ธีออส ดาวเทียมของรัฐ ดาวแท้ของประชาชน

คนที่ทำงานพัฒนาด้านข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคนที่พอรู้เรื่องอิเล็คโทรนิค อาทิ คอมพิวเตอร์ เครื่องสำรวจจีพีเอส บ้าง คงแอบตื่นเต้นกับข่าวปลายปีนี้ที่ประเทศไทยจะมีดาวเทียมขนาดเล็กของตนเอง ไว้สำรวจข้อมูลภาพทรัพยากรทางอากาศระยะใกล้ๆ ซึ่งแม้จะเป็นของรัฐเช่นเคย แต่ข่าวรายงานว่า เพื่อบริการข้อมูลแก่ประชาชนด้วย

จากสื่อรายงานว่า ดาวเทียมธีออส (TEOS : Thailand Earth Observation System) จะถูกยิงในเดือนตุลาคมนี้ ที่ฐานยิงประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือกับประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะความสามารถของเจ้าธีออสนี้นั้น สามารถสำรวจ จับภาพได้ละเอียดจนเหมือนมองเห็นได้จากบนท้องฟ้าแทบทั้งหมด อาทิ พืชพันธุ์ชนิดต่างๆ ที่เกษตรกรปลูก สภาพที่ดิน สภาพป่าที่กำลังฟื้นฟู หรือกำลังถูกโค่นถูกบุกรุก กระแสน้ำที่กำลังเอ่อท่วม ดินที่กำลังแล้ง ดูได้กระทั่งบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ทบนเขายายเที่ยง ว่ากำลังก่อสร้างหรือแผ้วถางส่วนไหนของป่า ที่ดินย่านรัชดาอยู่ตรงไหนของ กทม. ชาวบ้านก็จะรู้ด้วยเช่นกัน รู้แม้กระทั่งเส้นทางลำเลียงยาบ้า ลำเลียงแรงงานเถื่อน หรือเรือประมงลำใดกำลังรุกล้ำเขตอนุรักษ์ทางทะเล มองเห็นในระดับความชัดที่ 2 เมตร เห็นเรือเห็นรถยนต์แล่นไปมาเลย (เขาว่าขนาดนั้น)

และดูได้แม้กระทั่งระดับความสูง-ต่ำ ของหุบเขาและหุบเหว ซึ่งแสดงเป็นภาพ 3 มิติ โดยข้อมูลทั้งหมด จะเผยแพร่ผ่านเครือข่ายและยังออนไลน์ ผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งหมายถึงต้องดูผ่านคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ( แต่ไม่ได้ระบุว่า ห้ามส่องดูอะไรมั่ง)

ถ้าวันนี้กฎหมายไทยเอื้อให้เกิดเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร และวันหนึ่งวันหน้าใกล้ๆ นี้ระบบราชการไทย พัฒนาเทคโนโลยีด้านข้อมูลก้าวหน้า เป็นระบบไว้บริการประชาชนได้ อาทิ ข้อมูลทะเบียนเจ้าของที่ดิน แผนที่ที่ดินของรัฐ ของนายทุน ของเกษตรกร และเชื่อมระบบให้สืบค้นได้ง่ายๆ อาทิ สืบค้นแล้วพบว่า ที่ดินนายทุนมีกี่แปลง กี่ไร่ ตรงไหนบ้าง สภาพป่าเป็นอย่างไร ปลูกพืชชนิดไหน รุกล้ำที่สาธารณะ หรือไม่ เชื่อว่าแนวทางการปฏิรูปที่ดินจะชัดเจนเป็นรูปธรรมขึ้น โปร่งใสและกระจายทั่วถึงประชาชนมากขึ้น

หากจะศึกษาการจัดการป่าของอุทยานฯ กับชาวบ้าน เพื่อเปรียบเทียบก็ง่ายขึ้น หรือจะดูปัจจัย ทิศทาง การขยายตัวของชุมชนเมืองและตัวเมือง เพื่อให้องค์กรชุมชนสามารถเข้าถึง ติดตาม ตรวจสอบและมีส่วนร่วมก็ง่ายขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฯลฯ

ด้านป้องกันอุบัติภัย อาทิ พายุ คลื่นยักษ์ ไฟป่า ฯลฯ ประชาชนก็สามารถสำรวจตรวจสอบ และวางแนวทางของตนเองได้มากขึ้น ซึ่งก็ลดความเสียหายไปได้ไม่ใช่น้อย

ปัญหาสำคัญ หลังให้กำเนิดเจ้าดาวเทียมลูกครึ่งพันธุ์ผสม ไทย-ฝรั่งเศส ราคา 6,400 ล้าน ชื่อ "ธีออส" นี้คือ เทคโนโลยีต้องไม่ถูกใช้ หรือสามารถเข้าถึงได้เฉพาะภาครัฐ ภาคธุรกิจ หรือองค์กรพัฒนาเอกชน ที่มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีสูงเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาให้ภาคประชาชนเข้าใจและเห็นคุณค่า ตลอดจนคุ้นชินและเข้าถึงได้ แล้วใช้ประโยชน์ข้อมูลจากดาวเทียมลูกครึ่งดวงนี้ให้ได้ โดยภาครัฐและภาคอื่นๆ ร่วมกันสนับสนุน การพัฒนาทักษะที่จำเป็น

เพราะบทเรียนจากดาวเทียมการสื่อสาร อย่าง ไทคม วันหนึ่งก็เป็นดาวเทียมจริงๆ ของประชาชน เพราะเป็นดวงดาวที่มีหน้าที่หาประโยชน์จากประชาชนถ่ายเดียว ไม่ได้พัฒนาให้เป็น "ดาวแท้" ในหัวใจประชาชนเลย เป็นแค่ดาวของอดีตนักธุรกิจการเมืองที่ชอบมอง ซึ่งตอนนี้ก็ขายทอดตลาดให้ต่างชาติไปแล้ว

ก่อนที่ดาวเทียมธีออสขึ้นไปลอยล่อง เหนือแผ่นดินไทย ยังมีเวลามากพอ สำหรับริเริ่มให้การศึกษาแก่ประชาชน ในวิธีการเข้าใจ วิธีการใช้ ประโยชน์และคุณค่าความสำคัญ นอกจากนั้น การพัฒนาโครงข่ายเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต ก็ต้องทำให้ฉับไวทั่วถึง ที่สำคัญต้อง โปร่งใส และประชาชนมีส่วนร่วม มิใช่กว่าประชาชนจะเล็งเห็นและใช้เป็นก็สูญเสีย โอกาสที่จะได้ประโยชน์นั้นแล้ว โดยเฉพาะการลงทุน คาดว่า แค่เพียง 1 ใน 3 ของราคาเจ้าธีออส ก็น่าจะมากพอแล้วสำหรับการปูพื้นฐานให้กับประชาชน

ประการสุดท้าย สำหรับในขบวนการเคลื่อนไหวด้านสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะทีมข้อมูลและทีมงานสื่อเพื่อสนับสนุนขบวนการประชาชน หรืองานพัฒนา ต้องเตรียมพร้อมและพัฒนาระบบการเชื่อมถึงข้อมูล ให้มีประสิทธิภาพและฉับไว เพื่อสนับสนุนกันให้มากขึ้น เพราะยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกล ทะลุทะลวงข้อจำกัดเดิมได้มาก ก็ยิ่งเป็นทั้งโอกาสและอุปสรรคสำคัญถ้ายังไม่รีบตื่นตัว เพราะโลกปัจจุบันนี้ เมื่อผนวกดาวเทียม รวมกับ โทรศัพท์มือถือ เครื่องยิงจีพีเอส ระบบดิจิตอล คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต แล้วเชื่อมถึงกันเป็นทั้งเครือข่ายและโครงข่าย ซึ่งถ้าสามารถพัฒนาส่วนนี้ให้กับประชาชนได้ละก็


 

ขบวนการประชาชนยังทะลุทะลวงไปได้อีกไกล.....

ข่าวเกี่ยวกับ DREAMBOX
http://thaidreambox.bayore.net/

กทช.เตรียมเปิดประชาพิจารณ์ร่างประกาศใบอนุญาตชั่วคราวกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ กลุ่มทีวีดาวเทียม ไอพีทีวี โมบายทีวี ก.ค.นี้คาดเปิดผู้ประกอบการกว่า 300 รายขอไลเซ่นปลายเดือนส.ค.นี้ พร้อมขยายสิทธิทดลองออกอากาศชั่วคราววิทยุชุมชน 6,500 สถานีเดิมอีก 300 วัน   นายต่อพงษ์ เสลานนท์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ในคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่าวันที่ 2 ก.ค.นี้ คณะอนุกรรมการได้เตรียมพิจารณาร่างประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีอนุญาตประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์แบบไม่มีการบอกรับสมาชิก) หรือกลุ่มทีวีทั่วไป เช่น ทีวีดาวเทียม, ทีวีบนอินเทอร์เน็ต (ไอพีทีวี), โมบายทีวี และอื่นๆ  หลังจากนั้นจะเสนอร่างฯ ให้ กทช.พิจารณาในวันที่ 14 ก.ค.นี้ หาก กทช.เห็นชอบ จะนำร่างฯ เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ กทช. เป็นเวลา 15 วัน เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็น

ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดเวทีสาธารณะประชาพิจารณ์ร่างประกาศฯ ใบอนุญาตทีวีดาวเทียม ได้ช่วงต้นเดือน ส.ค.2553 และจะนำข้อมูลมาปรับเพิ่มในร่างฯ เสนอ กทช.เห็นชอบ และประกาศใช้  ดังนั้นเร็วที่สุดในการเปิดให้ผู้ประกอบกิจการทีวีไม่ใช้คลื่นทุกรูปแบบมายื่นขอใบอนุญาตได้ จะอยู่ในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้

"กทช.มีอำนาจในการออกใบอนุญาตชั่วคราวกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ทุกประเภท ตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ปี 2551 ซึ่งที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการจะทำงานในกิจการเคเบิลทีวีก่อน เพราะมีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบกว่า 500 ราย หรือจำนวนสมาชิกเคเบิล 2.5 ล้านครัวเรือน  ส่วนครัวเรือนที่ติดจานดาวเทียมอยู่ที่ 5 แสนจาน" นายต่อพงษ์ กล่าว

จากการสำรวจจำนวนผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม ซึ่งมีช่องรายการมาลงทะเบียนกับเคเบิลทีวี เพื่อขอใบอนุญาตชั่วคราว คาดว่ามีจำนวน 325 ช่องรายการ แบ่งเป็นช่องรายการรูปแบบ Free to air จำนวน 100 ช่องรายการ ส่วนที่เหลือเป็นช่องรายการที่เคเบิลทีวีผลิตเอง  ร่างฯ ดังกล่าวจะครอบคลุมทีวีทุกรูปแบบที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ซึ่งมีจำนวนมากโดยเฉพาะรูปแบบไอพีทีวี  ให้สามารถเข้ามาขอใบอนุญาตประกอบกิจการชั่วคราว 1 ปี ได้เช่นกัน  

ด้าน รศ.ดร.สุรัตน์ เมธีกุล ประธานคณะทำงานกิจการด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กทช. เปิดเผยว่า กทช.ได้มีมติเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2553 ให้ขยายสิทธิทดลองออกอากาศชั่วคราววิทยุชุมชนที่มาลงทะเบียนทดลองออกอากาศในปีที่ผ่านมา ออกไปอีก 300 วัน หลังจากการทดลองออกอากาศช่วงแรก 300 วันได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2553  โดยให้สิทธิเฉพาะวิทยุชุมชน 6,500 สถานีที่มาลงทะเบียนไว้เดิมเท่านั้น  ซึ่งจะต้องมาแสดงความประสงค์เพื่อขอขายสิทธิทดลองออกอากาศอีก 300 วัน  ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.-28 ก.ค.2553

ในการทดลองออกอากาศวิทยุชุมชนครั้งแรกในปีที่ผ่านมาประมาณ 6,500 สถานี พบว่ามีวิทยุชุมชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ กทช. จำนวน 5,858 สถานี กลุ่มที่ขัดต่อหลักเกณฑ์และอยู่ระหว่างการสอบสวนของ กทช. จำนวน 757 สถานี  และกลุ่มที่ถูกเพิกถอนการทดลองการทดลองออกอากาศ เนื่องจากถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย จำนวน 14 สถานี

ทั้งนี้ กทช.ได้แจ้งเตือนวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีสิทธิในการทดลองออกอากาศชั่วคราว ที่มีคาดว่ามีจำนวน 1,000 สถานี ให้หยุดดำเนินการทันที เพราะหลังจากนี้ กทช. จะร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการจับกุมดำเนินคดีต่อผู้ฝ่าฝืนอย่างเคร่งครัด

ทีวีดาวเทียม "แกรมมี่" ภารกิจ...พิชิตผู้ชม
วันที่ 2010-06-21 06:30:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - ธุรกิจ

tags : แกรมมี่ ดาวเทียม ทรูวิชั่น ผู้จัดการ ทีวี ฟรีทีวี ภารกิจ เรือนไทย 

ด้วยจำนวนผู้ชมทรูวิชั่นส์ 1.5 ล้านสมาชิก, เคเบิลทีวีท้องถิ่น 2 ล้านสมาชิก, จาน C Band 2.3 ล้านจาน, จาน KU Band 5 แสนจาน

รวมแล้วประมาณ 6.3 ล้านครัวเรือน จาก 20 ล้านครัวเรือนไทย หรือเท่ากับ 1 ใน 3 ของประชากรไทย เป็นอีกภาครับช่องรายการที่ไม่ติดยึดกับ "ฟรีทีวี" และล้วนเป็นโอกาสของ 4 ช่องทีวีดาวเทียม "แกรมมี่"

เดียว วรตั้งตระกูล กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม บรอดคาสติ้ง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) บอกว่าเพียงเข้าสู่ปีที่2 ของช่องทีวีดาวเทียมแกรมมี่ 4 ช่อง ทั้ง Fan TV, Bang Channel, Acts Channel และ Green Channel ได้บรรลุเป้าหมายการขยายฐานผู้ชมช่องละ 2 ล้านผู้ชม ได้อย่างสบาย บางช่องเกินเป้าหมายไปถึง 3 ล้านผู้ชม การเติบโตของจำนวนผู้ชมช่องแกรมมี่ มาจากช่องคอนเทนท์ใหม่ๆ ที่หาชมไม่ได้ที่อื่น อีกทั้งเป็นคอนเทนท์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชมจากความหลากหลาย

เชื่อว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า "ทีวีดาวเทียม-เคเบิลทีวี" จะก้าวขึ้นมายืนแถวหน้า แข่งขันกับ "ฟรีทีวี" ได้อย่างสูสี ด้วยฐานผู้ชมที่มีจำนวนไม่แตกต่างกันในเวลานั้น โดยมีคอนเทนท์คุณภาพตรงกลุ่ม จะเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกช่องของผู้ชม เมื่อถึงวันนั้นรายการที่ฟรีทีวีมี...ช่องทีวีดาวเทียมก็จะมีไม่ต่างกัน กระทั่งละครที่ผลิตขึ้นเพื่อออกอากาศเฉพาะทีวีดาวเทียม

ช่องทีวีดาวเทียม จะกลายเป็นสื่อพันธุ์ใหม่ ที่อาจเรียกได้ว่า Mass in Segment แม้ว่าต้นกำเนิดจะเกิดจากการเลือกตอบสนองผู้ชมเฉพาะกลุ่ม แต่ด้วยฐานผู้ชมที่สามารถรับชมช่องรายการผ่านเครือข่ายเคเบิลทีวี และจานดาวเทียม จะมีปริมาณมากพอในการทำธุรกิจในแบบแมส มีเดียได้เช่นกัน

เมื่อมีพื้นที่สื่อชัดเจน กระบวนการต่อไปคือการเจาะเข้ากลุ่มผู้ชมเป้าหมาย หากมีความแตกต่างและโดดเด่นของคอนเทนท์ ก็จะมีที่ยืนในเวทีนี้ ไม่ว่าจะมาก่อนหรือมาหลัง เรียกว่าไม่มีแต้มต่อ ทั้งหมดอยู่ที่ "คอนเทนท์" เท่านั้น การมีคาแรคเตอร์ชัดเจน สามารถสร้างแฟนพันธุ์แท้ได้ไม่ต่างจากสื่ออื่น

เดียว บอกว่าหลังจากจุดพลุช่อง 4 แกรมมี่ในกลุ่มผู้ชมได้บรรลุเป้าหมายในปีก่อน... มาปีนี้ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ให้ท้าทายกว่าเดิม ด้วยตัวเลขช่องละ 7.5 ล้านผู้ชม หรือรวม 4 ช่องแกรมมี่ ตัวเลขจะอยู่ที่ 30 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 50% ของประชากรไทย ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่กำหนดขึ้นลอยๆ แต่อ้างอิงกับภารกิจของ สมาคมโทรทัศน์ดาวเทียมประเทศไทย ที่ต้องการล้มเสาก้างปลาภายใต้ระยะเวลา 3 ปี หรือปี 2556

อีกทั้งตัวเลขการเติบโตของภาครับที่ไม่ใช่ฟรีทีวี โดยเฉพาะในกลุ่มจานรับสัญญาณดาวเทียม ยังมาสนับสนุนความเป็นไปได้ โดยในปี 2551 มีจำนวน 3.8 ล้านจาน ปี 2552 จำนวน 6.3 ล้านจาน เท่ากับเติบโต 65% ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ปี 2553 หากเติบโตระดับ 40% จะอยู่ที่ 8.8 ล้านครัวเรือน หากคิดแบบ Conservative ว่าทุกปีเติบโตระดับ 40% ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่เกินจริง เพราะหากดูจากเป้าหมายยอดขายจานดำ PSI ผู้จำหน่ายจานซี แบนด์รายใหญ่ ที่ปรับเป้าตัวเลขยอดขายจาก 1.5 ล้านจานเป็น 3 ล้านจานในปีนี้ จะช่วยกระตุ้นภาพรวมให้เติบโตได้มากกว่า 40% แน่นอน

