ReadyPlanet.com


ข่าวจานดาวเทียม


พณฯ นายกรัฐมนตรีให้เกียรติเยี่ยมชมบู๊ธซิงเกอร์ใน “งานมหกรรมโลกไร้เสา STAT EXPO 2010”
04 May 10 08:58 -- ทั่วไปบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเน้นกิจกรรมการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำการสร้างแบรนด์ และโปรโมทสินค้าประเภทจานดาวเทียมกับลูกค้าในกรุงเทพฯ ภายในงาน “มหกรรมโลกไร้เสา STAT EXPO 2010”  » อ่านต่อ

 
“OK HOT ปล่อยอุณหภูมิความร้อน ว่าคุณร้อนแค่ไหน”
31 Mar 10 04:53 -- บันเทิงสถานีวิทยุระบบ FM ที่มีเครือข่ายอยู่มากกว่า 90 สถานีในจังหวัดหลักทั่วประเทศ ทางเว็ปไซด์
www.radiook.co.th และทางโทรทัศน์ที่ติดตั้งเครื่องรับสัญญาณจานดาวเทียมระบบC-Band , KU-Band แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากความตั้งใจและความคิดดี ๆ ของคุณปุ๋ย - โชคชัย  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศ 1 เม.ย. 53
26 Mar 10 00:54 -- บันเทิงรายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันพฤหัสบดี ที่ 1 เมษายน 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. และทรูวิชั่นส์ 97 (จานดาวเทียม) เวลา 15.05 น.  » อ่านต่อ
ดีทีวี เซอร์วิส จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวจานดาวเทียม DTV Easy
26 Feb 10 10:22 -- บันเทิงบริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด ผู้ครองตลาดจานดาวเทียมระบบ KU Band ของประเทศไทย จะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ DTV Easy นวัตกรรมใหม่ของจานดาวเทียม ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ พร้อมแถลงกลยุทธ์ทางการตลาด ยอดการจัดจำหน่าย และผลประกอบการของบริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด  » อ่านต่อ
 
Radio Ok ประกาศ!!! เพิ่มช่องทางรับความสุข
04 Feb 10 04:24 -- บันเทิงแฟน ๆ รายการ Radio Ok จะได้ฟังเพลง กันอย่างจุใจ เมื่อ Radio Ok โดย คุณปุ๋ย โชคชัย เจี่ยเจริญ ผู้บริหารใจดี ประกาศเพิ่มช่องทางในการส่งมอบความสุข กับเพลงเพราะ เพลงฮิต ในช่องทางใหม่ ที่นอกเหนือจากการรับฟัง ทางอินเตอร์เน็ต , ทางวิทยุ FM และทางระบบจานดาวเทียม  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2553
07 Jan 10 07:44 -- บันเทิงปฏิทินข่าว รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) ทรูวิชั่นส์ 97 เวลา 15.05 น. และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศวันศุกร์ ที่ 15 มกราคม 2553
07 Jan 10 07:29 -- บันเทิงปฏิทินข่าว รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศวันศุกร์ ที่ 15 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. ทรูวิชั่นส์ 97  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศวันอังคารที่ 12 มกราคม 2553
07 Jan 10 07:07 -- บันเทิงปฏิทินข่าว รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศวันอังคารที่ 12 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) ทรูวิชั่นส์ 97 เวลา 15.05 น. และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศวันพุธ ที่ 13 มกราคม 2553
07 Jan 10 07:00 -- บันเทิงปฏิทินข่าว รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”ออกอากาศวันพุธ ที่ 13 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. ทรูวิชั่นส์ 97  » อ่านต่อ
 
“OK News เปิดภาพลักษณ์ใหม่ ใคร ๆ ก็ฟัง”
06 Jan 10 07:54 -- บันเทิงเรดิโอ โอเค (radioOK) สถานีวิทยุแนวใหม่ที่สามารถรับฟังผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ สถานีวิทยุเอฟเอ็ม, จานดาวเทียม, เคเบิลทีวีท้องถิ่น หรืออินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ค่ายเพลง และสินค้าต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ฟัง  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2553
28 Dec 09 07:18 -- บันเทิงรายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) ทรูวิชั่นส์ 97 เวลา 15.05 น. และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น.  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันพฤหัสบดี ที่ 7 มกราคม 2553
28 Dec 09 07:14 -- บันเทิงรายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันพฤหัสบดี ที่ 7 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. และทรูวิชั่นส์ 97 (จานดาวเทียม) เวลา 15.05 น.  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันพุธ ที่ 6 มกราคม 2553
28 Dec 09 07:09 -- บันเทิงรายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันพุธ ที่ 6 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. ทรูวิชั่นส์ 97 (จานดาวเทียม) เวลา  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันอังคารที่ 5 มกราคม 2553
28 Dec 09 07:04 -- บันเทิงรายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันอังคารที่ 5 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) ทรูวิชั่นส์ 97 เวลา 15.05 น. และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น.  » อ่านต่อ
 
