาสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) เกษม อินทร์แก้ว  นายกสมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทย  ผศ.ดร.อัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว  คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

 โดย พ.อ.นที กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามีเทคโนโลยีมาก่อน แล้วจึงมีกฎหมายตามมา แล้วองค์กรควบคุมอย่าง กสทช. จึงตามมาอีกที ทำให้วันนี้เรามีวิทยุโทรทัศน์ที่ไม่ได้รับอนุญาตมากพอสมควร และเมื่อวันนี้ กสทช. ที่เพิ่งเกิดจึงเริ่มกระบวนการในการกำกับดูแล  โดยแผนแม่บทกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ ขณะนี้เสร็จแล้ว และจะเริ่มฟังประชาพิจารณ์ในเดือน ก.พ. และน่าจะประกาศใช้ได้ในเดือน มี.ค.

 พ.อ.นทีกล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องทำคือทำอย่างไรที่จะทำให้เนื้อหาที่ไปสู่ประชาชนจะเป็นเนื้อหาที่ดี และการจะเข้าไปกำกับดูแลก็ต้องทำเข้าสู่ระบบให้ได้ ซึ่งก็คือการออกใบอนุญาต

 ขณะที่นายอดิศักดิ์กล่าวว่า หากมีแผนแม่บท กสทช. ก็สามารถที่จะออกใบอนุญาตได้เลย และทำให้ภาพต่อคนภายนอกรวมถึงนักลงทุนก็จะมั่นใจมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาโทรทัศน์ดาวเทียมมักจะถูกถามตลอดว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ และจะมีรายใหม่ๆมั่นใจในการเข้ามาสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ทีวีดาวเทียมมักจะมองว่าเป็ขยะที่ออกอากาศ มีรายการไม่ดี แต่ซึ่งจริงๆก็มีคละกันไป ซึ่งมีรายการแย่ๆอยู่ไม่เกิน 20 % เท่านั้น และเมื่อมีแผนแม่บทก็จะเข้ามากำกับซึ่งจะแยกน้ำดีจากน้ำเสีย โดยการดูจากเนื้อหาเป็นหลัก

 นายอดิศักดิ์กล่าวต่อว่า ทีวีดาวเทียมนั้นเป็นคอนเทนท์โพรไวเดอร์ ทำเนื้อหา เราทำออกทุกทางอินเตอร์เน็ท ทีวี มือถือ ส่วน เคเบิลทีวี เป็นเน็ทเวิร์ก โพรไวเดอร์ เป็นผู้นำส่ง เหมือนเป็นระบบลอจิสติกส์

 นายอดิศักดิ์กล่าวว่าจากตัวเลขที่มีการสำรวจใน 5ปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวของจานดาวเทียม  ที่ปี 2549 มีแค่ 6 แสนจาน แต่ปัจจุบันมีถึง 8 ล้านจาน ส่วนเคบิลทีวี ก็โตอย่างต่อเนื่่อง  ที่มีถึง 2.6 ล้านครัวเรือน  และเมื่อรวมทั้ง 2 ประเภทจะมีถึง 11 ล้านครัวเรือนและคิดเป็น  50 % ของครัวเรือนในประเทศไทย นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หรือในกรุงเทพก็มีจานดาวเทียมถึง 56%  และไม่จำเพาะจะเป็นคนที่อยู่นอกเมือง แต่ทุกที่ก็มีจานดาวเทียมแต่อาจจะเป็นคนละรูปแบบ  และโดยเฉพาะในเขตเทศบาล เคเบิลทีวีก็จะเป็นหัวใจหลัก เพราะเขาคุ้นเคยมานานแล้ว
 
 นายอดิศักดิ์ กล่าวว่าสิ่งพิมพ์เองที่ผ่านมาเริ่มไม่เติบโต และเป็นไปทั่วโลก เมืองไทยก็หนีไม่พ้น สื่อหนังสือพิมพ์จึงก้าวเข้ามาทำทีวี ไม่ว่าจะเป็นเดลินิวส์ทีวีที่เปิดตัว แต่มติชนทีวี ไทยรัฐทีวี หรือ กรุงเทพธุรกิจทีวี ก็กำลังจะเกิด และช่องเหล่านี้ก็จะเข้ามาแชร์งบโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ก็มองทางนี้เป็นช่องทางเติบโต

 นายเกษมกล่าวว่าในส่วนของเคเบิลทีวีเองก็ต้องการกติกา เพราะเม็ดเงินในอุตสาหกรรมนี้มีเยอะมาก หากมีกฎหมายที่ถูกต้องจะมีคนที่มีเม็ดเงินพร้อมที่จะลงมาในธุรกิจ โดยเฉพาะโฆษณาที่จะลงมา

 นายเกษมระบุว่าที่มีการสำรวจว่ามีผู้บริโภคเคเบิลทีวีอยู่  2 ล้านคน นั่นเป็นเพียงการสำรวจพื้นราบ ลักษณะบ้านเดี่ยว  แต่ตนเชื่อว่างน่าจะมีตัวเลขผู้ชมที่ซ่อนอีกประมาณ 1 ล้านคน เพราะจะอยู่ในรูปแบบของคอนโด อพาร์ทเมนท์  ดังนั้นน่าจะมีผู้ชมเคเบิลทีวีอยู่ประมาณ 3 ล้านคน 
 
 ขณะที่ ผศ.ดร.อัศวินกล่าวว่า ที่ผ่านมาเราปูพรมมานาน  สภาพสังคมเอื้อให้เกิดการกระหายในข้อมูลข่าวสาร ปี 2555 เป็นช่วงที่ประจวบเหมาะแล้วคลิกพอดี  ตนจึงเชื่อว่าจะเป็นการก้าวกระโดด