ดังนั้นการกำหนดเป้าหมายการเติบโตปีละ 40% ช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ในปี 2556 จำนวนครัวเรือนที่รับชมช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี น่าจะอยู่ที่ 24 ล้านครัวเรือน จะเห็นได้ว่าตัวเลขเกินกว่าจำนวนครัวเรือนไทย 20 ล้านครัวเรือน ที่รับชมฟรีทีวีอยู่ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า หนึ่งครัวเรือนจะมีเครื่องรับทีวี มากกว่า 1 เครื่อง ซึ่งปัจจุบันสังคมไทย ก้าวสู่ไลฟ์สไตล์ดังกล่าวแล้ว จากราคาเครื่องรับทีวี, จานดาวเทียม และค่าสมาชิกเคเบิลทีวี ที่ต่ำลง

ขณะที่แผนต่อยอดขยายฐานชมทั่วไปในปีนี้ จะเป็นการทำกิจกรรมซีอาร์เอ็ม กับฐานสมาชิกเดิมแต่ละช่อง ในรูปแบบคอนเสิร์ต ออน ทัวร์ ทั่วประเทศ ต่อเนื่องจากเฟสแรกใน 4 จังหวัด คือ โคราช พิษณุโลก หาดใหญ่ โดยในเฟสสองจะเริ่มเดือนต.ค.-พ.ย. นี้ ที่เชียงใหม่ จันทบุรี อุดรธานี และ ภูเก็ต กิจกรรมดังกล่าว เป็นการสร้างการรับรู้ช่องแกรมมี่ ในพื้นที่ต่างๆ และนำคอนเทนท์มาต่อยอดทำ Show Biz กับลูกค้าที่เป็นสปอนเซอร์ซื้อมีเดีย และแถมพ่วงด้วยอีเวนท์ได้อีกต่อ เพราะในคอนเสิร์ตแต่ละจุด มีคนร่วมงาน กว่า 4,000 คน ทั้งหมดถือเป็นการสร้างรายได้อีกทางให้ช่องแกรมมี่

ภารกิจแรก...ของช่องแกรมมี่ ที่มุ่งตรงไปยังครัวเรือนไทยทั่วประเทศ ช่วงสองปีที่ทำได้เกินเป้าหมาย สเต็ปต่อไปคือการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ในรูปแบบ B2B ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วกับหลายบริษัทเอกชน เช่น ร่วมกับฐานสมาชิกบัตรเครดิต SCB กว่า 1 ล้านราย เพื่อใช้พอยต์แลกซื้อจานซี แบนด์ เพื่อรับชม 4 ช่องรายการของแกรมมี่ รวมทั้งช่องอื่นๆ อีกว่า 100 ช่อง โปรแกรมล่าสุดจับมือกับ KTC และ DTV ในการเปิดตัวจานรุ่นใหม่ DTV EASY แบบพกพา ให้ลูกค้า KTC ใช้พอยต์แลกซื้อจานดีทีวี ด้วยแคมเปญ "ดูช่องแกรมมี่ ชัดทุกแมทช์ สนุกทุกที่ ด้วยบัตรเครดิต KTC" เข้ากับกระแสบอลโลกในช่วงนี้

อีกช่องทางเพิ่มฐานผู้ชมในรูปแบบ B2G ร่วมกับองค์กรภาครัฐภายใต้แคมเปญ "แกรมมี่ การันตี ความบันเทิง" ด้วยการติดตั้งจานดาวเทียมของพาร์ทเนอร์ที่ร่วมโครงการ ในองค์กรภาครัฐที่ให้บริการประชาชน เพื่อสร้างความบันเทิงให้ผู้มาใช้บริการรับชมช่องแกรมมี่ เป็นเหมือนการเปิดให้ทดลองสินค้า หากติดใจจะได้ซื้อกลับบ้าน

ทั้ง B2B และB2G เป็นโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า win win ทุกฝ่าย ทั้งพันธมิตรที่สามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่ม ส่วนจีเอ็มเอ็ม มีฐานผู้ชมช่องแกรมมี่เพิ่ม

"รูปแบบการขยายฐานผู้ชมแบบ B2B และ B2G ไม่ใช่ช่องแกรมมี่ เท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่ภาพรวมอุตสาหกรรม จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะในจานรับสัญญาณมีช่องรายการจำนวนมาก ไม่เฉพาะช่องแกรมมี่เท่านั้น แต่เราเพียงต้องการเป็น Frist Brand ของผู้ชม"

การขยายฐานผู้ชมทั่วไป ตอบโจทย์สร้างการรับรู้ว่าเป็นช่องคุณภาพ แต่ในฝั่ง B2B และ B2G เป็นเรื่องที่จีเอ็มเอ็มเพิ่งเริ่ม เป็นอีกช่องทางในการสร้างการรับรู้ให้ตลาด ซึ่งไม่ว่าจะรับรู้แบรนด์จากช่องทางใด ก็จะกลายมาเป็นผู้ชมของช่องแกรมมี่ได้ในที่สุด

ทุกภารกิจเพื่อไปสู่เป้าหมายผู้ชมช่องละ 7.5 ล้านคน ให้ได้ในปีนี้ นั่นหมายถึง ...การบรรลุเป้าหมายการรักษาฐานผู้ชมทีวีดาวเทียม เพื่อให้ทั้ง 4 ช่องแกรมมี่อยู่ในอันดับต้นๆ และเตรียมพร้อมการเปิดตัวช่องน้องใหม่ Bird Channel รวมทั้งการหารายได้ให้กับจีเอ็มเอ็ม ที่ต้องการเห็นตัวเลขรายได้ทีวีดาวเทียมเติบโต 100%

อาร์เอสย้ำเหตุจอดำ ไม่กระะทบสปอนเซอร์
วันที่ 2010-06-18 17:00:00 โดย ไทยรัฐ - เศรษฐกิจ
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบมจ.อาร์เอส ระบุ เหตุจานดำระบบC- Brand จอมืดระหว่างการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ไม่ส่งผลกระทบต่อสปอนเซอร์พันธมิตรถ่ายทอดสด ย้ำจานดำที่สามารถเข้าถอดรหัสการถ่ายทอดสดย? ( Encryption ) สามารถรับชมได้แล้วในวันนี้

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัทอาร์เอส จำกัด ( มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้รับตรงสัญญาณดาวเทียมบางพื้นที่ไม่สามารถรับชม การถ่ายสดฟุตบอลโลก 2010 โดยเฉพาะผู้ที่รับสัญญาณโทรทัศน์ในระบบ C- Brand หรือจานดำ ว่า หลังจากที่ทางบริษัทฯอาร์เอส ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการจานดาวเทียมเพื่อหาทางออกร่วมกันในเชิงเทคนิคและหา วิธีการแก้ไขเพื่อเร่งดำเนินการให้ผู้ที่รับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านระบบ C- Brand สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ หลังจากที่มีปัญหาพบว่าที่ผ่านมาไม่มีการเข้ารหัสสัญญาณ โดยขอยืนยันว่าในวันนี้จานดำที่สามารถเข้าถอดรหัสการถ่ายทอดสดย? ( Encryption ) ได้ จะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้แล้วแน่นอน ส่วนที่ยังไม่สามารถถอดรหัสได้นั้นจำเป็นต้องไปหาวิธีการอื่นๆ เพื่อสามารถรับชมได้ต่อไป

นางพรรพรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนกระแสข่าวที่อาจโดนเรื่องการฟ้องร้องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดนั้น ขอย้ำว่า ทางอาร์เอสเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงแต่ในระหว่างที่เกิดปัญหาขัดข้องนั้น ก็ได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้สามารถรับชมได้ตามปกติ แต่ในทางกฏกติกา มารยาท แล้วทางอาร์เอสไม่ได้ทำผิดกฏหมายใดๆทั้งสิ้น เพราะว่าสัญญาณนี้เป็นสัญญาณที่มีลิขสิทธิ์ จำเป็นต้องปฎิบัติตามกฎกติกาที่เจ้าของลิขสิทธิ์กำหนดไว้ ซึ่งต้องขออธิบายว่าในส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อาร์เอสไม่ได้ไปละเมิดสิทธิ์ ใคร แต่วิธีการรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่นๆ ก็เลยส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าวนี้ขึ้นมา แต่โดยนัยทางกฏหมายถือว่าอาร์เอสไม่ได้ทำผิด

"สำหรับสปอนเซอร์ที่เป็น พันธมิตรในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกกับทางอาร์เอส ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด เพราะได้ชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้วว่าอาร์เอสต้องทำหน้าที่ในการออกอากาศบนฟรี ทีวีซึ่งทำอย่างถูกต้องแล้ว แต่ในขณะที่มีเครื่องรับบางประเภทที่รับไม่ได้ เพราะทางอาร์เอสทำหน้าที่ส่งสัญญาณออกอากาสผ่านฟรีทีวีแล้วแต่การที่เครื่อง รับชมบางประเภทรับชมไม่ได้สิ่งนั้นเป็นเรื่องของผู้ประกอบการที่ขายอุปกรณ์ ต้องเร่งแก้ไขรับผิดชอบ"นางพรพรรณ กล่าว.

อลงกรณ์จี้อาร์เอสส่งวิธีจัดเก็บลิขสิทธิ์บอลโลก     ข่าวโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
 
"อลงกรณ์" จี้อาร์เอสส่งรายละเอียดการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บอลโลกให้กรมทรัพย์สิน พร้อมย้ำอย่ากระทบต่อประชาชน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมหารือร่วมกับนายสุรชัย  เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคและผู้ธุรกิจให้บริการบางสาขาหรือร้านคาราโอเกะกรณีนำโทรทัศน์เปิดให้บริการถ่ายทอดฟุตบอลโลกเข้าข่ายต้องเสียค่าลิขสิทธิ์กับอาร์เอสหรือไม่นั้น โดยได้หารือและทำความเข้าใจกับทางอาร์เอสแล้ว

ทั้งนี้ ได้ขอให้ทางอาร์เอสจัดส่งรายละเอียดวิธีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่เก็บอยู่ให้ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาพิจารณา โดยย้ำว่าการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อย่าให้กระทบต่อประชาชนที่ชมเพื่อความบันเทิง แต่เป็นเชิงพาณิชย์ให้ทำความเข้าใจก่อนเก็บค่าลิขสิทธิ์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

สำหรับปัญหาที่ผู้ชมผ่านสัญญาณจานเทียมไม่สามารถชมได้นั้น ผู้บริหารอาร์เอสชี้แจงว่า หากเป็นการชมผ่านจานดาวเทียมดำ (ซีแบนด์) หรือจานระบบเก่า ต้องปรับระบบของจานดาวเทียมก่อน การแก้ไขในเบื้องต้นได้คือ หาซื้อหนวดกุ้งหรือเสาโทรทัศน์เพื่อติดทดแท

แห่ซื้อจานทรูวิชั่น-แผงรับสัญญาณทีวีดูบอลโลก   วันที่ 2010-06-15 14:00:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - ธุรกิจ   หลังจานรับสัญญาณดาวเทียมดำถ่ายทอดบอลโลกถูกระงับ ทำให้ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งอุปกกรณ์ติดตั้งทีวี-ตัวแทนจำหน่ายจานดาวเทียมทรูวิชั่นคึกคัก

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งรับสัญญาณทีวี หลังจากการถ่ายทอดบอลโลกผ่านจานดาวเทียมถูกระงับ โดยเฉพาะจานรับสัญญาณดาวเทียมดำจะไม่สามารถรับได้ตามปกติ เนื่องจากมีผลกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอด ทำให้ผู้ที่มีจานรับสัญญาณดาวเทียมทั่วไประบบ"ซีแบรนด์" ไม่สามารถเปิดรับสัญญาณได้

โดยที่ร้านชุมมพลอีเล็คโทรนิคส์ ถนนพิชัยสงคราม ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งไฟฟ้า และอุปกกรณ์ติดตั้งทวี และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายจานรับสัญญาณดาวเทียมของทรูวิชั่น ตลอดเวลามีผู้คนเข้าออกตั้งแต่เปิดร้าน เพื่อมาติดต่อกับพนักงาน พร้อมทั้งซื้ออุปกรณ์ติดตั้งจานดาวเทียมและแผงรับสัญญาณทวีที่สามารถทำให้รับชมการถ่ายทอดฟุตบอลโลกได้

ขณะที่จานดาวเทียมเหลือง DTV ระบบเคยู แบนด์ เผยรับชมบอลโลกได้ตามปกติ หลังบริษัท อาร์เอส( RS) ล็อกสัญญาณจานซีแบนด์ คาดยอดขายพุ่ง 40%

ทรูวิชั่นส์ บุกตลาด"ฟรี ทู แอร์"แข่งตลาดจานรับสัญญาณดาวเทียม-ทีวีดาวเทียม หลังกม.เปิดทางมีโฆษณา เร่งทำตลาดขายชุดอุปกรณ์ชมรายการฟรี 40ช่อง

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรูวิชั่นส์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทวางแผนจะรุกตลาดฟรีทูแอร์อย่างจริงจัง หลังจากกฎหมายเปิดโอกาสให้ธุรกิจเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม สามารถหารายได้จากโฆษณาได้ โดยจะทำตลาดขายขาดชุดอุปกรณ์รับชมช่องรายการของทรูวิชั่นส์ ประกอบด้วย เซต ท็อป บ็อกซ์ และจานรับสัญญาณดาวเทียม ระบบเคยูแบนด์ พร้อมช่องรายการทรูวิชั่นส์ 40 ช่อง เพื่อเป็นอีกทางเลือกของผู้ชมในตลาดทีวีดาวเทียม ที่มีอัตราการเติบโตสูงในปัจจุบัน

นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล บมจ.ทรูวิชั่นส์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำตลาดขายขาดชุดอุปกรณ์ รับชมช่องรายการทรูวิชั่นส์ ราคาชุดละประมาณ 3,900 บาท อยู่แล้ว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือนอีก รับชมช่องรายการฟรี 30 ช่อง แต่ปีนี้ จะรุกทำตลาดฟรีทูแอร์ต่อเนื่อง และเพิ่มเป็น 40 ช่องรายการ เพื่อขยายฐานตลาดดังกล่าวมากขึ้น

ทั้งนี้ การทำตลาดฟรีทูแอร์ จะไม่ส่งผลกระทบกับแพ็คเกจ ทรู ไลฟ์ ฟรี วิว ซึ่งเป็นแพ็คเกจราคาประหยัดสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ทรูมูฟ เดือน 300 บาท และสามารถรับชมช่องรายการทรูวิชั่นส์ ได้ 42 ช่องรายการ โดยตลาดฟรีทูแอร์ จะแข่งขันกับตลาดจานดาวเทียมในปัจจุบัน

สำหรับแผนการรุกตลาด ทรูวิชั่นส์ ในไตรมาส 2 ปีนี้ ได้ใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ระบบออกอากาศ High Definition ด้วย 2 ช่องรายการใหม่ True Sport HD ช่อง 111 แหล่งรวมกีฬาระดับโลก ประเดิมด้วย การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ทั้ง 64 แมทซ์ และกีฬาชั้นนำอื่นๆ อีกหลายรายการ และช่อง HBO HD ช่อง 112 นำเสนอภาพยนตร์ยอดนิยมเดือนละกว่า 100 เรื่อง โดยการรับชมทั้ง 2 ช่องเอชดีดังกล่าว จะนำเสนอในแพ็คเกจแพลตินั่ม และโกลด์ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเดือนละ 290 บาท

ในปีที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์มีสมาชิกรวม 1.7 ล้านราย ครอบคลุมครัวเรือนจำนวน 2 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นแพ็คเกจแพลตินั่มและโกลด์ จำนวน 4 แสนราย แพ็คเกจซิลเวอร์ และโนว์เลดจ์ จำนวน 9 แสนราย ส่วนที่เหลือ เป็นแพ็คเกจ ทรูไลฟ์ ฟรี วิว โดยคาดว่า จะมีสมาชิก จำนวน 3-4 หมื่นราย ซื้อแพ็คเกจรับชมช่อง HD เพิ่ม หรือคิดเป็นสัดส่วน 10-15% ของสมาชิกแพลตินั่มและโกลด์ แพ็คเกจ

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ในปีนี้คาดว่าทรูวิชั่นส์ ยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย 3-5% แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยวางแผนจะเปิดช่องรายการใหม่ในปีนี้ 8 ช่อง ในจำนวนดังกล่าวจะเปิดช่องข่าว TNN 3 เพื่อนำเสนอข่าว รายการ และสารคดีท้องถิ่น หวังให้เป็นอีกช่องทางการสื่อสารปัญหาต่างๆ ของกลุ่มรากหญ้าไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

พีเพิลแชแนลถูกตัดสัญญาณดาวเทียวแล้ว ยึดสถานีรับ-ส่งสัญญาณ แกนนำยื่นคำขาดคืนสัญญาณภายในเย็นนี้ พร้อมยกระดับชุมนุมขั้นสูงสุด

มีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น. สถานีพีเพิลชาแนล ถูกตัดสัญญาณทางเคเบิลทีวี ไม่สามารถรับชมได้

แดงโคราชเดือดปิดพีเพิลชาแนล

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ในวันนี้ ( 8 เม.ย.2553 ) ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงในเขตอำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียงทยอยเดินทางมารวมตัวกันที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขานครราชสีมา เพื่อรับชมและติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ ที่ถ่ายทอดสัญญาณช่องพีเพิลชาแนลจากดาวเทียมต่างประเทศ เนื่องจากสัญญาณที่ถ่ายทอดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนลจากดาวเทียวไทยคมถูกรัฐบาลประกาศระงับการถ่ายทอดหลังจากที่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (7 เม.ย.) ทำให้บางพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีจานดาวเทียมรับสัญญาณการถ่ายทอดจากดาวเทียมไทยคมไม่สามารถรับชมสถานีพีเพิลชาแนลได้ พร้อมกันนี้ยังได้มีการปรึกษาหารือกันเพื่อเตรียมแผนการเดินทางเข้าไปร่วมสบทบกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ ในช่วงเย็นวันนี้ เพราะไม่สามารถเดินทางโดยอิสระเหมือนเช่นที่ผ่านมาได้ เนื่องจากได้มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงแล้ว

นายสมโภชน์ ประสาทไทย หัวหน้าศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขานครราชสีมา หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการระงับการถ่ายทอดสัญญาณสถานีพีเพิลชาแนลจากดาวเทียมไทยคม ก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงในเขตอำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียง ได้ทยอยเดินทางมารับชมการถ่ายทอดสัญญาณสถานีพีเพิลชาแนลเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.อย่างใกล้ชิด ที่ศูนย์ประสานงานฯ ที่ยังคงสามารถรับชมได้