ทีวีไกด์: รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันจันทร์ ที่ 4 มกราคม 2553
28 Dec 09 07:01 -- บันเทิงรายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค” ออกอากาศวันจันทร์ ที่ 4 มกราคม 2553 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (NBT) เวลา 05.30-06.00 น. ทรูวิชั่นส์ 60 (เคเบิล ใยแก้ว) และทรูวิชั่นส์ 94 (จานดาวเทียม) เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. ทรูวิชั่นส์ 97 (จานดาวเทียม) เวลา  » อ่านต่อ



ผู้ตั้งกระทู้ morning talk :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-07 10:08:26


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 51 (3237946)

กสิกรไทยจับมือ14พันธมิตร ติดปีกSMEs
วันที่ 2011-02-09 11:32:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - การเงิน-การลงทุน

tags : ธนาคารกสิกรไทย กสิกรไทย ธนาคารกสิกร ผู้จัดการ ผู้ประกอบการ ธนาคาร พันธมิตร nation channel ( รายการข่าวฟรีทีวีผ่านดาวเทียม ) 

แบงก์กสิกรไทยจับมือ 14 พันธมิตร เปิดตัวรายการ "SME ติดปีก by K SME Care" ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 15.00-16.00 น . ทาง Nation Channel

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารกสิกรไทยได้สนับสนุนองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ SME ผ่านโครงการ K SME Care มาเป็นเวลากว่า 4 ปี ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ประกอบการที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพียงปีละ 1,500 ราย แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทยมีจำนวนกว่า 3 ล้านราย ทำให้ในปัจจุบันการสนับสนุนความรู้จากธนาคารยังไปไม่ทั่วถึงในกลุ่มผู้ประกอบการทั่วทั้งประเทศ ธนาคารกสิกรไทย จึงร่วมกับ 14 พันธมิตรประกอบด้วย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ศูนย์วิจัยพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและแฟรนไชส์สากล ศูนย์วิจัยด้านโลจิสติกส์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย – ญี่ปุ่น) สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น ผลิตรายการ "SME ติดปีก by K SME Care"

สำหรับรูปแบบรายการ "SME ติดปีก by K SME Care" จะเป็นรูปแบบซึ่งจะนำเสนอสาระความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ โดยจะเป็นการหยิบยกธุรกิจที่มีเรื่องราวน่าสนใจมาพูดคุยในรายการ รวมถึงประเด็นปัญหาการพัฒนาหรือปรับปรุงธุรกิจ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้ชม ซึ่งจะมีธนาคารและหน่วยงานพันธมิตรเข้าไปร่วมให้คำปรึกษา และร่วมปรับปรุงพัฒนาธุรกิจ

นายปกรณ์ กล่าวว่า รายการ "SME ติดปีก by K SME Care" จะเป็นรายการที่ให้ความรู้พร้อมคำแนะนำและแนวทางแก้ไขปัญหาแก่ผู้ประกอบการได้ตรงจุดที่สุด โดยนำเสนอผ่านทาง Nation Channel

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามชมรายการ "SME ติดปีก by K SME Care" ทางช่อง Nation Channel ได้ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 – 16.00 น. ผ่านทางเคเบิลทีวีและจานดาวเทียม โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-02-22 04:33:54


ความคิดเห็นที่ 52 (3237947)

บิ๊กกสิกรไทย สั่ง พนักงานดูแลลูกค้าชายแดนไทย-เขมรใกล้ชิด
ข่าวดาวเทียม วันที่ 2011-02-09 19:00:00 โดย ไทยรัฐ - เศรษฐกิจ

tags : ธนาคารกสิกรไทย กสิกรไทย ธนาคารกสิกร ธนาคาร ผู้ประกอบการ ผู้จัดการ สินเชื่อ ชายแดน 

บิ๊กกสิกรไทย สั่งพนักงานดูแลลูกค้าชายแดนไทย-เขมรอย่างใกล้ชิด หากได้รับผลกระทบพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ มั่นใจปีนี้สินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 10 % แนะผู้ประกอบการเอสเอ็มรับมือต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น ฟันธงปีนี้เห็นดอกเบี้ยนโยบายวิ่งแตะ 3.25 %