เนื่องจากทางศูนย์ประสานงานฯได้รับสัญญาณดาวเทียมทั้งในส่วนของดาวเทียมไทยคมและดาวเทียมต่างประเทศจึงทำให้ยังคงสามารถรับชมได้ตามปกติ โดยหลังจากที่มีการระงับสัญญาณการถ่ายทอดจากดาวเทียมไทยคม ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา ที่ไม่สามารถรับชมได้เป็นอย่างมาก และในวันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงเหล่านั้นก็ได้มีการปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อเตรียมแผนการที่จะรวมตัวกันเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯในช่วงเย็นวันนี้ เนื่องจากมีข่าวว่าไม่สามารถที่จะเดินทางเข้าไปได้สะดวกเหมือนเช่นที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็ได้มีการสรุปแผนการโดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการเดินทาง ที่เดิมจะเดินทางเป็นกลุ่ม เป็นกระจายทยอยกันเดินทางและไม่ให้มีการสวมเสื้อแดงให้เป็นที่สังเกต เพื่อหลีกเลี่ยงการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ โดยมีจุดหมายเดียวกันคือที่สถานีดาวเทียมไทยคม เพื่อแสดงพลังและกดดันให้รัฐบาลให้ยุติการระงับสัญญาณที่ถือเป็นการปิดหูปิดตาประชาชน ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา จะเดินทางไปปิดสถานีดาวเทียวไทยคมมากน้อยแต่ไหน แต่คาดการณ์ว่าจะไม่น้อยกว่า 500 คน

ส่วนการเคลื่อนไหวในพื้นที่นั้น นายสมโภชน์ฯ กล่าวว่า ที่บริเวณสนามหน้าศาลางกลางจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดตั้งจุดถ่ายทอดสัญญาณสถานีพีเพิลชาแนล ให้บริการคนเสื้อแดงและประชาชนทั่วไปที่ไม่สามารถรับชมสถานีพีเพิลชาแนลได้ ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด โดยจะเริ่มมีการถ่ายทอดตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 24.00 น.เป็นประจำทุกวัน และจะมีการชุมนุมแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลที่ปิดหูปิดตาประชาชนปิดกั้นไม่ให้รับฟังข่าวสาร รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลห้ามใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอีกด้วย ขณะที่บริเวณข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ก็ได้มีการตั้งจุดถ่ายทอดสัญญาณพีเพิลชาแนลพร้อมกับมีเวทีปราศรัยของกลุ่มแกนนำในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนชาวโคราชไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯอีกทางหนึ่งด้วย นายสมโภชน์ฯ กล่าว

แกนนำแดง ยื่นคำขาดคืนสัญญาณภายในเย็นนี้

เวที่ราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยว่าขอให้รัฐบาลคืนสัญญาณพีทีวีภายในเย็นนี้หากไม่คืนจะประกาศยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด และในเวลา 09.00 น.พรุ่งนี้จะมีการชุมนุมต้านพรก.ฉุกเฉินและถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดเช่นกัน

"การที่รัฐบาลปิดสัญญาณครั้งนี้อาจมีการเตรียมสลายการชุมนุมภายในเช้าพรุ่งนี้ และหากเป็นเช่นนั้นวันพรุ่งนี้ก็ จะแสดงพลังครั้งสูงสุดและการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ "

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 11.00 น. เวทีเสื้อแดงเกิดความตื่นตัว หลังแกนนำประกาศว่ามีความพยายามตัดสัญญาณ ไทยคมและปิดพีทีวีแกนนำบอกว่าอย่างไรขอให้ผนึกกำลังอย่าไปไหนให้ยึดบริเวณราชประสงค์เป็นฐานที่ตั้งห้ามทิ้ง

เทคโนโลยี-กม.เปิดทาง สำนักข่าวผุดทีวีดาวเทียม
จับตาพ.ร.บ.วิทยุโทรทัศน์เปิดทางผู้ผลิตคอนเทนท์เป็นเจ้าของสื่อง่ายขึ้น รายเล็ก-มืออาชีพแห่ลงทุนช่องทีวีดาวเทียม
 
การพัฒนาของสื่อและเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลและการประกาศใช้พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่ให้ใบอนุญาตชั่วคราวกิจการเคเบิลทีวี  และหารายได้จากโฆษณา เปิดทางและเปิดโอกาสให้ "ผู้ผลิตคอนเทนท์" สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจ "สื่อ"ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรายเล็กและกลุ่มมืออาชีพ

หากเป็นในอดีตการลงทุนสื่อจะต้องมีต้นทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสถานีวิทยุ 1 คลื่น ขณะที่การเปิดสถานีฟรีทีวี 1 ช่องต้องลงทุนระดับพันล้านถึงหมื่นล้านบาท แต่ทีวีดาวเทียม 1 ช่องในยุคนี้ใช้เม็ดเงินราว 30-50 ล้านบาทเท่านั้น เป็นสื่อที่ได้ทั้งภาพและเสียง

ที-นิวส์ขยายช่องทีวีดาวเทียม จากทิศทางดังกล่าว สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กรรมการผู้อำนวยการ กรีน มัลติมีเดีย กรุ๊ป  ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการสื่อกว่า 20 ปี ได้เริ่มลงทุนส่วนตัวในกิจการสื่อเริ่มจาก "สำนักข่าว ที-นิวส์" ช่วงกลางปี 2550 ให้บริการข่าวเอสเอ็มเอส และเอ็มเอ็มเอส ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกค่าย

ส่วนแผนการลงทุนช่วงครึ่งปีหลังนี้ เตรียมเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียม "ที-นิวส์ แชนแนล" (T-news Channel) สถานีข่าว 24 ชั่วโมง ออกอากาศแบบฟรี ทู แอร์ รับชมได้จากจานดาวเทียมระบบ ซี แบนด์ และเคยู แบนด์ ที่ปัจจุบันมีฐานผู้ชมติดตั้งจานดาวเทียมแล้วกว่า 3 ล้านจานทั่วประเทศ 

ในปีที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อมของทีมข่าว 70 คน และเครือข่ายวิทยุชุมชนทั่วประเทศกว่า 400 สถานี เพื่อผลิตข่าวป้อนให้ที-นิวส์ แชนแนล ด้วยแนวคิดสถานีข่าวที่เน้น"ข่าว" ที่แตกต่างจาก "สถานีข่าว"ในปัจจุบัน  ซึ่งเข้าข่าย "สถานีความคิดเห็น" จากผังรายการที่ให้น้ำหนักกับรายการประเภทล้อมวงสนทนาแสดงความคิดเห็น แต่ที-นิวส์ แชนแนล จะจัดผังรายการที่ตอบสนองสถานการณ์ข่าวที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง พร้อมนำเสนอข้อมูลเบื้องหลังข่าว  การเสนอรายการความคิดเห็นจะมีสัดส่วนน้อย  เพื่อให้ ที-นิวส์ เป็นทางเลือก "สถานีข่าว" ที่ครบถ้วน รอบด้าน และเจาะลึก ตอบสนองผู้ชมที่ต้องการเสพข่าว ไม่ใช่ความคิดเห็น

อดีตไอทีวีผุด"สปริง นิวส์" ด้าน ฉัตรชัย ตะวันธรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือสำนักข่าวไอนิวส์ กล่าวว่า ปัจจุบันไอนิวส์เป็นทีมข่าวอิสระของเอกชนที่มีบุคลากรใหญ่ที่สุดทีมหนึ่ง โดยมีทีมผลิตข่าวครบทุกแผนกรวมกว่า 130 คน  ตั้งแต่ยุคที่ผลิตข่าวในช่องไอทีวี และช่อง 11 เอ็นบีที ในขณะนี้ 

จากความพร้อมด้านบุคลากรข่าว และต้องการนำเสนอนวัตกรรมข่าวใหม่ ที่แตกต่างจากช่องฟรีทีวีและทีวีดาวเทียมช่องข่าวในปัจจุบัน  ดังนั้นภายในครึ่งปีแรกนี้ไอนิวส์จะเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมสถานีข่าวในชื่อ สปริง นิวส์ (Spring News) ส่งสัญญาณแบบฟรี ทู แอร์  ผลิตข่าวภายใต้แนวคิด "ข่าวที่คนไทยอยากดู"  เป็นสถานีข่าว "ไม่มีสี"

"ยังมีนวัตกรรมข่าวใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับยุคที่ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ในนามแปซิฟิกฯได้ปรับปรุงข่าวช่อง 9 ให้เป็นรูปแบบสากล  หรือยุคปัจจุบันที่รายการเล่าข่าว คุยข่าว เฟื่องฟู เชื่อว่ายังมีนวัตกรรมข่าวใหม่ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นยุคใดก็ตาม"

การขยายตัวของช่องทีวีดาวเทียมประเภทสถานีข่าวในปีนี้  มาจากผู้ผลิตคอนเทนท์เห็นโอกาสจาก บิซิเนส โมเดลใหม่ ที่สามารถเป็นเจ้าของสื่อทีวีอีกรูปแบบที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง  และผู้เล่นในปัจจุบันยังมีจุดอ่อน จากเนื้อหาที่นำเสนอถูกการเมืองแทรกแซง  ทำให้นวัตกรรมข่าวรูปแบบใหม่ มีโอกาสเข้ามาสร้างสีสัน ยึดครองผู้ชมที่แสวงหาคอนเทนท์ที่แตกต่างได้ 

ไอเอ็นเอ็นร่วมผลิตเอ็มบี แชนแนล

 "เอ็มบี แชนแนล" (MB Channel) เป็นสถานีข่าวทีวีดาวเทียมที่เปิดตัวไปตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมี สุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มีเดีย บารอน จำกัด เป็นผู้บริหาร เล่าว่า จุดเริ่มต้นของเอ็มบี แชนแนล มาจากความต้องการมีรายการให้ความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยทางช่องฟรีทีวี เพื่อสนับสนุนธุรกิจครอบครัวในนาม "มิตรแท้ประกันภัย" แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการขอเวลาผลิตในฟรีทีวี

จึงเริ่มศึกษาการดำเนินธุรกิจทีวีดาวเทียมแทน โดยใช้เงินลงทุนส่วนตัว จัดตั้ง บริษัท มีเดีย บารอน จำกัด บริหารธุรกิจช่องทีวีดาวเทียมช่องเอ็มบี แชนแนล ในระบบซี-แบนด์ ครอบคลุม 22 ประเทศ ในปีที่ผ่านมา

วางคอนเซ็ปต์เป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมง โดยมีสำนักข่าว "ไอเอ็นเอ็น" เป็นพันธมิตรร่วมผลิตข่าว นำเสนอทุกครึ่งชั่วโมงตลอดทั้งวัน ซึ่งรวบรวมรายการข่าวสาร ความบันเทิง ครบทุกรูปแบบ รวมทั้งรายการประกันภัย ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำช่องเอ็มบี แชนแนล  โดยชูจุดเด่นนำเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง  ไม่แสดงความคิดเห็นหรือชี้นำ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลอย่างถูกต้องและเป็นผู้ตัดสินใจเอง
 
 

ข่าวจานดาวเทียม อังคารที่ 11 พ.ค. 2010
OK LOVE เงินเหลือ แจกรางวัลคนฟัง
ThaiPR.net
ปุ๋ย โชคชัย เจี่ยเจริญ บิ๊กบอส OK Loveมีกิจกรรมดีๆมาให้ชาว OK LOVE ทั่วประเทศได้ตื่นเต้นกันอีกแล้ว กับกิจกรรม ”ได้รู้จักฉัน ได้รู้จักเธอ” ไม่ว่าคุณจะรับฟังผ่านช่องทางไหน คุณจะได้รู้จักกันแน่นอน โดยจะให้คนฟังที่ฟังผ่านทาง INTERNET หรือ จานดาวเทียมซีแบนด์และคนฟังที่ฟังผ่านวิทยุ FM มาทำความรู้จักอ่านต่อ

ข่าวจานดาวเทียม อังคารที่ 4 พ.ค. 2010
พณฯ นายกรัฐมนตรีให้เกียรติเยี่ยมชมบู๊ธซิงเกอร์ใน “งานมหกรรมโลกไร้เสา STAT EXPO 2010”
ThaiPR.net

บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเน้นกิจกรรมการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำการสร้างแบรนด์ และโปรโมทสินค้าประเภทจานดาวเทียมกับลูกค้าในกรุงเทพฯ ภายในงาน “มหกรรมโลกไร้เสา STAT EXPO 2010” งานนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย)อ่านต่อ

ข่าวจานดาวเทียม พุธที่ 31 มี.ค. 2010
 “OK HOT ปล่อยอุณหภูมิความร้อน ว่าคุณร้อนแค่ไหน”
ThaiPR.net
สถานีวิทยุระบบ FM ที่มีเครือข่ายอยู่มากกว่า 90 สถานีในจังหวัดหลักทั่วประเทศ ทางเว็ปไซด์ ww.radiook.co.th และทางโทรทัศน์ที่ติดตั้งเครื่องรับสัญญาณจานดาวเทียมระบบC Band , KU Band แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากความตั้งใจและความคิดดี ๆ ของคุณปุ๋ย โชคชัย เจี่ยเจริญ ที่ตั้งใจให้คนไทยทั้งประเทศได้ฟังรายการวิทยุที่มีคุณภาพอ่านต่อ

ข่าวจานดาวเทียม ศุกร์ที่ 26 มี.ค. 2010
 ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศ 1 เม.ย. 53
ThaiPR.net
รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันพฤหัสบดี ที่ 1 เมษายน 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30 06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. และทรูวิชั่นส์ 97 (จานดาวเทียม) เวลา 15.05 น. ขณะที่ซีเอสอาร์หรือความรับผิดชอบต่อสังคมกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่บริษัทใหญ่เล็กอ่านต่อ

ข่าวจานดาวเทียม จันทร์ที่ 22 มี.ค. 2010
แกนนำ นปช.ยื่นเงื่อนไขหากรัฐบาลต้องการเจรจากับเสื้อแดงต้องยกเลิก พรบ.มั่นคงก่อน
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
เมื่อเวลา 10.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความพยายามในการก่อกวนสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่การชุมนุม โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีชายคนหนึ่งเข้ามาทำลายจานดาวเทียมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งขณะนี้การด์ได้คุมตัวไว้เพื่อส่งเจ้าหน้าตำรวจสอบสวนต่อไปแล้วอ่านต่อ

ข่าวจานดาวเทียม อาทิตย์ที่ 21 มี.ค. 2010
คอลัมน์: Side Ways: จิตสำนึกบ้าน ๆ กับจานดาวเทียม
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แรงบันดาลใจจาก "กีฬาสี" ที่ฝ่ายเสื้อแดงรับบทบาทเป็นเจ้าภาพ ทำให้ผมตัดสินใจถอนขนหนาแข้งตัวเองหนึ่งขยุ้ม ถอยจานดาวเทียมเอามาติดบนหลังคาบ้านเพิงหมาแหงน ทั้งที่เคยตั้งปณิธานเอาไว้ตั้งแต่คราวบอกเลิกสัญญากับเคเบิลผูกขาดรายเดียวในเมืองไทยไปเมื่อกว่า 10 ปีก่อนว่า จะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างธุรกิจนี้อีกเป็นอันขาดอ่านต่อ

คอลัมน์: หมายเหตุบ้านเมือง: แดงป่วนกรุง
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
ที่บ้านผมติดตั้งจานดาวเทียม และเชื่อว่าหลายๆ บ้านก็หันมาทันสมัยเลิกใช้เสาโทรทัศน์แบบเก่าจึงมีโอกาสติดตามข้อมูลข่าวสารรอบด้านมากขึ้น...ทั้งช่องเหลือง ช่องแดง ดูกันตาแฉะ อย่างเหตุการณ์ม็อบแดงบุกราบ 11 บางเขน สามเกลอหัวขวดเจอกับชุดปฏิบัติการทางจิตวิทยาของฝ่ายทหารแล้วเซ่อรับประทานยังไงอ่านต่อ

ข่าวจานดาวเทียม ศุกร์ที่ 26 ก.พ. 2010
ดีทีวี เซอร์วิส จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวจานดาวเทียม DTV Easy
ThaiPR.net
บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด ผู้ครองตลาดจานดาวเทียมระบบ KU Band ของประเทศไทย จะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ DTV Easy นวัตกรรมใหม่ของจานดาวเทียม ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ พร้อมแถลงกลยุทธ์ทางการตลาด ยอดการจัดจำหน่าย และผลประกอบการของบริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด ในปี 2552 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯอ่านต่อ

เมเจอร์ฯ จับมือ กันตนาตั้งบริษัทร่วมทุน "เมเจอร์ กันตนา บรอดแคสติ้ง" ลุยศึกเคเบิล-ทีวีดาวเทียม เปิดตัว"เอ็ม แชนแนล"คาดใช้เงินทุน 50-60ล.

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ได้ร่วมทุนกับบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท เมเจอร์ กันตนา บรอดแคสติ้ง จำกัด  ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากัน  เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจ  คอนเทนท์ โปรวายเดอร์  ช่องรายการภาพยนตร์และบันเทิง 24 ชั่วโมง ภายใต้ชื่อ เอ็ม แชนแนล (M Channel) ออกอากาศตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาคาดใช้เงินลงทุนปีละ 50-60 ล้านบาท

เอ็มแชนแนล จะออกอากาศแบบ ฟรี ทู แอร์  ผ่านทุกแพลตฟอร์มทั้งเคเบิลทีวีท้องถิ่น ซีทีเอช  , จานดาวเทียม ดีทีวี ระบบเคยู แบนด์, จานดาวเทียมระบบซีแบนด์ ในแพลตฟอร์มของ อสมท, ไอพีทีวี, สมาร์ท โฟน เครือข่ายเอไอเอส

ปัจจุบันการรับชมช่องรายการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ได้เปลี่ยนสู่รูปแบบเคเบิลทีวี และจานดาวเทียม เคยู แบนด์ และซีแบนด์  ซึ่งมีฐานผู้ชมรวมกว่า 10 ล้านครัวเรือน เป็นช่องทางการสื่อสารที่มีศักยภาพในการโปรโมทอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผ่าน เอ็ม แชนแนล ที่สามารถสื่อสารกับผู้ชมได้ตลอดทั้งวัน ด้วยต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับการใช้สื่ออื่นๆ อีกทั้งเจ้าของสินค้าและแบรนด์ต่างๆ ยังให้ความสนใจซื้อโฆษณาผ่านช่องรายการในเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมเพิ่มขึ้น

เอ็มแชนแนล จะเป็นสื่อของอุตฯ ภาพยนตร์ โดยเฉพาะหนังไทย ที่จะใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับผู้ชมโดยเฉพาะในต่างจังหวัด และจะผลักดันการเติบโตรายได้หนังไทย และโรงภาพยนตร์ ให้เติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ในปีนี้ นายวิชา กล่าว

ช่องทางการหารายได้ของเอ็ม แชนแนล จะมาจากโฆษณา ขณะนี้มีผู้สนับสนุนแล้ว 2 ราย คือ โตโยต้า และโอสถสภา ด้วยงบรายละ 15 ล้านบาทต่อปี และอยู่ระหว่างการเจรจาสปอนเซอร์อีก 2 ราย คาดว่าปีแรกของการดำเนินธุรกิจจะมีรายได้ 50 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 100 ล้านบาทในปีที่สอง

รายการของเอ็ม แชนแนล จะนำเสนอภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ 70% และเป็นรายการที่ผลิตเอง 30% โดยกันตนา รับผิดชอบในการผลิต ซึ่งทำให้ เอ็ม แชนแนล แตกต่างจากช่องทีวีดาวเทียม อื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะภาพยนตร์

นายจาฤกกัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  เอ็ม แชนแนล สามารถใช้เป็นช่องทางสื่อสาร "ต้นทุนต่ำ" เพื่อพัฒนาอุตฯ ภาพยนตร์ไทยเติบโต ผ่านการเผยแพร่กิจกรรม โฆษณา เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ ฯลฯ อีกทั้งพฤติกรรมการรับชมช่องรายการของคนไทย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เปลี่ยนมารับชมรายการจากเคเบิลทีวี และจานรับสัญญาณดาวเทียมมากขึ้น

แกนนำแดงกรุงเก่าพร้อมพบดีเอสไอ แจงจ่ายเงินค่าแรงทำดาวเทียม

นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยา เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่า หลังจากได้รับหมายเรียกจากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้เข้าชี้แจงการทำธุรกรรมทางการเงินที่ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สถานการณ์ฉุกเฉิน ในวันที่ 7 กรกฎาคม ว่า ตนจะไปดีเอสไอตามหมายอย่างแน่นอน โดยจะไปพร้อมกับน้องสาวและบุตรสาว เพื่อให้แสดงความบริสุทธิ์ ส่วนข้อมูลและหลักฐานที่เตรียมไปยืนยัน คือการเบิกเงินทุกอย่างได้เป็นค่าใช้จ่ายให้กับคนงานในการผลิตจานดาวเทียม รวมถึงคนงานที่ตนเองเปิดร้านขายของเท่านั้น 

"อยากฝากไปถึงรัฐบาลว่า ไม่ต้องส่งมาเฝ้าติดตามตนเอง เพราะจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวทางด้านการเมืองแล้ว และอยากจะฝากไปถึงแกนนำเสื้อแดงในแต่ละจังหวัด ให้ระวังตัวเองให้มาก เพราะรัฐบาลและศอฉ.(ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน) ยังตามจิกไม่เลิก และเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายซ้ำรอย" นางมยุรี กล่าว

กมธ.งบฯซัก"มหาดไทย"พาผู้ว่าฯทัวร์ต่างประเทศสุดแพง
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 มีนายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณางบประมาณของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 231,685,000,000 บาท โดยมีนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีในสังกัดมาชี้แจง ปรากฏว่า กมธ.จากพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้สอบถามกรณีการใช้งบฯไทยเข้มแข็ง 3.6 หมื่นล้านบาท ที่พบว่าการเบิกจ่ายมีความซ้ำซ้อน และไม่เป็นไปตามกำหนด รวมถึงโครงการพาผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด ไปเที่ยวต่างประเทศ ล่าสุดไปเกาหลีและญี่ปุ่น ใช้เงินหัวละ 180,000 บาท ซึ่งแพงมาก เพราะราคาทัวร์ทั่วไปไม่สูงขนาดนี้ รวมถึงการตั้งทีวีมหาดไทยแชนแนล ที่มีข่าวว่าหากออกอากาศเต็มรูปแบบจะมีออร์แกไนเซอร์ ออกหาค่าโฆษณา มีการติดตั้งจานดาวเทียมทั่วประเทศ

นายมานิตชี้แจงว่า การไปดูงานต่างประเทศ ต้องการ 3 เรื่อง คือ 1.ไปศึกษาการท่องเที่ยวของประเทศนั้นๆ 2.การลงทุน เรื่องอุตสาหกรรม และ 3.การแปรรูปทางการเกษตร ยืนยันว่าไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปดูงานเพื่อเปิดวิสัยทัศน์ การไปสเปน ก็ไปดูการท่องเที่ยวของที่นั่นเพราะแต่ละปีมีคนไปเที่ยวจำนวนมาก ได้ประโยชน์กลับมาเยอะแยะ ส่วนการไปญี่ปุ่น ไปดูโรงงานกำจัดน้ำเสีย สินค้าโอท็อป และโรงงานนิวเคลียร์ที่ชาวบ้านกับโรงงานอยู่ร่วมกันได้ การให้ผู้ว่าฯเห็นสิ่งใหม่ๆ ก็ควรจะลงทุนบ้าง ที่แพงก็เฉพาะค่าเครื่องบินเท่านั้น ส่วนอื่นไม่แพง

นายมานิตกล่าวว่า สำหรับทีวีมหาดไทยแชนแนลนั้น เพราะกระทรวงมีโครงการมากมายที่ต้องสื่อสารกับประชาชน ถ้าใช้สื่อรัฐเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เมื่อมีคลื่นสัญญาณดาวเทียมอยู่จึงปรับปรุงใช้ โดยมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 5 ล้านบาท และไม่มีโฆษณา

มือมืดปาประทัดยักษ์บ้านช่างติดตั้งจาน"เอเอสทีวี"เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชัชพล องค์ศิริพร สารวัตรเวร สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่หน้าบ้านเลขที่ 69 ถ.กองทราย ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่วิทยาการและรุดตรวจสอบ โดยมีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารค่ายกาวิละ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร่วมเข้าตรวจสอบ  ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่ห่างจากมณฑลทหารบกที่ 33 (ค่ายกาวิละ) ไม่เกินครึ่งกิโลเมตร เจ้าของบ้านคือ นายสงกรานต์ บริบูรณ์ อายุ 59 ปี ประกอบอาชีพรับติดตั้งจานดาวเทียมเอเอสทีวี หน้ามีบ้านมีจานรับสัญญาณดาวเทียมตั้งอยู่ 2 อัน แรงระเบิดส่งผลให้ต้นไม้หน้าบ้านเสียหาย กิ่งหักตกกระจายบนพื้น และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันรุ่นนาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ผน-9002 เชียงใหม่ของเพื่อนบ้านที่จอดอยู่ ได้รับความเสียหายฝากระบะหลังเป็นรอยรัศมี2-3 เซนติเมตรจากแรงระเบิดดังกล่าว

จากการสอบปากคำนายสงกรานต์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นอนอยู่บนบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวที่หน้าบ้าน จึงออกมาดูและพบร่องรอยความเสียหายดังกล่าวจึงรีบแจ้งตำรวจ

จากการสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น ระเบิดที่คนร้ายใช้ขว้างครั้งนี้เป็นประทัดยักษ์แบบทำเอง ซึ่งคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ขับขี่จักรยานยนต์ผ่านมาก่อเหตุ ซึ่งไม่ได้หวังผลให้มีผู้บาดเจ็บ อาจเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือผู้ไม่หวังดีที่ต้องการก่อเหตุป่วนเมืองเพื่อสร้างสถานการณ์ในช่วงที่เชียงใหม่ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

แกนนำแดงอยุธยากลับลำ ไม่พบดีเอสไอรอบ2อ้างติดภารกิจต่างจังหวัด

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยา กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เรียกตนให้เข้าชี้แจงการทำธุรกรรมทางการเงินรอบที่ 2 ในวันที่ 30 ก.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปชี้แจงแล้ว 1 ครั้ง ว่า จะไม่เดินทางไปพบดีเอสไออีก เนื่องติดภารกิจเร่งด่วนในต่างจังหวัด แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จะได้มอบหมายให้ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจไปชี้แจงการทำธุรกรรมทางการเงินแทน  

นางมยุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เอกสารที่จะมอบให้ทนายไปชี้แจงนั้นจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝาก และเอกสารการซื้อ-ขาย บ้านที่ จ.ภูเก็ต  ซึ่งครั้งนั้นได้เงินมาเกือบ 4 ล้านบาท  และได้มีการเบิกจ่ายเงินจริงเพื่อนำไปลงทุนทำบริษัทผลิตจานดาวเทียม และการเบิกเงินทุกอย่างของตนเองนั้นเป็นข้อเท็จจริงว่า เพราะมีการนำไปเป็นค่าใช้จ่ายให้กับคนงานในการผลิตจานดาวเทียม รวมถึงคนงานที่ตนเองเปิดร้านขายของเท่านั้น

จานดาวเทียม PSI ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1.5 ล้านเครื่อง พร้อมเปิดสาขาอีก 2 แห่ง รับตลาดดาวเทียมแข่งขันสูง
  นายสมพร ธีรโรจนพงษ์ ซีอีโอ บริษัท พีเอสไอโอลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียมรายใหญ่ในประเทศไทย เปิดเผยว่า  การแข่งขันธุรกิจจานดาวเทียมเพิ่มมากขึ้น  โดยปีนี้บริษัทได้เตรียมแผนการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้งการออกบูธ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า รวมทั้งพัฒนาเนื้อหาสาระ เพื่อเพิ่มช่องรายการมากขึ้น

  โดยล่าสุดได้จับมือกับไลฟ์ ทีวี (LIVE TV) เพิ่มเนื้อหาเข้าสู่ระบบช่องดาวเทียมจำนวน 5 ช่อง โดยต้องจ่ายเงินผ่านทางช่องทางที่กำหนด เช่น ชำระผ่านบัตรเติมเงิน โทรศัพท์ผ่านเว็บไวต์ ฯลฯ ซึ่งรวมกับช่องดูฟรีจะมีจำนวน 12 ช่อง ทั้งนี้ ช่องทีวีในระบบดาวเทียมโดยปกติจะมีทั้งหมดกว่า 100 ช่อง

  สำหรับตลาดลูกค้าหลักในปีนี้พบว่าในพื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง และกรุงเทพ พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงเทพ ยอดขายโตกว่า 200% ทั้งนี้ พบว่ายอดขายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาพบว่าภาคเหนือมียอดขายมากที่สุด แต่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาพบกว่าภาคอีสานมีความต้องการมาก 

"ขณะนี้กลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่อ.เมือง เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะจานดาวเทียมได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากโทรทัศน์มีการพัฒนาให้มีคุณภาพความคมชัดเพิ่มมากขึ้น การพัฒนาระบบรีซีเวอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และขนาดจานดาวเทียมที่เล็กลงเหลือขนาดเพียง 1.5 เมตร จากเดิมที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.20 เมตร การใช้เสาอากาศหรือหนวดกุ้งไม่สามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ ประกอบกับราคาจานดาวเทียมและค่าติดตั้งที่ถูกลงเหลือเพียง 2,000-2,500 บาท" นายสมพร กล่าว

  ส่วนในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถจำหน่ายจานดาวเทียมได้กว่า 1.5 ล้านเครื่อง จากปี 2552 ที่จำหน่ายได้จำนวน 1 ล้านเครื่อง และจะมีการขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 2 สาขา ในจังหวัดนครปฐม และนครสวรรค์ ปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 25 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 4 ภูมิภาค โดยในภาคเหนือจะมีสาขาทั้งหมด 4 สาขา คือ เชียงราย แพร่ แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่

อาดามัส เร่งเครื่องรายได้ครึ่งปีหลัง เล็งชิงจัดงาน 3 อีเวนท์ใหญ่ มูลค่ากว่า 100 ล้าน ดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 200 ล้านบาท หวังเห็นกำไรปีแรก นายรัฎ อักษรานุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาดามัส เวิลด์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้รายได้ของบริษัทต่ำกว่าเป้าหมาย จากการเลื่อนจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ของลูกค้า อย่างไรก็ตามพบว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน  ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเสนอตัวจัดงานอีเวนท์ระดับชาติ 3 งาน ด้านกีฬา การท่องเที่ยวและบันเทิง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปผลในเดือนก.ย. นี้  หากได้รับเลือกเป็นผู้จัดงาน จะส่งผลให้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง

   ล่าสุดได้เตรียมจัดงานด้านกีฬา ใช้ชื่อว่า Canon U-League 2010  เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จัดขึ้นระหว่างเดือนส.ค.2553 - ธ.ค.2553 ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท โดยปีนี้จะรวบรวมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยหลายลีกมารวมไว้ในงานนี้ รวมทั้งการประกวดกองเชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ วงดนตรี ซึ่งปีนี้จะถ่ายทอดสดทางช่อง 9 ช่องโมเดิร์นไนน์ และจะเปิดให้มีการโหวตเป็นปีแรก

   สำหรับแผนการตลาดในโครงการแคนนอน ยูลีก ปีนี้ วางแผนสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร อาทิ สื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร สื่อออนไลน์ สื่อกลางแจ้ง และกิจกรรมโรดโชว์ไปยัง 32 มหาวิทยาลัยใน 4 ภูมิภาคของประเทศไทย เริ่มเดือนส.ค.นี้

   นายรัฎ กล่าวว่า สำหรับรายได้หลักของอาดามัส เวิลด์ จะมาจากช่องกีฬา ที-สปอร์ต แชนแนล 50% การจัดอีเวนท์ คอนเสิร์ต 50% ปีนี้รายได้ช่องที-สปอร์ตเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายช่องทางการรับชมทั้งระบบจานดาวเทียมซี แบนด์, เคยู แบนด์ ทรูวิชั่นส์และเคเบิลทีวีทั่วประเทศ คาดว่าปีนี้ช่องที-สปอร์ต จะมีกำไรเป็นปีแรก

   ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ปีนี้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 200 ล้านบาท ขณะที่จะมีกำไรเป็นปีแรก ประมาณ 60-70 ล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทวางแผนขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง  คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

ไทยคิดไทยคมมอบจานดาวเทียมดีทีวี 14 โรงเรียน จังหวัดนครนายก โครงการ เพื่อลดช่องว่างการศึกษา พัฒนาศักยภาพเด็กไทยแบบยั่งยืน  บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดย ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. ไทยคม จำกัด ส่งมอบจานเหลืองดีทีวีให้แก่คุณศศิธร วงษ์เมตตา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครนายก ณ โรงเรียนวัดบางหอย ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จังหวัด นครนายก
   โครงการไทยคิดไทยคมมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและลดช่องว่างในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนในชนบท โดยใช้ประโยชน์จากช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ข้อมูลทางการศึกษา เปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองให้ทัดเทียมกับเยาวชนในพื้นที่เขตเมือง โดยภายในปี 2554โครงการฯ มั่นใจว่าจะสามารถมอบจานจำนวน 999 ชุดให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้มอบชุดจานเหลืองดีทีวีและเครื่องรับโทรทัศน์ให้ 14 โรงเรียนในจังหวัดนครนายก ได้แก่

1. โรงเรียนวัดบางหอย
2. โรงเรียนวันครู 2504
3. โรงเรียนบ้านลาดช้าง
4. โรงเรียนวัดอัมพวัน
5. โรงเรียนวัดโคกสว่าง
6. โรงเรียนวัดกุฎีเตี้ย
7. โรงเรียนปากคลองพระอาจารย์
8. โรงเรียนชลนายกสงเคราะห์
9. โรงเรียนวัดใหม่พงษ์โสภณ
10. โรงเรียนวัดโพธิ์
11. โรงเรียนวัดอรุณรังษี
12. โรงเรียนบ้านคลอง 30
13. โรงเรียนบ้านคลอง 23
14. โรงเรียนบ้านหนองทองทราย

Gossip News: อรพรรณ มนต์พิชิต แห่งค่ายโรส มีเดียฯ
โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้น  งานกำลังไปได้ดี แว่วว่าตอนนี้นอกจากรายการแก๊งการ์ตูน ทางช่อง 5 และ ช่องแก๊งการ์ตูน ทางจานดาวเทียมระบบ C-Brand และเคเบิลทีวี เรตติ้งดีวันดีคืน สปอนเซอร์วิ่งเข้าหากันเพียบแล้ว ผู้บริหารคนเก่ง โรส อรพรรณ มนต์พิชิต แห่งค่ายโรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็กำลังซุ่มเงียบสร้างช่องรายการใหม่ เตรียมส่งบุกตลาดเคเบิลทีวี งานนี้ไม่รู้รูปแบบรายการใหม่เป็นอย่างไร เจ้าตัวขออุบเงียบ บอกแต่ว่าจะสร้างเรตติ้งและเม็ดเงินโฆษณาให้ค่ายโรส มีเดียฯ ได้อย่างแน่นอน!

ข่าว ณ.Friday, 16 July 2010 03:51 -- บันเทิง กรุงเทพฯ

ข่าวจานดาวเทียม
คมชัดลึก : เวลาที่นักวิชาการสื่อสารมวลชนเขียนบทความเกี่ยวกับ "สื่อสารการเมือง" มักจะพูดถึง "สื่อใหม่" เฉพาะอินเทอร์เน็ต แต่น้อยคนที่จะรู้จักภาพรวม "ทีวีดาวเทียม" หรือรู้เฉพาะช่อง "เอเอสทีวี" และ "ดี สเตชั่น"    แม้แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ กว่าจะตั้งหลักทำ "สงครามสื่อสารการเมือง" เวลาก็ล่วงผ่านนานกว่า 6 เดือน เมื่อ "เสี่ยตาล" สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงมือปรับผังรายการทอล์กหลังข่าวภาคค่ำ ช่อง 11 ซึ่งมีรายการอะไรบ้าง ก็คงได้ชมกันไปบ้างแล้วละมั้ง?  พูดก็พูดเถอะ มันคงช่วยรัฐบาลไม่ได้มากนักหรอก เนื่องจากพฤติกรรมการดูทีวีของชาวบ้านร้านตลาดเปลี่ยนไปเร็วมาก ดั่งที่เขียนถึงเรื่อง "สงครามความเชื่อ" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว    ยิ่งตลาด "จานดาวเทียม" โตมากขึ้นเท่าใด ความนิยมในการชมช่องรายการ 3,5,7,9 หรือ "ฟรีทีวี" ก็จะลดลงเรื่อยๆ

อย่างในปัจจุบัน มีผู้ที่ติดตั้งจานดาวเทียมระบบ C-Band ประมาณ 3 ล้านจาน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 ล้านจานในปีนี้ (ไม่นับรวมจานดาวเทียม KU-Band ที่ผลิตโดย TRUE VISION , DTV , IPM , SAMART DTH )

ผู้นำตลาดจานดาวเทียม C-Band (จานโปร่ง) คือ ค่ายพีเอสไอ (จานดำ) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% รองลงไปก็เป็นค่ายเอทีเอ็ม และค่ายไดน่าแซท

ส่วนจานดาวเทียม KU-Band (จานทึบ) มีหลายค่าย อาทิ จานแดงของทรูวิชั่นส์ และจานเหลืองของดีทีวี
แต่วันนี้ที่มาแรงคือ ค่ายไอพีเอ็ม หรือ จานส้ม!