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ธนาคารได้สำรวจลูกค้าพบว่ามีลูกค้าขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) อยู่ในพื้นที่ 2,900 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.8 % ของสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลลูกค้ากลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด และหากได้รับผลกระทบธนาคารจะพิจารณาช่วยเหลือต่อไป

“ความไม่สงบชายแดนไทย-เขมร เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว และหากลูกค้ารายใดได้รับผลกระทบจะพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายๆ ไป และหากเหตุการณ์เกิดขึ้นยืดเยื้อ ลูกค้าจำนวนมาได้รับผลกระทบ ธนาคารจะมีการออกแพ็คเกจช่วยเหลือ เหมือนกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางเมือง เช่น ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือกำหนดให้ชำระแต่เงินต้น เพื่อให้ลูกค้ามีกระแสเงินสดในการทำธุรกิจต่อไป” นายปกรณ์ย? กล่าว

สำหรับปัญหาทางการเมืองในอียิปต์ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทางอ้อม เช่น ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปอียิปต์ มีมูลค่าเพียง 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.4 % ของมูลค่าส่งออก และมีการนำเข้าสินค้าจากอียิปต์ 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.01 % ขอมูลค่านำเข้าสินค้า ขณะที่ธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับ อียิปต์ 347 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 925 ล้านบาท หรือ 0.1 % ของสินเชื่อรวม

ส่วนกรณีที่ให้ความช่วยเหลือจะเหมือนกับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจาก ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา นายปกรณ์ กล่าวว่า ยอดปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 11,000 ล้านบาท นับเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งเป็นผลเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้ยอดสินเชื่อปีนี้โตตามเป้าหมายเพิ่มขึ้นสุทธิ 10 %

“ปัจจัยบวกที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในปีนี้ ตัวขับเคลื่อนมากจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชน กำลังซื้อในประเทศสูงขึ้น เกิดจากราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอี ทำให้ต้นทุนการเงินและต้นทุนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น เช่น ดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยไตรมาสแรกเชื่อว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นจาก 2.25 % เป็น 2.75 % และสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 3-3.25 % ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้า ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ” นายปกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ต้องปรับตัว ลดค่าใช้จ่าย รับกับต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น โดยการซื้อวัตถุดิบมาผลิตสินค้าควรซื้อวัตถุดิบระยะยาวมากขึ้น เพื่อควบคุมต้นทุน และในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น ควรนำเข้าเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ขณะที่ดอกเบี้ยที่อยู่ช่วงของขาขึ้น ผู้ประกอบการควรหากเงินกู้ที่ดอกเบี้ยคงที่ และเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนควรซื้อประกันความเสี่ยง เพื่อป้องกันการขาดทุนจากค่าเงินบาทที่ผันผวน

นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการให้ความรู้แก้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ธนาคารจึงร่วมกับ 14 พันธมิตร อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น ผลิตรายการ “SME ติดปีก by K SME Care” ทางช่อง Nation Channel ได้ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 – 16.00 น. ผ่านทางเคเบิลทีวีและจานดาวเทียม โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-02-22 04:36:56


ความคิดเห็นที่ 53 (3237966)

บิ๊กกสิกรไทย สั่ง พนักงานดูแลลูกค้าชายแดนไทย-เขมรใกล้ชิด
บิ๊กกสิกรไทย สั่งพนักงานดูแลลูกค้าชายแดนไทย-เขมรอย่างใกล้ชิด หากได้รับผลกระทบพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ มั่นใจปีนี้สินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 10 % แนะผู้ประกอบการเอสเอ็มรับมือต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น ฟันธงปีนี้เห็นดอกเบี้ยนโยบายวิ่งแตะ 3.25 %

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ธนาคารได้สำรวจลูกค้าพบว่ามีลูกค้าขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) อยู่ในพื้นที่ 2,900 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.8 % ของสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลลูกค้ากลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด และหากได้รับผลกระทบธนาคารจะพิจารณาช่วยเหลือต่อไป

“ความไม่สงบชายแดนไทย-เขมร เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว และหากลูกค้ารายใดได้รับผลกระทบจะพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายๆ ไป และหากเหตุการณ์เกิดขึ้นยืดเยื้อ ลูกค้าจำนวนมาได้รับผลกระทบ ธนาคารจะมีการออกแพ็คเกจช่วยเหลือ เหมือนกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางเมือง เช่น ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือกำหนดให้ชำระแต่เงินต้น เพื่อให้ลูกค้ามีกระแสเงินสดในการทำธุรกิจต่อไป” นายปกรณ์  กล่าว