เล่าลือกันว่า จานส้มเป็นตัวป่วนวงการคนขายจาน และรวมไปถึงพวกเคเบิลบ้านนอก
นอกจากราคาถูก รับชมได้มากกว่า 40 ช่อง(รวมฟรีทีวี) จานส้มยังมีระบบปรับช่องรายการ OTA (Over the Air Upgrading) และเครื่องรีซีฟเวอร์นั้นก็สามารถ รองรับได้ทั้ง 2 ระบบคือ C-Band และ KU-band

สมมติว่า คนรากหญ้าอยู่บ้านดงบัง (ไม่มี "ชิงกิ" ต่อท้าย) อยากดู "พีเพิลทีวี" ที่รับสัญญาณจานดาวเทียม KU-Band แถมรายการ "เพื่อนผองน้องพี่" , "ที่นี่เอ็มวี 5" และ "เพื่อประชาธิปไตย" ทางเอ็มทีวี ที่รับสัญญาณจานดาวเทียม C-Band ซื้อจานส้มเพียงจานเดียวก็คุ้มเกินคุ้ม

ที่ว่ามันกระทบเคเบิลบ้านนอก ก็เพราะจานดาวเทียมน่ะซื้อขาด ไม่ต้องจ่ายรายเดือน ด้วยเหตุนี้แหละที่พวกเคเบิลเรียกร้องให้แกรมมี่ผลิตรายการเฉพาะทีวีเสียเงินรายเดือ
น

เพราะขืนเล่นฟรีทูแอร์แบบนี้ ผู้ที่ได้เปรียบก็คือ พวกขายจานทีวีเสียเงินครั้งเดียวดูได้ตลอดชาติ!

เขียนมาเสียยาวยืดก็เพื่อจะบอกว่า การพัฒนาเทคโนโลยีได้ก้าวมาถึงจุดที่ไม่มีพรมแดนของชนชั้น เมื่อคนรากหญ้าสามารถเข้าถึง "สื่อใหม่" ที่ราคาถูกแสนถูก ทำนองเดียวกันกับการเกิดขึ้นของ "วิทยุชมชน" ที่ผุดขึ้นยิ่งกว่าหน่อไผ่ในป่าฝน

เครื่องมือสื่อสารอย่างวิทยุและทีวี ก็มิได้ผูกขาดอยู่ในมือของผู้มีอำนาจรัฐอีกต่อไป !

ข่าวจาก....http://www.k« เมื่อ: วันนี้ เวลา 03:39:21 pm »

หนังสือ Satellite Guide ฉบับที่ 4 สิงหาคม 2553 พร้อมวางแผงแล้วทั่วประเทศ 
ข่าวทั่วไป ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2553 10:55:44 น.
กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--
นิตยสาร แซทเทลไลท์ ไกด์   Satellite Guide นิตยสารโทรทัศน์ดาวเทียมฉบับแรกของเมืองไทย ฉบับที่ 4 เดือนสิงหาคม 2553 พร้อมวางแผงแล้วทั่วประเทศ ติดตามได้จากร้านนายอินทร์ ดอกหญ้า บีทูเอส และทุกแผงหนังสือทั่วไทย  สกู๊ปเด่นประจำเดือน แนะนำ มงคลแชนแนล ช่องหนังไทยใจดี แจกล้าน แนะนำ จานดาวเทียม ATM เรารักในหลวง AutoSat 3 จานดาวเทียมติดรถยนต์รุ่นล่าสุดในตลาด ระบบ PPV (Pay-Per-View ของเครื่องรับสัญญาณ O2 ติดตั้งจานดาวเทียมด้วยตัวคุณเอง ในงบประมาณไม่เกิน 2,500 บาท จานดำจะปรับตัวอย่างไร พบคำตอบได้ในงานสัมมนา PSI ตอบปัญหาจานดาวเทียม จากทีมงาน SATANSWER 53 ผังรายการชั้นนำประจำดือนสิงหาคม

รวมชุดจานดาวเทียมยอดนิยม รายชื่อศูนย์บริการ ร้านติดตั้งทั่วประเทศ พิเศษ ลุ้นรับ ชุดจานดาวเทียม ATM พร้อมติดตั้งฟรี

ภาพข่าว: ไลฟ์ ทีวี จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “จานดำจะปรับตัวอย่างไร? ”
กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--ไลฟ์ ทีวี...ข่าวบันเทิง ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2553 10:24:10 น.

ไลฟ์ ทีวี ผู้นำและผู้บุกเบิกธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ให้กับเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในประเทศไทย ได้ขยายธุรกิจ LIVE TV. PLUS (ไลฟ์ ทีวี พลัส) เพื่อก้าวสู่ธุรกิจ Multi Platform อย่างเต็มตัว โดยจับมือกับ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด (PSI Holding) ผู้ผลิตจำหน่ายจานดาวเทียม และเมื่อเร็วๆ นี้ทาง บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “จานดำจะปรับตัวอย่างไร? ” โดยเชิญ คุณเกียรติศักดิ์ วังประเสริฐกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์ ณ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ซ.รามคำแหง 159

จากซ้าย อ.สมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทพีเอสไอ โฮลดิ้งจำกัด,คุณเกียรติศักดิ์ วังประเสริฐกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด, คุณวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัทพีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด)

จานPSIเดินเกมรุกเปิดสาขาอีก2แห่งเพิ่ม5ช่องดาวเทียมรับมือตลาดแข่งดุ  นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอโฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียมรายใหญ่ในไทย กล่าวว่า ปีนี้การแข่งขันในธุรกิจจานดาวเทียมเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงต้องเตรียมแผนการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้งการออกบูธ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า รวมทั้งพัฒนาเนื้อหาสาระ เพื่อเพิ่มช่องรายการมากขึ้น โดยล่าสุดได้จับมือกับไลฟ์ ทีวี(LIVE TV) เพิ่มเนื้อหาเข้าสู่ระบบช่องดาวเทียม 5 ช่อง ซึ่งต้องจ่ายเงินผ่านทางช่องทางที่กำหนด เช่น ชำระผ่านบัตรเติมเงินโทรศัพท์ และผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น เมื่อรวมกับช่องดูฟรีจะมี 12 ช่อง  สำหรับตลาดลูกค้าหลักในปีนี้ พบว่า พื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง และ กทม. มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน กทม. ยอดขายโตกว่าปีก่อน 200% และช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่ อ.เมือง เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะจานดาวเทียมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากโทรทัศน์มีการพัฒนาให้มีคุณภาพความคมชัดเพิ่มขึ้น และขนาดจานดาวเทียมที่เล็กลงเหลือขนาดเพียง 1.5 เมตร จากเดิมที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.20 เมตร การใช้เสาอากาศหรือหนวดกุ้งไม่สามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ ประกอบกับราคาจานดาวเทียมและค่าติดตั้งถูกลงเหลือเพียง 2,000-2,500 บาท

"ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถจำหน่ายจานดาวเทียมได้กว่า 1.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จำหน่ายได้ 1 ล้านเครื่อง และบริษัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งใน จ.นครปฐม และนครสวรรค์ จากปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 25 แห่งทั่วประเทศ" นายสมพร กล่าว

KTBL ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เสริมทัพสินค้าอุปโภค
เคทีบี ลีสซิ่ง ได้ขยายไลน์สินค้า ในประเภทสินค้าอุปโภค โดยนำสินค้า กล้องวงจรปิด จานดาวเทียมไอพีเอ็ม เข้ามาให้บริการ เพื่อเป็นการกระตุ้น และรองรับความต้องการขอกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น

นายณัฐศักดิ์ นพประไพ ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจเช่าซื้อสินค้าอุปโภค บริษัท เคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยช่วงภาวะเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ทาง เคทีบี ลีสซิ่ง ต้องเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้า จึงทำการขยายไลน์สินค้าใหม่ ด้วยการนำสินค้าใหม่มาให้บริการ อาทิเช่น กล้องวงจรปิด จานดำไอพีเอ็ม พร้อมด้วยการจัดโปรแกรมรพิเศษ ผ่อนสบายกับดอกเบี้ย 0 % เพื่อเป็นการกระตุ้นความต้องการของลูกค้า ซึ่งในอนาคตเรามีการวางแผนในการขยายไลน์สินค้าอื่นๆ อีกด้วย

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 19 กรกฎาคม 2553 12:47:35 น.....กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--เคทีบี ลีสซิ่ง

OK LOVE เงินเหลือ แจกรางวัลคนฟัง
ข่าวบันเทิง ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2553 16:54:18 น.
กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--เจนเอ็กซ์ อะคาเดมี่
ปุ๋ย โชคชัย เจี่ยเจริญ บิ๊กบอส OK Loveมีกิจกรรมดีๆมาให้ชาว OK LOVE ทั่วประเทศได้ตื่นเต้นกันอีกแล้ว กับกิจกรรม ”ได้รู้จักฉัน ได้รู้จักเธอ” ไม่ว่าคุณจะรับฟังผ่านช่องทางไหน คุณจะได้รู้จักกันแน่นอน

โดยจะให้คนฟังที่ฟังผ่านทาง INTERNET หรือ จานดาวเทียมซีแบนด์และคนฟังที่ฟังผ่านวิทยุ FM มาทำความรู้จัก โดยการเล่นเกม ผ่านโทรศัพท์ 2 สาย โดยคนที่รับฟังทาง Internet หรือ จานดาวเทียมซีแบนด์ ให้พิมพ์ IT เว้นวรรคตามด้วยชื่อและจังหวัด ส่ง SMS มาที่ 4221778 ส่วนคนที่รับฟังผ่านวิทยุ FM พิมพ์ FM เว้นวรรค ตามด้วยชื่อและจังหวัด ส่ง SMS มาที่ 4221778 เช่นกัน แล้วระบบจะสุ่มหาผู้โชคดี 2 สาย ทั้ง IT และ FM มาประชันกับโจทย์ทายใจ ทายประวัติของทั้งสองฝ่าย ใครทายได้ถูกต้อง รับของรางวัลไปเลย

OK LOVE เงินเหลือ แจกรางวัลคนฟัง
ข่าวบันเทิง ThaiPR.net -- อังคารที่ 11 พฤษภาคม 2553 16:51:21 น.
กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--เรดิโอ โอเค
ปุ๋ย โชคชัย เจี่ยเจริญ บิ๊กบอส OK Loveมีกิจกรรมดีๆมาให้ชาว OK LOVE ทั่วประเทศได้ตื่นเต้นกันอีกแล้ว กับกิจกรรม ”ได้รู้จักฉัน ได้รู้จักเธอ” ไม่ว่าคุณจะรับฟังผ่านช่องทางไหน คุณจะได้รู้จักกันแน่นอน

โดยจะให้คนฟังที่ฟังผ่านทาง INTERNET หรือ จานดาวเทียมซีแบนด์และคนฟังที่ฟังผ่านวิทยุ FM มาทำความรู้จัก โดยการเล่นเกม ผ่านโทรศัพท์ 2 สาย โดยคนที่รับฟังทาง Internet หรือ จานดาวเทียมซีแบนด์ ให้พิมพ์ IT เว้นวรรคตามด้วยชื่อและจังหวัด ส่ง SMS มาที่ 4221778 ส่วนคนที่รับฟังผ่านวิทยุ FM พิมพ์ FM เว้นวรรค ตามด้วยชื่อและจังหวัด ส่ง SMS มาที่ 4221778 เช่นกัน แล้วระบบจะสุ่มหาผู้โชคดี 2 สาย ทั้ง IT และ FM มาประชันกับโจทย์ทายใจ ทายประวัติของทั้งสองฝ่าย ใครทายได้ถูกต้อง รับของรางวัลไปเลย

แล้วมาเล่นด้วยกันที่คลื่น OK LOVE ทุกช่วงพรีเซ็นเตอร์ ผ่านทางสถานีวิทยุ FM ทั่วประเทศ ทางดาวเทียมระบบ C-Band และทางอินเตอร์เน็ตที่ www.radiook.co.th

อาดามัส เร่งเครื่องรายได้ครึ่งปีหลัง เล็งชิงจัดงาน 3 อีเวนท์ใหญ่ มูลค่ากว่า 100 ล้าน ดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 200 ล้านบาท หวังเห็นกำไรปีแรก นายรัฎ อักษรานุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาดามัส เวิลด์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้รายได้ของบริษัทต่ำกว่าเป้าหมาย จากการเลื่อนจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ของลูกค้า อย่างไรก็ตามพบว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน  ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเสนอตัวจัดงานอีเวนท์ระดับชาติ 3 งาน ด้านกีฬา การท่องเที่ยวและบันเทิง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปผลในเดือนก.ย. นี้  หากได้รับเลือกเป็นผู้จัดงาน จะส่งผลให้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง

ล่าสุดได้เตรียมจัดงานด้านกีฬา ใช้ชื่อว่า Canon U-League 2010  เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จัดขึ้นระหว่างเดือนส.ค.2553 - ธ.ค.2553 ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท โดยปีนี้จะรวบรวมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยหลายลีกมารวมไว้ในงานนี้ รวมทั้งการประกวดกองเชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ วงดนตรี ซึ่งปีนี้จะถ่ายทอดสดทางช่อง 9 ช่องโมเดิร์นไนน์ และจะเปิดให้มีการโหวตเป็นปีแรก

สำหรับแผนการตลาดในโครงการแคนนอน ยูลีก ปีนี้ วางแผนสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร อาทิ สื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร สื่อออนไลน์ สื่อกลางแจ้ง และกิจกรรมโรดโชว์ไปยัง 32 มหาวิทยาลัยใน 4 ภูมิภาคของประเทศไทย เริ่มเดือนส.ค.นี้

นายรัฎ กล่าวว่า สำหรับรายได้หลักของอาดามัส เวิลด์ จะมาจากช่องกีฬา ที-สปอร์ต แชนแนล 50% การจัดอีเวนท์ คอนเสิร์ต 50% ปีนี้รายได้ช่องที-สปอร์ตเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายช่องทางการรับชมทั้งระบบจานดาวเทียมซี แบนด์, เคยู แบนด์ ทรูวิชั่นส์และเคเบิลทีวีทั่วประเทศ คาดว่าปีนี้ช่องที-สปอร์ต จะมีกำไรเป็นปีแรก

ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ปีนี้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 200 ล้านบาท ขณะที่จะมีกำไรเป็นปีแรก ประมาณ 60-70 ล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทวางแผนขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง  คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

พีเอสไอ รุกเพย์ทีวีเสริมรายได้จานดำ ข่าววันที่ 14 สิงหาคม 2553 10:03   พีเอสไอ ปั้นธุรกิจใหม่เสริมรายได้จานดำ จับมือ "ไลฟ์ทีวี" เปิดบริการ"เพย์ ทีวี"แพ็คเกจแรก 5 ช่อง 199บาทต่อเดือน ชูทางเลือกช่องกีฬาราคาประหยัด

   นายวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ กรรมการบริหารการตลาด บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตจำหน่ายและติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียมระบบซีแบนด์ PSI เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจานดำพีเอสไอ รุ่นใหม่และกล่องรับสัญญาณ (Set  Top Box) โอทู (O2) ซึ่งสามารถล็อกรหัสสัญญาณช่องรายการได้ กว่า 1.2 ล้านชุด โดยชุดอุปกรณ์รุ่นโอทู ได้รับความนิยมอย่างมาก ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ผ่านมา เพราะเป็นจานดำรุ่นเดียว ที่สามารถรับชมการแข่งขันได้

   จากเทคโนโลยีล็อกสัญญาณจานดำพีเอสไอ บริษัทได้เริ่มพัฒนาธุรกิจใหม่ในรูปแบบเพย์ ทีวี (Pay TV) เรียกเก็บบริการรับชมช่องรายการรายเดือน โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทไลฟ์ ทีวี จำกัด  ผู้ให้บริการช่องรายการทางเคเบิลทีวีและจานรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อให้บริการแพ็คเกจ ไลฟ์ พลัส ทีวี  5 ช่องรายการทางจานดำพีเอสไอ รุ่นโอทู คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีจำนวนกว่า 2 ล้านจาน ปัจจุบันมียอดขายจานรุ่นโอทูและกล่องรุ่นโอทู ที่สามารถนำไปเปลี่ยนแทนกล่องรับสัญญาณรุ่นเก่าได้ ประมาณ 2 แสนกล่องต่อเดือน

   "บริการเพย์ ทีวี จะเป็นอีกช่องทางการหารายได้ของผู้ประกอบการจานดาวเทียม จากเดิมหลังการขายจานดาวเทียมและติดตั้งแล้ว จะไม่มีโอกาสหารายได้อื่นๆ ได้อีก หากบริการเพย์ ทีวี ได้รับความนิยม จะสร้างรายได้ต่อเนื่องให้บริษัท" นายวรสิทธิ์กล่าว     