สำหรับปัญหาทางการเมืองในอียิปต์ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทางอ้อม เช่น ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปอียิปต์ มีมูลค่าเพียง 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.4 % ของมูลค่าส่งออก และมีการนำเข้าสินค้าจากอียิปต์ 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.01 % ขอมูลค่านำเข้าสินค้า ขณะที่ธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับ อียิปต์ 347 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 925 ล้านบาท หรือ 0.1 % ของสินเชื่อรวม

ส่วนกรณีที่ให้ความช่วยเหลือจะเหมือนกับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจาก ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา นายปกรณ์ กล่าวว่า ยอดปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 11,000 ล้านบาท นับเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งเป็นผลเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้ยอดสินเชื่อปีนี้โตตามเป้าหมายเพิ่มขึ้นสุทธิ 10 %

“ปัจจัยบวกที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในปีนี้ ตัวขับเคลื่อนมากจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชน กำลังซื้อในประเทศสูงขึ้น เกิดจากราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอี ทำให้ต้นทุนการเงินและต้นทุนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น เช่น ดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยไตรมาสแรกเชื่อว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นจาก 2.25 % เป็น 2.75 % และสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 3-3.25 % ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้า ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ” นายปกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ต้องปรับตัว ลดค่าใช้จ่าย รับกับต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น โดยการซื้อวัตถุดิบมาผลิตสินค้าควรซื้อวัตถุดิบระยะยาวมากขึ้น เพื่อควบคุมต้นทุน และในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น ควรนำเข้าเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ขณะที่ดอกเบี้ยที่อยู่ช่วงของขาขึ้น ผู้ประกอบการควรหากเงินกู้ที่ดอกเบี้ยคงที่ และเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนควรซื้อประกันความเสี่ยง เพื่อป้องกันการขาดทุนจากค่าเงินบาทที่ผันผวน

นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการให้ความรู้แก้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ธนาคารจึงร่วมกับ 14 พันธมิตร อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น ผลิตรายการ “SME ติดปีก by K SME Care” ทางช่อง Nation Channel ได้ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 – 16.00 น. ผ่านทางเคเบิลทีวีและจานดาวเทียม ในระบบ :ซีแบนด์ โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-02-22 10:15:09


ความคิดเห็นที่ 54 (3237967)

พธม.เมินประกาศศอ.รส.บีบพ้นรอบทำเนียบแจงท่าทีอีกครั้งเย็นนี้พธม.เมินประกาศศอ.รส. ชี้รัฐบาลจัดฉากสร้างสถานการณ์จับกุมชายพกระเบิด พกปืนไรเฟิล สอดรับก.ม.มั่นคง ปองร้ายผู้ชุมนุม
ติดตั้งจาน PSI โปรถูกสุดๆ    ดูฟรีกว่า120 ช่อง เพิ่มช่องอัตโนมัต ศูนย์ติดตั้ง จาน ทีวีรวม มืออาชีพ

ww.RaimonLand.comผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้(12 ก.พ.)  พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้นำประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) 2 ฉบับที่ออกตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน เรื่องการห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามการใช้เส้นทางคมนคม หรือยานพาหนะรอบทำเนียบฯ และรัฐสภา มาชี้แจงพร้อมเจรจากับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ตามประกาศศอ.รส.

โดย พล.ต.ต.กริรินทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ตำรวจจะยังไม่กำหนดกรอบระยะเวลาในการบังคับให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม ซึ่งการดำเนินการใดๆ จะเป็ไปด้วยความละมุนละม่อมตามกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าหารือกับแกนนำและคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินเพื่อกำหนดท่าที แต่หากตำรวจเข้าจับกุมก็ยินดีและสามารถทำได้ทันที เพราะกฎหมายได้ให้อำนาจไว้

ในเวลาต่อมา พล.ต.จำลอง แถลงว่า จะขอประชุมคณะกรรมการรวมพลังฯ ในเวลา 16.00 น. และจะแถลงข่าวในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่าการชุมนุมของกลุ่ม ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 19 ซึ่งมีผลกดดันทั้งรัฐบาล กระทรวงต่างประเทศ และกองทัพ มาเป็นลำดับ แต่ยังไม่ได้ผลในเรื่องการปกป้องแผ่นดิน ดังนั้นแกนนำจึงพร้อมจะให้ตำรวจเข้ามาจับกุม