   ด้านนายเกียรติศักดิ์ วังประเสริฐกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดจานรับสัญญาณดาวเทียมระบบซีแบนด์ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีประมาณ 3 ล้านจานทั่วประเทศ ขณะที่จานระบบเคยูแบนด์ มีจำนวน 1 ล้านจาน บริษัทจึงร่วมเป็นพันธมิตรกับพีเอสไอ เพื่อพัฒนาตัวแพลตฟอร์มใหม่ในชื่อ "ไลฟ์ ทีวี พลัส" การออกอากาศ  5 ช่องรายการของไลฟ์ ทีวี คือ ฟุตบอล พลัส  สปอร์ต พลัส  เอิร์ธ เอเชียน ฟู้ด แชนแนล และเบบี้ ทีวี แบบล็อกสัญญาณเฉพาะจานดำพีเอสไอ รุ่นโอทู เก็บค่าสมาชิกรายเดือนๆ ละ 199 บาท เริ่มให้บริการต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายสมาชิกสิ้นปีประมาณ 5 หมื่นราย

   ช่องรายการที่โดดเด่นของไลฟ์ พลัส ทีวี คือ ช่องฟุตบอล พลัส นำเสนอฟุตบอลลีกระดับโลก  เช่น ลีกเอิง ฝรั่งเศส เจลีก ของญี่ปุ่น โคปา เดล เรย์ ฟุตบอลถ้วยสเปน การถ่ายทอดสดรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2012 เป็นต้น เพื่อเป็นอีกทางเลือกการรับชมฟุตบอลลีกดังจากต่างประเทศในราคาประหยัด   

   ปัจจุบันไลฟ์ ทีวี เป็นคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ ที่มีจำนวนช่องรายการมากที่สุดจำนวน 11 ช่อง ออกอากาศในแพลตฟอร์ม เคเบิลทีวีท้องถิ่น และไลฟ์ พลัส ทีวี 5 ช่องรายการ มีรายได้จากการเก็บค่าสมาชิกและโฆษณา และแพลตฟอร์ม ฟรี ทู แอร์  ระบบซีแบนด์ อีก 6 ช่อง มีรายได้จากโฆษณา ในปี 2552  มีสัดส่วนรายได้จากโฆษณา 75% ส่วนปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 85% เนื่องจากเอเยนซีและสินค้าให้ความสนใจช่องทางเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมมากขึ้น

   "เป้าหมายของบริษัทต้องการเป็นธุรกิจ Multi Platform นำช่องคอนเทนท์ไปออกอากาศในทุกช่องทาง โดยกำลังศึกษาระบบเคยูแบนด์ แบบล็อกสัญญาณเก็บค่าสมาชิก และช่องทางนิวมีเดีย ใหม่ๆ โดยเฉพาะบรอดแบนด์ทีวี" นายเกียรติศักดิ์กล่าว

   ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ถึงไตรมาสแรกปี 2554 บริษัทมีแผนจะลงทุนช่องรายการใหม่อีก 3-5 ช่อง  คาดใช้งบประมาณรวม 50 ล้านบาท ทั้งการลงทุนผลิตรายการเองและซื้อลิขสิทธิ์ คอนเทนท์ รายการจากต่างประเทศ โดยต้องการเป็นผู้นำคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ เจ้าของช่องรายการมากที่สุดในประเทศไทย

เนชั่น ผนึกพันธมิตรผลิตรายการป้อนคอนโด 3 หมื่นยูนิต 4 ยักษ์ใหญ่คอนเทนต์ ผนึกกำลังค่ายอสังหาฯ ส่ง 10 ช่องรายการเข้าคอนโด 30,000 ยูนิต หวังขยายฐานผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1.2 แสนคน

นายอดิศักดิ์  ลิมปรุ่งพัฒนกิจ  กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า  ในอนาคตทีวีดาวเทียมจะมีการเติบโตสูงมาก และไม่แตกต่างกับฟรีทีวีทั่วๆ ไป ทำให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ส่วนใหญ่ต่างเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจอีกมาก และในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตคอนเทนต์หันมาจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับผู้นำเทคโนโลยีและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
 

โดยจะเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับผู้บริโภค สามารถเลือกบริโภคข่าวสารสาระบันเทิงที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่เปลี่ยนไป โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยผ่านเครื่องรับที่เรียกว่า M10

 “เราต้องการขยายฐานคนดูให้มากขึ้นจึงคิดโปรเจคนี้ขึ้นมา เพราะมองว่าทีวีดาวเทียมในอนาคตจะเติบโตไม่แตกต่างจากฟรีทีวี โดยคาดว่าปีๆ นึ่งทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีจะโตได้อีกมากจากกลุ่มคนในเมือง ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการติดตั้งจานดาวเทียม เนื่องจากเครื่อง M10 สามารถที่จะไปติดตั้งร่วมกับระบบเดิมที่มีอยู่ได้เลย”

อย่างไรก็ตาม โปรเจคนี้การนำร่อง 100 โครงการร่วมกับพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วย 4 ค่ายอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ พฤกษา แสนสิริ  แอลพีเอ็น และศุภาลัยในโครงการที่เรียกว่า BIG PACK Instant  Chanel Package for Urban  Lifestyle  ส่งทีวีดาวเทียมเข้าคอนโด 30,000 ยูนิตใน 100 อาคารทั่วกรุงเทพ เชื่อว่าจะเพิ่มผู้ชมได้ไม่น้อยกว่า 1.2 แสนคนโดยเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยให้เนชั่นทีวีขยายฐานคนดูได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ  5% จาก 2%  นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะทำให้ตัว Media Spending เติบโตถึง 10% ในปีนี้จากทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ทีจะได้รับความนิยมมากขึ้น

ด้าน นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า   โครงการนี้ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเรียกว่า M10 ที่ส่งตรง 10 ช่องทีวีดาวเทียมเข้าสู่คอนโดใน 100 อาคารทั่วกรุงเทพฯ

โดยหลังจากนี้ต่อไปอีกประมาณ 2 เดือนจะมีการประเมินถึงผลที่ได้รับจากโครงการนี้  อาจจะมีการประเมินเพื่อขยายโครงการนี้ต่อไปอีก ซึ่งทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีนับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ  และยิ่งจะมีเทคโนโลยี 3G เข้ามาจะช่วยทำให้การบริโภคหรือ หรือการเลือกช่องทางในการบริโภคข่าวสารทำได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น  และค่าใช้จ่ายถูกลงแต่ได้เทคโนโลยีที่ดีมากขึ้น

เห็นได้จากตลาดบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นระบบ Direct to home  ซึ่งเป็นระบบจานดาวเทียม หรือเรียกว่าจานดำที่โตอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยเดือนละ 100,000 จานดาวเทียม หรือ เพิ่มขึ้นราวๆ 20% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อเดือน จากปีก่อนที่ประมาณ  200 ล้านบาท

ขณะที่ระบบอื่นๆ เช่น บล๊อก แบบ M14 ซึ่งเป็นโปรเจคตั้งแต่ปี 2549 มีทั้งสิ้น 20,000 โครงการ ยังมีสัดส่วนการเติบโตที่น้อยกว่าแต่ก็มีการเติบโตต่อเนื่อง และประเมินว่าทั้งปี บริษัทจะมียอดขายรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นรายได้จาก จานดาวเทียม 80% หรือ  1.3-1.5 ล้านบาท และเชื่อว่าจะมีการติดตั้งจานดาวเทียมปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 7.5 ล้านจานดาวเทียมจาก 6 ล้านจานดาวเทียมแน่นอน

โดยในเร็วๆ นี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ เรียกว่า Live TV หรือทีวีเติมเงิน ทำให้ผู้ชมสามารถเลือกชมช่องพิเศษเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากช่องปกติที่ได้รับชมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทมีการประเมินว่าตลาดโครงการมีขนาดใหญ่มาก เฉพาะในกทม.เองก้มีอาคารมากถึง 7 แสนอาคาร โดยในอนาคตมีแผนที่ขยายเทคโนโลยีนี้ไปยังกลุ่มที่เป็นอพาร์ทเม้นและโรงแรมเพิ่มขึ้น

“สำหรับโครงการใหม่ที่ไม่รวมกับโปรเจคที่ร่วมกันทำกับพันธมิตรแล้ว จะสียค่าติดตั้งเครื่องนี้เพียง 50,000 บาทเท่านั้น แต่สามารถชมรายการต่างๆ ได้ เหมือนกันทั้ง 100 ห้อง หรือ 200 ห้อง ซึ่งบริษัทสามารถใส่โปรแกรมช่องรายการคอนเทนต์ต่างๆ ลงไปได้มากกว่า 10 ช่องรายการเช่นในขณะนี้อาจจะเป็น 20-30 ช่องก็ได้”
10 ช่องรายการประกอบด้วย Fan TV, Bang Chanel ,Green Chanel  และ ATCS Chanel จากแกรมมี่ Mango TV และ Nation Chanel จาก  NBC  และ Miracle Chanel และ M Chanel  จากกันตนา  Gang Cartoon Chanel และช่องคนรุ่นเรา จากโรส มีเดีย

Tags : ทีวีดาวเทียม • เอ็นบีซี

เอ็นบีซีจับมือวีจีไอส่ง2ช่องลงจอบีทีเอส

"เอ็นบีซี" เดินหน้าขยายฐานผู้ชมกลุ่มคนเมือง ช่องเนชั่น แชนแนล-แมงโก้ ทีวี ร่วมพันธมิตร "วีจีไอ" ส่งข่าวลงจอแอลซีดีสถานีและในรถไฟฟ้าบีทีเอฟ
ธนาคารธนชาตให้คุณร่วม
สัมผัสการแสดงวอล์กกิ้งวิธไดโนเสาร์ พร้อมรับส่วนลด15%และของสมนาคุณพิเศษ
ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC  เปิดเผยว่าบริษัทได้ร่วมกับบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้บริหารสื่อบนสถานีและในรถไฟฟ้าบีทีเอส และ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำข่าวทั่วไปจากช่อง "เนชั่น แชนแนล" และข่าวบันเทิง ศิลปวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ จากช่อง "แมงโก้ ทีวี" เพื่อออกอากาศผ่านจอแอลซีดีบนสถานี และในขบวนรถไฟฟ้า บีทีเอส เพื่อให้ผู้โดยสารบนรถไฟฟ้าบีทีเอสได้รับข้อมูลข่าวสาร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับเดินทาง เริ่มรับชมได้ตั้งแต่วันที่  6 ก.ย. นี้

 ทั้งนี้ ทั้งสองช่องทีวีดาวเทียม จะออกอากาศเป็นช่วงๆ ในรูปแบบข่าวสั้นความยาวข่าวละ 45 วินาที หมุนเวียนตลอดการให้บริการของรถไฟฟ้าบีทีเอสตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น. ทุกวัน  เฉลี่ยนำเสนอข่าววันละ 150 ข่าว สลับกับโฆษณาผ่านจอแอลซีดีของบีทีเอส 

 "ข่าวสารต่างๆ ที่นำเสนอจากทั้ง เนชั่น แชนแนล  และ แมงโก้ทีวี สามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์คนเมือง และมีกำลังซื้อตั้งแต่ระดับปานกลางถึงสูง เฉลี่ยวันละประมาณ  4.7 แสนคน" นายอดิศักดิ์ กล่าว

 สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนการขยายช่องทางการรับชม ของ เนชั่น แชนแนล สถานีข่าว 24 ชั่วโมง และ แมงโก้ทีวี  ทีวีสายพันธุ์ใหม่ สมาร์ทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และไลฟ์สไตล์ แชนแนล  ที่ขณะนี้สามารถรับชมได้ ทั้งผ่านระบบจานดาวเทียม C-Band และ KU-Band ระบบ เคเบิลทีวี และ อินเทอร์เน็ต ตลอดจนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

 นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างการรับรู้ และตอกย้ำแบรนด์ เนชั่น แชนแนล และ แมงโก้ ทีวี ในกลุ่มคนเมืองที่ใช้บริการรถไฟฟ้า ให้มีโอกาสขยายฐานผู้ชมมากขึ้น  หลังจากเปิดตัวโครงการ Big Pack ร่วมกับจานดำพีเอสไอ และพันธมิตรคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ นำ 10 ช่องทีวีดาวเทียมไปติดตั้งในคอนโดมิเนียม 100 อาคาร หรือประมาณ 3 หมื่นยูนิต ในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 4 ราย คือ พฤกษา,แอลพีเอ็น, แสนสิริ และ ศุภาลัย  เพื่อขยายฐานผู้ชมคนรุ่นใหม่ในกลุ่มเมือง ซึ่งทำให้มีฐานผู้ชมเพิ่มประมาณ 1.2 แสนคน

 ด้าน นายมารุต อรรถไกรวัลวที ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวว่าด้วยรูปแบบการดำรงชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้คนเมืองมีเวลาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านน้อยลง  ขณะที่มีความต้องการได้รับข้อมูลข่าวสาร ให้ทันต่อสถานการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างครบถ้วนมากขึ้น ทางบริษัทฯ และเอ็นบีซี จึงร่วมมือกันนำเสนอข่าวสารประจำวัน ผ่านจอแอลซีดีบนสถานีและในขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตคนเมืองทั้งการเดินทางและการรับข้อมูลข่าวสาร

วิจัยชี้คนอีสานรายได้ลด เคเบิล-มือถือเพิ่ม

"แมคแคน" วิจัยคนชนบทอีสาน พบรายได้ลด เน้นซื้อสินค้าไซส์เล็กจากร้านค้าใกล้บ้าน บริโภคฟรีทีวี-เคเบิลท้องถิ่น-ฟังวิทยุชุมชน ชอบคอนเทนท์บันเทิง

โดยพบว่าอาชีพหลักยังอยู่ในภาคเกษตรกรรม กลุ่มสูงอายุทำนา, ทอผ้า, สินค้าหัตถกรรม ส่วนกลุ่มวัยรุ่นทำงานโรงงาน ส่วนใหญ่รายได้ไม่คงที่ ยังคงจัดอยู่ในกลุ่ม “หาเช้ากินค่ำ”

รูปแบบการซื้อสินค้าเน้นบรรจุภัณฑ์เล็กที่สุด หรือแบบซอง และไม่ตุนสินค้าเพราะไม่ต้องการจ่ายมากต่อครั้ง และพบว่าผู้อาศัยในตำบล จะซื้อจากร้านค้าใกล้บ้านเป็นหลัก การเดินทางไปซื้อในอำเภอเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ตัวจังหวัดอาจจะปีละ 1 ครั้ง

“ปีนี้พบว่ามีรายได้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับ 3 ปีก่อน เห็นได้จากพฤติกรรมการซื้อสินค้าใกล้บ้าน และไซส์เล็กเมื่อสินค้าหมดเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจตกต่ำในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และการปรับราคาสินค้าขึ้น”

สำหรับพฤติกรรมการบริโภคสื่อ เลือกดูฟรีทีวีในช่วงเช้า เห็นป้ายโฆษณาระหว่างการเดินทาง ฟังวิทยุชุมชนช่วงทำนา ช่วงเย็นดูฟรีทีวี ส่วนการเข้าถึงคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตประมาณ 4% ซึ่งต่ำที่สุดของประเทศ

ขณะที่โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เข้าถึงจำนวนมาก กลุ่มผู้ใหญ่จะใช้พูดคุยเป็นหลัก วัยรุ่นใช้ฟังวิทยุ ถ่ายรูป ส่งเอสเอ็มเอส และเริ่มมีการดาวน์โหลดคอนเทนท์ต่างๆ

นอกจากนี้พบว่าสื่อเคเบิลทีวีท้องถิ่น และจานดาวเทียมเพิ่มมากขึ้น เพราะช่วยให้ดูฟรีทีวีชัดขึ้น มีคอนเทนท์หลากหลาย และราคาไม่แพงเฉลี่ย 2,000-3,000 บาท

รายการที่นิยมสูงสุด คือ บันเทิง ประเภทละครก่อนข่าว ละครหลังข่าวค่ำ เพลงลูกทุ่ง และชื่นชอบดาราที่เป็นคนอีสานมากที่สุด โดย "ตุ๊กกี้"  ได้รับความนิยมสูงสุด แซงหน้า “หม่ำ” และ “เท่ง”

นางสาววฤตดา กล่าวว่า ตลาดสดประจำสัปดาห์ เป็นสถานที่ยอดนิยมในการทดลองสินค้าใหม่ๆ อาหารแปลกๆ ที่มีจำหน่ายในเมืองหรือกรุงเทพฯ เช่น เครื่องสำอางสไตล์เกาหลี คัพเค้ก นักเก็ต พิซซ่า เป็นต้น
          
"ดังนั้นการสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อาจจะต้องศึกษาสื่อและกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมในพื้นที่ รวมทั้งการสื่อสารแบบอินเตอร์แอคทีฟ ผ่านสื่อท้องถิ่น ทั้งเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และวิทยุชุมชน" นางสาววฤตดากล่าว

"เอ็นบีซี"..ในสมรภูมิเรดโอเชี่ยน

อุตสาหกรรมเคเบิลทีวี จานดาวเทียม บูม เอ็นบีซีเดินหน้าขยายฐานผู้ชม บุกคนโด ตั้งเป้า 100 อาคารภายในสิ้นปีพร้อมสร้างแบรนด์

ตัวเลขล่าสุดจาก "เอจีบี นีลเส็น รีเสิร์ช" รายงานเรทติ้งผู้ชมทีวีของ 20 ล้านครัวเรือนไทยทั่วประเทศ อยู่ในกลุ่มเคเบิลทีวีทุกประเภท และทีวีดาวเทียมรวม 7.6 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมครัวเรือนไทยในสัดส่วน 38-40% แต่หากแยกเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และเขตเมืองจะอยู่ที่ 50% หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน  

การเติบโตในอัตราเร่งนี้ ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเคเบิลทีวี จานดาวเทียม และคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ เจ้าของช่องทีวีดาวเทียม ต่างมั่นใจในเป้าหมายการเปลี่ยนภาครับชมทีวีของครัวเรือนไทยทั่วประเทศ จากเสาก้างปลา เป็นระบบอื่นๆ ภายใต้ภารกิจ 3 ปีนับจากนี้ หรือในปี 2556  

อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม "เนชั่น แชนแนล" และ "แมงโก้ ทีวี" บอกว่าแต่ละปีตลาดเคเบิลทีวีและจานดาวเทียมมีการขยายตัวของครัวเรือนที่รับชมผ่านทั้ง 2 ช่องทาง เพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านครัวเรือน ด้วยทุกวันนี้อุปสรรคของการเข้าถึงช่องทีวีดาวเทียม แทบจะ "ไม่มี"  จากราคาจานดาวเทียมที่ถูกลงอย่างมาก ประมาณ 2,000-3,000 บาท ขณะที่เคเบิลทีวี มีตัวเลือกจากผู้ให้บริการท้องถิ่น ในอัตราค่าสมาชิกเดือนละ 300-350 บาท

เมื่อการเข้าถึงครัวเรือนไทยและกลุ่มผู้ชมของทั้งเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมมีอัตราใกล้เคียงฟรี ทีวี  และด้วยจำนวนช่องทีวีดาวเทียมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ตัวเลขปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 100 ช่อง กลยุทธ์การแข่งขันต่อไปจึงอยู่คุณภาพของคอนเทนท์ และสร้างการรับรู้ใน "แบรนด์" เพื่อทำให้ช่องทีวีดาวเทียม เป็น "ตัวเลือก" ของผู้ชม

"หัวใจของการแข่งขันของทีวีดาวเทียมในยุคนี้อยู่ที่คุณภาพ การผลิตคอนเทนท์ตอบโจทย์ผู้ชม  เพราะด้วยจำนวนทีวีดาวเทียมเกือบ 100 ช่อง แต่ละช่องจึงต้องแข่งขันกันแย่งผู้ชม เรียกได้ว่าสมรภูมินี้ เริ่มเป็น Red Ocean  ไม่ใช่ Blue Ocean เหมือน 3 ปีก่อน ใครที่เริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้จึงไม่ง่ายอีกต่อไป"

ลงขันขยายฐานคนดู

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของผู้ประกอบการเคเบิลทีวี มีช่องสัญญาณออกอากาศจำนวนจำกัด ส่วนจานดาวเทียมมีให้เลือกชมกว่า 100 ช่อง การจะเป็นหนึ่งในช่อง "ตัวเลือก" ของผู้ชมจึงต้องใช้เวลาสร้างการรับรู้ 

อดิศักดิ์ กล่าวว่า กลยุทธ์ของเอ็นบีซี จึงเดินหน้าทั้งการขยายฐานผู้ชม และการสร้างแบรนด์ไปพร้อมกัน โครงการที่เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ คือ โปรเจค "บิ๊กแพ็ค" (Big Pack) ความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจทีวีดาวเทียม นำ 10 ช่องรายการ จาก 4 คอนเทนท์ โปรวายเดอร์ ประกอบด้วย แกรมมี่, เอ็นบีซี, กันตนา และโรส มีเดีย  เพื่อขยายฐานผู้ชมใน 100 คอนโดมิเนียม เขตกรุงเทพฯ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4 รายใหญ่ คือ พฤกษา, แอลพีเอ็น, แสนสิริ และศุภาลัย รวม 3 หมื่นยูนิต ครอบคลุมผู้ชม 1.2 แสนคน ด้วยการติดตั้งจานดาวเทียม PSI ระบบซีแบนด์ ผ่านเครื่องรับ M 10 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการรับชมทีวีดาวเทียมล่าสุด ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นตึกสูงโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้สามารถรับช่องทั้ง 10 ช่องรายการเพิ่มเติมจากช่องพื้นฐานฟรีทีวี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ  

“การขยายฐานผู้ชมสู่กลุ่มคนเมืองที่อาศัยในคอนโด ครั้งนี้ จะเป็นผลดีกับ ทุกฝ่าย กล่าวคือ ผู้บริโภค ได้รับชมรายการคุณภาพ "ฟรี" ผู้ผลิตคอนเทนท์ ได้ฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น บริษัทธุรกิจและเอเยนซีโฆษณา มีทางเลือกใหม่ในการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคในต้นทุนการโฆษณาที่คุ้มค่า   ทั้งยังเป็นการ เพิ่ม privilege ให้กับลูกค้าของผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้ง 4 ราย เรียกได้ว่า WIN-WIN กับทุกฝ่าย”

หลังเปิดตัวบิ๊กแพ็คเฟสแรก พบว่ายังมีกลุ่มอาคารในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อีกหลายโครงการมาติดต่อขอเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก ซึ่งพันธมิตรทั้ง 4 รายกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขยายการติดตั้งเพิ่มเติม พร้อมกับการเปิดตัว "บิ๊กแพ็ค เฟสสอง" ในช่วงปลายปีนี้ อีก 100 อาคาร สานต่อการขยายฐานผู้ชมในอาคารต่างๆ มากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายในกลุ่มโรงแรม และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้คนที่มาใช้บริการตลอดทั้งวัน เน้นพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่   โดยแต่ละเฟสคาดว่าจะมีฐานคนดูเพิ่มขึ้นราว 3 แสนคน  ถือเป็นโครงการที่เห็นตัวเลขกลุ่มผู้ชมที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 
 
เดินหน้าสร้างการ "รับรู้"

กลยุทธ์การขยายฐานผู้ชมช่องเนชั่น แชนแนล และแมงโก้ ทีวี ของเอ็นบีซี เดินหน้าไปพร้อมกับการสร้างการ "รับรู้" ของแบรนด์ทั้งสองช่อง ผ่านกิจกรรมและความร่วมมือต่างๆ ล่าสุดคือความร่วมกับบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้บริหารสื่อบนสถานีและในรถไฟฟ้าบีทีเอส  เพื่อนำข่าวสถานการณ์ประจำวันจากช่อง "เนชั่น แชนแนล" และข่าวบันเทิง ศิลปวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ จากช่อง "แมงโก้ ทีวี" ออกอากาศผ่านจอแอลซีดีบนสถานีและในขบวนรถไฟฟ้า "บีทีเอส" เพื่อให้ผู้โดยสารบนรถไฟฟ้าบีทีเอสได้รับข้อมูลข่าวสาร ตั้งแต่เวลา 6.00-24.00 น. ทุกวัน เฉลี่ยข่าววันละ 150 ข่าว  สามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์คนเมือง และมีกำลังซื้อตั้งแต่ระดับปานกลางถึงสูง

"โปรเจคส่งข่าวขึ้นจอแอลซีดี บีทีเอส ครั้งนี้เราหวังผลด้านการรับรู้ในกลุ่มผู้ใช้บีทีเอส กว่า 5 แสนคนต่อวันว่า มีช่องเนชั่น แชนแนล และแมงโก้ ทีวี ช่องน้องใหม่ของเอ็นบีซี ซึ่งส่วนหนึ่งรู้จักอยู่แล้ว และอีกส่วนหนึ่งยังไม่รู้จัก แต่เมื่อได้มีโอกาสรับชมคอนเทนท์จากทั้ง 2 ช่อง และชื่นชอบ ก็น่าจะมีการติดจานดาวเทียม เคเบิลทีวี กระทั่งดูผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น"

แม้ปัจจุบันเม็ดเงินโฆษณาผ่านเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม จะไม่สูง แต่เขาเชื่อว่ามีทิศทางการเติบโต และหากมีส่วนแบ่งได้ราว 5% ของเม็ดเงินโฆษณาฟรีทีวี มูลค่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ก็คือว่าดีมาก  จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนครัวเรือนที่รับชมเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในปีนี้ จึงมีความชัดเจนของการใช้งบโฆษณาผ่านทั้งสองช่องทาง จากเอเยนซี มากขึ้น เห็นได้จากเนชั่น แชนแนล  มีอัตราการเติบโตของโฆษณากว่า 100% ในปีนี้

การผนึกกำลังเพื่อร่วมกันขยายช่องทางการรับชมของ ทั้งคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ จานดาวเทียม และเคเบิลทีวีท้องถิ่น รวมทั้งการสร้างการรับรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ เท่ากับทุกรายจะได้ประโยชน์ร่วมกันในอุตสาหกรรมนี้

สถานีข่าวแข่งเดือดช่วงชิงผู้ชมจากฟรีทีวี

สมรภูมิสถานีข่าวแข่งเดือด ในยุคที่ครัวเรือนไทยกำลังเปลี่ยนการรับชมจากฟรีทีวีสู่ช่องทีวีดาวเทียม บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

นายสมพันธ์ จารุมิลินท กรรมการบริหาร บริษัท ซีนิเพล็กซ์ จำกัด และประธานคณะกรรมการบริหารสถานีข่าวโทรทัศน์ TNN24 กล่าวว่าการเปิดตัวช่องข่าวทีเอ็นเอ็น 24 ครั้งแรกช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งครอบคลุมสมาชิกประมาณ 1.8 ล้านครัวเรือน  และเป็นหนึ่งในช่องที่ได้รับความนิยมติดอันดับท็อปเทนของทรูวิชั่นส์  ล่าสุดได้ขยายฐานผู้ชมด้วยการออกอากาศแบบ "ฟรี ทู แอร์" โดยไม่เข้ารหัสสัญญาณ ในระบบเคยู แบนด์  รับชมได้ทางจานเหลือง ดีทีวี และระบบซี แบนด์ บนดาวเทียมไทยคม 5 รับชมได้ทางจานดำ "พีเอสไอ" 

ส่งผลให้การออกอากาศช่องทีเอ็นเอ็น 24 ครอบคลุมผู้ชมทั่วประเทศ 10 ล้านครัวเรือน  และการออกอากาศด้วยสัญญาณ Global Beam จากดาวเทียมไทยคม 5 ยังครอบคลุมใน 4 ทวีป คือ เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกา จำนวน 110 ประเทศ  เพื่อให้คนไทยในต่างประเทศได้ติดตามข่าวสารจากช่องทีเอ็นเอ็น  24

"การขยายช่องทางการออกอากาศด้วยระบบเคยู แบนด์ และ ซีแบนด์ เชื่อว่าจะมีฐานผู้ชมทีเอ็นเอ็นเพิ่มขึ้น และเป็นโอกาสที่บริษัทจะปรับขึ้นราคาโฆษณาในปีหน้าอีกราว 20%  ส่งผลให้รายได้ปี2554 จะอยู่ที่ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 100 ล้านบาทในปีนี้"

นอกจากนี้บริษัทได้ขยายช่องข่าวเพิ่มอีก 2 ช่อง คือ ทีเอ็นเอ็น 2 ช่องทรูวิชั่นส์ 08 นำเสนอข่าวเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มออกอากาศเต็มรูปแบบในต้นปี 2554 และ ทีเอ็นเอ็น 3 ช่องทรูวิชั่นส์ 09 นำเสนอข่าวภูมิภาค โดยจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อผลิตรายการในแต่ละท้องถิ่นมาออกอากาศในช่องดังกล่าว  สำหรับช่องทีเอ็นเอ็น 3 จะมี ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เป็นผู้อำนวยการสถานี โดยจะเปิดตัวในปีหน้าเช่นกัน

พร้อมกันนี้จะมีการลงทุนเทคโนโลยีการผลิตรายการเป็นระบบ High Definition (HD) มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ด้วยการสร้างสตูดิโอใหม่ และอุปกรณ์การผลิต เพื่อรองรับนโยบายการออกอากาศด้วยระบบเอชดี ของทรูวิชั่นส์ในปีหน้า

เนชั่นฯ ชูจุดเด่นสถาบันข่าว"น่าเชื่อถือ"     นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC กล่าวว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวช่องข่าวทีวีดาวเทียมหลายช่อง ไม่ว่าจะเป็น สปริงนิวส์, วอยซ์ ทีวี, ที-นิวส์ ทีวี  นับว่าส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ชมหันมาสนใจรับชมรายการข่าวมากขึ้น  แต่ทำให้การแข่งขันในช่องข่าวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สำหรับช่องเนชั่น แชนแนล  ซึ่งดำเนินการมากว่า 10 ปี  จะใช้จุดเด่นการเป็นแบรนด์ที่ผู้ชมรับรู้ถึงความน่าเชื่อถือในการนำเสนอข่าว ที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกชมสถานีข่าวช่องนั้นๆ มาเป็นจุดขายเพื่อขยายฐานผู้ชม อีกทั้งจะมีการพัฒนาให้เนชั่น แชนแนล เป็นสถาบันสื่อที่มีความน่าเชื่อถือต่อไปในอนาคต

ขณะที่การออกอากาศของเนชั่น แชนแนล ในปัจจุบันถือว่าครอบคลุมฐานผู้ชมทุกกลุ่ม ทั้งสมาชิกเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 2.5 ล้านครัวเรือน ,จานรับสัญญาณระบบเคยู แบนด์ และ ซี แบนด์ กว่า 6 ล้านจานทั่วประเทศ และจากการสำรวจของเอจีบี นีลเส็น ในกลุ่มผู้ชมทั่วไป ช่องเนชั่น แชนแนล ติดอันดับท็อปไฟว์ที่มีผู้ชมสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง

อีกช่องทางสำคัญคือการรับชมผ่าน Hi-Speed internet ผ่าน ที่สามารถรับชมช่องข่าวเนชั่น แชนแนล ได้ทั่วโลก  ซึ่งถือเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับผู้ชมคนไทยในต่างประเทศ ในการติดตามข่าวสารจากประเทศไทย  พบว่าในช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ ในประเทศ  จำนวนผู้ชมที่รับชมเนชั่น แชนแนล ผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงปกติ   โดยสามารถรับชมได้ทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ   

ด้านแผนการลงทุนช่องใหม่ของบริษัทหลังจากเปิดตัวช่องแมงโก้ ทีวี ช่องไลฟ์สไตล์บันเทิง ไปเมื่อช่วงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ในปี 2554 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมใหม่อีก 1 ช่อง ภายใต้แนวคิด Public Service  ซึ่งยังไม่มีช่องรายการรูปแบบดังกล่าวในตลาด โดยเชื่อว่าธุรกิจทีวีดาวเทียมยังเติบโตได้ในอนาคต หลังจากครัวเรือนไทยได้เปลี่ยนภาครับสัญญาณทีวีจากเสาก้างปลา เป็นจานดาวเทียมครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปีข้างหน้า  

ไลฟ์ ทีวี ขอเชิญร่วมงานแถลงข่าวช่อง Sports plus ของ LIVE TVบริษัทไลฟ์ ทีวี จำกัด ผู้นำในการผลิตคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพและถูกลิขสิทธิ์ให้กับตลาดจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีมากว่า 5 ปี มีกำหนดการการเปิดตัวช่องSport plus 24 ชั่วโมงขึ้น และเปิดตัวการออกอากาศในการแข่งขันมวยปล้ำ TNA (Total Non-stop Action Wresting) อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการตอบสนองแฟนบอลพันธุ์แท้ของมวยปล้ำแนว Hard Core และได้มีกำหนดการแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ OFFICIAL LAUNCH “TNA” ขึ้น โดยมีกำหนดการดังต่อไปนี้

วันที่ พุธ 20 ตุลาคม 2553
เวลา 13:00 — 15:30 น.
สถานที่ Infinity Hall (IMAX Theater) 5th Fl., @ Siam Paragon
ภายในงานแถลงข่าวดังกล่าวจะมีการเปิดตัว “KURT ANGLE” (เคิร์ท แองเกิ้ล) นักมวยปล้ำขวัญใจอเมริกันชนและแฟนมวยปล้ำทั่วโลก ที่มาพร้อม TNA Ladies สุดเซ็กซี่นำทีมโดย เป้ย ปานวาด เหมมณี และ รัน ณัฐมนกานต์ ศรีนิกรโชติ ปิดท้ายด้วยเหล่านางแบบสุดฮอต

13:00 สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติร่วมลงทะเบียน
14:00 พิธีกรกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ เริ่มกิจกรรมบนเวที
14:10 พิธีกรสัมภาษณ์ตัวแทนจาก LIVE TV  คุณเกียรติศักดิ์ วังประเสริฐกุล ประธานกรรมการบริหาร LIVE TV และ คุณดานิอัล เบลสซิ่ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด LIVE TV
14:15 ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ขึ้นกล่าวบนเวที
14:20 ฉาย VTR Presentation “TNA-WRESTLING”
14:30 “TNA Ladies with KURT ANGLE”
พบนักมวยปล้ำระดับโลก เคริ์ท แองเกิ้ล ที่มาพร้อม TNA Ladies สุดเซ็กซี่ นำทีมโดย เป้ย ปานวาด เหมมณี และ รัน ณัฐมนกานต์ ศรีนิกรโชติ
14:50 พิธีกรสัมภาษณ์ เคิร์ท แองเกิ้ล บนเวที
15:00 ร่วมถ่ายภาพบนเวที
15:10 กิจกรรม Meet & Greet กับ KURT ANGLE และกิจกรรมมอบลายเซ็นต์
15:30 เสร็จสิ้นกิจกรรม
พิธีกร : พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร / ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ

ข่าวเทคโนโลยี ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2553 14:32:13 น.

กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--ไลฟ์ ทีวี

พีเอสไอ ฉลองครบ 20 ปี จัดงานใหญ่ “มหกรรมอัพเกรดฟรีทั่วไทย 4 ล้านเครื่อง ”
ข่าวเทคโนโลยี ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 15:33:09 น.

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--นิวส์ เพอร์เฟค
ยักษ์ใหญ่ด้านจานดาวเทียม พีเอสไอ จัดมหกรรมยิ่งใหญ่ฉลองครบรอบ 20 ปี คืนกำไรให้ผู้บริโภค เปิดให้ผู้ซื้อจานดาวเทียมระบบ ซี แบนด์ รุ่นเก่า สามารถอัพเกรดกล่องรับพีเอสไอได้ฟรี ในงาน “ มหกรรมอัพเกรดฟรีทั่วไทย กล่องรับพีเอสไอ 4 ล้านเครื่อง ” คิดเป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท หวังครองเบอร์ 1 ในตลาดอย่างต่อเนื่อง

นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้นำด้านการผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ทีวีดาวเทียมรายใหญ่ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ พีเอสไอ ( PSI : Poly Satellite Industry ) เปิดเผยว่า พีเอสไอ เจ้าของสโลแกน ชัดล้านเปอร์เซ็นต์ ครองส่วนแบ่งตลาดทีวีดาวเทียมในระบบ ซี แบนด์ เป็นอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 80 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 7,000 — 8,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ด้วยอัตราการผลิตถึง 1.2 ล้านเครื่องต่อปี ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้จานดาวเทียมของ พีเอสไอ อยู่ประมาณ 6 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่า หรือ S7 ประมาณ 4 ล้านเครื่อง และเครื่องรุ่นใหม่ หรือ โอทู ( O2 ) ประมาณ 2 ล้านเครื่อง พีเอสไอมีสำนักงานสาขาจำนวน 25 สาขาทั่วประเทศ มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 250 ราย และผู้ให้บริการรายย่อยอีกกว่า 6,000 ราย ทั่วประเทศ

“ ในปีนี้ พีเอสไอ ได้ดำเนินกิจการมาเป็นระยะเวลา 20 ปีแล้ว การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการขอบคุณลูกค้า ที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อถือในสินค้า และบริการของ พีเอสไอ ทำให้บริษัทเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน พีเอสไอ มีความพร้อมสูงสุดด้านบุคลากร และเทคโนโลยี โดยล่าสุดได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ที่เรียกว่า OTA ( Over The Air ) เพื่อให้กล่องรับสัญญาณดาวเทียมของลูกค้าแบบเก่า หรือที่เรียกว่า S7 สามารถปรับตัวเอง เพื่อทำการค้นหาช่องสัญญาณและรายการทางทีวีดาวเทียมใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทจัดแคมเปญนี้ขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้ารายเก่าสามารถดูรายการใหม่ๆได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องใหม่ ถือเป็นการรับผิดชอบต่อลูกค้าเก่าในตลาด ซึ่งมีอยู่สูงถึง 4 ล้านกว่าเครื่อง ” นายสมพร กล่าว

ด้านนายภานุวัตน์ ผงสุวรรณกุล กรรมการบริหาร พีเอสไอ กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดในแคมเปญใหญ่แห่งปี “ มหกรรมอัพเกรดฟรีทั่วไทย กล่องรับ PSI 4 ล้านเครื่อง ” ในครั้งนี้ว่า พีเอสไอ จะจัดคาราวานเดินสายแนะนำแคมเปญนี้ให้กับกลุ่มผู้ใช้จานดาวเทียมของ พีเอสไอ ทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้จานดาวเทียมระบบ ซี แบนด์ รุ่นเก่า ( S7 ) นำกล่องรับสัญญาณดาวเทียมไปอัพเกรดได้ฟรีที่ศูนย์บริการใกล้บ้านโดยเริ่มจากกรุงเทพมหานครก่อนในวันที่ 12 — 19 พฤศจิกายนนี้ และลูกค้าต่างจังหวัดในระหว่างวันที่ 15 — 23 พฤศจิกายนนี้ ลูกค้าสามารถนำกล่องรับสัญญาณไปอัพเกรดได้ที่ศูนย์บริการ หรือตัวแทนจำหน่าย กว่า 6,000 จุดทั่วประเทศฟรี ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการอัพเกรดหลังจากจบแคมเปญนี้แล้ว จะต้องเสียค่าบริการครั้งละประมาณ 200 บาท ซึ่งหวังค่าแคมเปญนี้สามารถทำให้ผู้บริโภคในตลาดประหยัดงบประมาณไปได้โดยรวมประมาณ 800 ล้านบาท นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ยังใช้เสาอากาศแบบเก่าอยู่ สามารถนำเสาอากาศ มาแลกจานดาวเทียมในระบบ OTA ได้ในราคาเพียง 2,900 บาท ในโอกาสนี้ได้

“ไลฟ์ ทีวี”เปิดโลกลี้ลับ กับช่องใหม่ “มิติ4” มิติใหม่ใช้สายตา..ไขปริศนา..ท้าคนอยากรู้..ร่วมพิสูจน์!!
ข่าวบันเทิง ThaiPR.net -- พุธที่ 10 พฤศจิกายน 2553 16:41:50 น.

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ไลฟ์ ทีวี
“ไลฟ์ ทีวี” ผู้นำในการผลิตคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพ ถูกลิขสิทธิ์ให้กับตลาดจานดาวเทียม และเคเบิล ทีวีมากว่า 5 ปี และเป็นผู้ประกอบการที่มีคอนเท้นต์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ อาทิ กลุ่มที่ชอบดูบอล, ชอบกีฬาท้าทาย, เรื่องราวความเป็นเอเชี่ยน, เรื่องเม้าท์จากทุกวงการทั้งไทยและเทศ, วิถีชีวิตของคนไทยใจลูกทุ่ง, ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน, รายการอาหารนานาชาติ, รายการที่ส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ฯลฯ

ปัจจุบัน “ไลฟ์ ทีวี” ขยายกลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าถึงชาวบ้านมากยิ่งขึ้น โดยการเปิดช่องใหม่ ที่รอการพิสูจน์ใน “ช่องมิติ4” ที่รวบรวมทุกเรื่องราวของไสยศาสตร์ สิ่งลี้ลับ เรื่องสยองขวัญ เรื่องแปลก สิ่งเหนือธรรมชาติ ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานโดยบอกเล่าผ่านรายการให้คนที่สนใจมาร่วมพิสูจน์ไปพร้อมกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ “ไลฟ์ ทีวี” เคยลองตลาดแมสด้วยการทำช่องรายการที่รวมเรื่องลี้ลับ และได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด จนมาถึงวันนี้เรามีความพร้อมอย่างมากในการผลิตคอนเท้นต์ใหม่ๆ ที่ทันสมัย-ทันเหตุการณ์ รวมทั้งมีทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ มาร่วมสร้างสรรค์ทุกรายการผ่านช่องมิติ4 เพื่อให้ผู้ชมได้ติดตามทุกเรื่องราวที่สวนกระแสกับความทันสมัยในโลกแห่งเทคโนโลยีปัจจุบันที่รอการพิสูจน์

โดยคุณเกียรติศักดิ์ วังประเสริฐกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บ.ไลฟ์ ทีวี จำกัด กล่าวว่า “จากเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ สิ่งที่เรียกว่า ความเชื่อ สิ่งลี้ลับ เรื่องแปลก เรื่องสยอง มหัศจรรย์ฯลฯ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะเจริญก้าวหน้าไปแล้วก็ตาม ซึ่งบางเรื่องหาคำตอบได้ แต่บางเรื่องหาคำตอบไม่ได้ ไลฟ์ ทีวี จึงเปิดช่องใหม่ คือ “มิติ4” เพื่อตอบสนองให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยเราได้ลงทุนผลิตรายการขึ้นมาใหม่ทั้งรายการสดและรายการเทป ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ชมได้ชมเนื้อหาสด ใหม่ อยู่ตลอด และในช่องมิติ4 เรามี 3 รายการสดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ คือรายการ “ส่องทะลุชะตากับตุ้ย เอ็กซเรย์” โดยจักรินทร์ โกศัยดิลก หรือที่รู้จักกันดีกับ ตุ้ย-เอ็กซเรย์ จะมาเอ็กซเรย์ชะตากันแบบสดๆในรายการ เพียงแค่คุณส่งข้อความหรือส่งเสียงผ่านโทรศัพท์ก็สามารถรู้ทันทีว่าชะตาของคุณเป็นอย่างไรและจะทำอย่างไรถึงจะคลายจากเคราะห์ที่เผชิญอยู่ โดยออกอากาศสดทุกวันพุธ 11:00-12:00 น และวันศุกร์ 4 ทุ่มตรง และพบกับอีกหนึ่งบทบาทของนักแสดงและพิธีกรอารมณ์ขัน ติ๊ก กลิ่นสี ที่จะแท็คทีมมากับอ.บุญสุภา ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งดวงดาว จะมาไขดวงชะตาถอดรหัสดวงดาวจากตัวเลข สัญลักษณ์ รวมถึงลายเซ็นที่พร้อมจะดูให้คุณ ในรายการสด “รู้ชีวิตกับติ๊ก กลิ่นสี และอ.บุญสุภา” ทุกวันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ เวลา 22:00-23:00 น. และสองปรมาจารย์โลโก้ผี ป๋อง-กพล ทองพลับ และ แจ็ค สายสิญจน์ ที่จะชวนให้คนขวัญอ่อนนอนผวา ลุกขึ้นมาฟังเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงจากแขกรับเชิญ และผู้ชมทางบ้าน จะทำให้ผู้ชมได้ขนหัวลุกไปพร้อมกันในรายการสด “ช็อค สเตชั่น” สถานีแห่งความช็อค ทุกวันพุธ เวลา 22:00-23:00 น. นอกจากนี้ยังมีรายการเทปที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่มาให้ชมอีกมากมาย อาทิ รายการคอหวย รายการกึ่งสารคดีที่เอาใจคนรักการเสี่ยงโชค, รายการอึ้ง ทึ่ง เสียว โชว์ต่างๆ ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัว ที่เหลือเชื่อว่ามนุษย์จะเป็นคนกระทำ, รายการเมย์เดย์ (May Day) รายการกึ่งสารคดีเกาะติดการปฎิบัติงานจริง ในสถานการณ์จริง สถานที่จริง นาทีเป็นนาทีตาย ที่ไม่คาดคิดมาก่อน จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิต่างๆ, รายการมิติ4 สเปเชียล รายการที่รวบรวมเนื้อหาหลากหลายเกี่ยวกับความเชื่อ ความลึกลับ เรื่องแปลก อาทิ เทศกาลกินเจ, บั้งไฟพญานาค ฯลฯ รายการผ่าคลิปลับปริศนา รายการที่วิเคราะห์ถึงสิ่งประหลาด เหลือเชื่อ ที่บันทึกเป็นคลิปวีดิโอที่ยังหาคำอธิบายไม่ได้ รายการห้องสมุดผี รายการที่รวบรวมอุปกรณ์ประกอบฉากที่ใช้ในหนังผี หนังสือการ์ตูนผี เครื่องตรวจจับวิญญาณ และรายการขบวนการคลุมโปง, รายการลองของ, รายการเดอะ ช็อค ออน ทีวี ซึ่งรายการทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่มีผู้ชมให้ความสนใจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าในอนาคตเรื่องเหล่านี้ก็ยังอยู่คู่กับคนไทยไปอีกนานครับ” คุณเกียรติศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

เคทีซีชวนช่องแกรมมี่ส่งตรงความบันเทิงสดสู่สมาชิกบัตร ผ่านจานดาวเทียมดีทีวี อีซี่แบบพกพา
ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2553 16:23:49 น.

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--บัตรกรุงไทย
นายธีรพจน์ โชคอนันตัง (ขวา) ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จับมือ นายเดียว วรตั้งตระกูล (ซ้าย)กรรมการผู้จัดการ จีเอ็มเอ็ม บรอดคาสติ้ง ส่งตรงความบันเทิงครบทุกอรรถรสให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ภายใต้ คอนเซ็ปท์ “ดูช่องแกรมมี่ ชัดทุกแมทช์ สนุกทุกที่ ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี” มอบส่วนลดในการซื้อ จานดาวเทียมดีทีวี อีซี่ (DTV Easy) รูปแบบใหม่ล่าสุดเพียง 2,990 บาท จากปกติ 3,390 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2553 ตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัว ด้วยขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่ายและพกพาไปได้ทุกที่ ที่สำคัญไม่มีค่าบริการรายเดือน และสามารถรับชมความบันเทิงจากช่องแกรมมี่และอื่นๆ อีกกว่า 40 ช่อง

"สทท.11"ผนึก"ทีสปอร์ต"ยิงสดชลบุรีเกมส์
วันที่ 2010-12-04 03:50:00 โดย ไทยรัฐ - กีฬา
tags : ชลบุรี เกมส์ ถ่ายทอดสด การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ สปอร์ต สทท.11 สทท กีฬา 
กรุงเทพมหานคร

"สทท.11" ผนึกกำลัง "ที-สปอร์ต" ร่วมถ่ายทอดสดกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 "ชลบุรีเกมส์" ระหว่างวันที่ 9-19 ธ.ค.นี้ โดย ที-สปอร์ต รับหน้าที่หลักวันละ 8 ชั่วโมง ส่วน สทท.11 ช่วยเสริมวันละ 3 ชั่วโมง...

ความเคลื่อนไหวในการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 "ชลบุรีเกมส์" ระหว่างวันที่ 9-19 ธ.ค.นี้ ที่จ.ชลบุรี ล่าสุด "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานแถลงข่าวการถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ ผ่านทางช่อง "ที-สปอร์ต" ร่วมกับนางรัตนา เจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(สทท.11) และนายณัฐวุฒิ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาดามัสเวิลด์ จำกัด ที่ห้องประชุม 222ราชมังคลากีฬาสถาน กกท. หัวหมาก เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 กกท. ได้มอบหมายให้สถานีทีวีกีฬา "ที สปอร์ต ชาแนล" ดำเนินการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขัน เพื่อเป็นการเผยแพร่กีฬาต่างๆ ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ขณะเดียวกันจะได้รับทราบเกี่ยวกับกติกาแต่ละชนิดกีฬามากขึ้น ภายใต้นโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งขณะนี้ "ที สปอร์ต" เป็นที่รู้จักคุ้นเคย และเป็นช่องทางการสื่อสารของคนไทยในวงการกีฬาไปแล้ว จึงเป็นช่องทางที่ประชาชนจะได้รับชมการแข่งขันกีฬาดังกล่าว

การถ่ายทอด "ชลบุรีเกมส์" ครั้งนี้ "ที สปอร์ต" จะถ่ายทอดสดผ่าน 2 ช่องสัญญาณในระบบจานดาวเทียม เคยู แบนด์ และ ซี แบนด์ พิธีเปิดวันที่ 9 ธ.ค. และปิดการแข่งขันวันที่ 19 ธ.ค. ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น. ส่วนช่วงการแข่งขันจะถ่ายทอดสดวันละ 8 ชั่วโมง 2 ช่วงเวลา ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และเวลา 13.00-18.00 น.

นายกนกพันธุ์ กล่าวว่า ในครั้งนี้ถือได้ว่า กกท. และ ที สปอร์ต เดินหน้ารุกคืบดำเนินการถ่ายทอดสดกีฬาแห่งชาติด้วยตนเองเป็นครั้งแรก หลังจากแต่เดิมเพียงดึงสัญญาณมาจากสทท. 11 ที่ถ่ายทอดอยู่แล้ว โดยจะเพิ่มบุคลากร และกล้องถ่ายทอดไปในแต่ในละสนามให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังมีทางสทท. 11เ ป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลให้อยู่เช่นเดิม ในขณะที่สทท. 11 ก็จะมีการถ่ายทอดสดชลบุรีเกมส์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน รวมทั้งในช่วงแข่งขันวันละ 3 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 14.30-17.30 น

จีเอ็มเอ็ม ทีวีเผยแผนปี54 บันเทิงครบวงจร
ข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2553 09:01:03 น.
ยังคงความเป็นหนึ่งในการผลิตรายการบันเทิงได้โดนใจวัยรุ่นมากที่สุดของประเทศ สำหรับ "จีเอ็มเอ็ม ทีวี" ล่าสุด "สถาพร พานิชรักษาพงศ์" กรรมการผู้จัดการ จีเอ็มเอ็ม ทีวี ได้เผยถึงนโยบาย และแผนของปี 2554 ว่า

"ในปีหน้าเรามี 2 รายการใหม่ ที่จะมาสร้างความสนุกสนาน มอบความบันเทิงให้กับผู้ชม รายการแรก "เฮ สเตชั่น" วาไรตี้แบบสดๆ กับแขกรับเชิญคนดังๆ เกมโดนๆ กับ 4 พิธีกรสุดเฮ "น้าเน็ก,เดี่ยว-สุริยนต์,เอกกี้,นิกกี้" ออกอากาศสดจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 12.25-13.05 น. ทางช่อง 5 และ "มอสกินซ่า" รายการที่เป็นครั้งแรกของ "มอส" (ปฏิภาณ) ที่มาเป็นทั้งพิธีกรและโปรดิวเซอร์ ออกอากาศทุกวันพฤหัสฯ เวลา 23.40-00.20 น. ทางช่อง 5

สำหรับ "แบง แชนแนล" ที่เราดูแลก็ถือว่าเติบโตขึ้นมาก จากปีที่แล้ว ทาง "AGB Nielsen Research" ยังได้ระบุว่า "แบง แชนแนล" คือช่องทีวีดาวเทียมที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในกลุ่มวาไรตี้ ไลฟ์สไตล์วัยรุ่น อายุ 15-24 ปี อีกด้วย ในปีนี้เราจึงเดินหน้าผลิตรายการใหม่ๆ เอ็กซ์คลูซีพพิเศษสุด สามารถติดตามชมได้ที่นี่ที่เดียว ส่วนงานเพลงปีที่แล้วได้รับความสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็คใหญ่พิเศษ "คอลลิ่ง เลิฟ เพลงรักรอสาย" รวม 8 นักร้องดังคุณภาพ หรืออัลบั้มชุดที่ 4 "ไอซ์ เฟสต้า" ของ "ไอซ์ ศรัณยู" และยังมีซิงเกิ้ลใหม่ๆ จาก น้ำชา,เตชินท์,เต้น ไมค์ไอดอล ซึ่งในปีหน้าเรามีแผนที่จะปั้นนักร้องหน้าใหม่ และออกผลงานใหม่ๆ อีกมากมาย รวมทั้งนักร้องใหม่จากโครงการไมค์ไอดอล ปีที่ 2 อีกด้วย

ล่าสุดเราเปิด "มั้งกี้ ทาวน์ แดนซ์ อะคาเดมี่" โรงเรียนสอนเต้น ที่ชั้น B2 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส นำทีมโดย "ครูล๊อต" ที่ผ่านการเต้นและออกแบบท่าเต้นให้ศิลปินดังๆ มาแล้วมากมาย โดยเปิดสอนให้คนที่รักการเต้น ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้กันตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ในรูปแบบการเรียนการสอนแนวใหม่ กับทีมครูสุดฮิปอินเทรนด์ ทั้งนี้เพื่อรองรับการปั้นนักร้องทีนไอดอลจำนวนมากในอนาคต

และในปีที่ผ่านมาเรายังได้พัฒนาช่องทางใหม่ๆ ในยุคสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะ "โซเชียล เน็ตเวิร์ก" อย่าง "เฟซบุ๊ค" ที่เป็นช่องทางในการสื่อสารพบปะพูดคุยระหว่างพิธีกรและแฟนรายการ นอกจากนี้เรายังมีแอพพลิเคชั่น "จีเอ็มเอ็ม ทีวี" และ "แบง แชนแนล" บนไอโฟน และไอแพด เป็นของเราเองด้วย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ และเติมเต็มทุกความต้องการของชีวิตสมัยใหม่ ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกๆ รายการของ "จีเอ็มเอ็ม ทีวี" และ "แบง แชนแนล" จะทำให้แฟนๆ ทุกคนมีความสุขไปตลอดทั้งปี 2554 นะครับ" สถาพรกล่าว