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้แจ้งให้ทราบว่า ผู้ใหญ่ของกัมพูชาติดต่อทางโทรศัพท์มายังคนในรัฐบาลไทยทำลายการชุมนุมของกลุ่ม และมีแนวโน้มว่ารัฐบาลไทยจะเชื่อและปฏิบัติตามแนวทางของฝ่ายกัมพูชา

 ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวศรีสะเกษได้กลับเข้าพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จึงเป็นสิงที่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ยอมผลักดันฐานทัพของเขมรที่ยิงอาวุธใส่ราษฎรไทยให้ออกไปจากแผ่นดินไทย ที่ผ่านมากัมพูชาสร้างถนนและกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขนอาวุธและยุทธภัณฑ์ขึ้นไปบนภูมะเขือ ชาวบ้านจึงยังมีความเสี่ยงจากความไม่เด็ดขาดของรัฐบาลหากเกิดการปะทะขึ้นอีกรอบ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ

นอกจากนี้ นายปานเทพยังได้โชว์ภาพถ่ายการตัดถนนและกระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ภูมะเขือ รวมทั้งการติดตั้งเรดาร์ จานดาวเทียม และเสาโทรคมคม พร้อมระบุว่า รัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยมานานมาก ใช้เอ็มโอยู 43 คุมเชิงอยู่เพียงด้านล่าง ดังนั้นการจัดฉากปะทะเป็นพิธีจะเป็นอันตรายต่อคนไทยในอนาคต
 

นายประพันธ์ คูณมี กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะไม่ปฏิบัติตามประกาศ 2 ฉบับของ ศอ.รส. เพราะไม่ได้เป็นคำสังศาลแต่เป็นประกาศที่ออกตามพ.ร.บ.รักษาความมั่นคง และมติครม. ประกาศทั้ง 2 ฉบับจึงขัดต่อรธน. เพราะการชุมนุมยังไม่มีเหตุก่อความไม่สงบ

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์หลายครั้ง ทั้งในเรื่องการจับกุมชายที่พกระเบิด และการจับกุมชายพร้อมปืนไรเฟิลพร้อมกระสุน 160 นัดที่หน้าคุรุสภา ซึ่งรายหลังตนตรวจสอบไปแล้วไม่ปรากฏชื่อ นายอภิชาติ ตรงวินิจฉัย ว่าไปซ้อมยิงปืนที่สวนเจ้าเชษฐ ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ช่วยตรวจสอบว่าสองเหตุการณ์เป็นการจัดฉาก เพื่อให้สอดรับการประกาศพ.ร.บ.มั่นคง หรือมีเจตนาปองร้ายต่อผู้ชุมนุม เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ใครจะมาซ้อมยิงปืน โดยพกปืนไรเฟิล และกระสุนติดหัวระบิด 160 นัดมาในรถแท็กซี่
 

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-02-22 10:23:57


ความคิดเห็นที่ 55 (3238191)

ข่าวเทคโนโลยีจานดาวเทียม จาก ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 10:58:01 น.
โดย กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--ดีทีวี เซอร์วิส

ดีทีวี เซอร์วิส จับมือ  บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย เปิดตัวช่องใหม่ “ D Life — Life is beautiful ”

บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด (ผู้จำหน่ายจานดาวเทียมดีทีวี) จับมือ บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด (ผู้นำด้านมัลติมีเดียที่มุ่งเน้นการนำเสนอทั้งด้านสาระและความบันเทิง ในประเทศไทย) อาทิ BBC England, National Geographic, History Channel, Discovery Channel, Animal Planet, Discovery Travel &Living, Discovery Home & Health and Discovery Kidsพร้อมเปิดตัวช่องใหม่ “ D Life — Life is beautiful ”

โดยคุณสุธานุช สุธีรวัฒนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัดคุณจักรพงษ์ สุธีสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัดในประเด็น

- แผนกลยุทธ์ทางการตลาดของจานดาวเทียมดีทีวีในปี 2554
- ความร่วมมือระหว่าง DTV และ STG รวมถึงมุมมองของ DTV ที่มีต่อ STG
- แนวคิดของช่องใหม่ จุดเด่น และกลุ่มเป้าหมายของช่อง D Life (Highlight ที่น่าสนใจ)
- ความร่วมมือระหว่าง DTV และ STG

ในวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 13.00 — 14.30 น. ณ สถานีดาวเทียมไทยคม แคราย ห้องไทยคม 3 THAICOM Station  (สื่อมวลชนท่านใดไม่สะดวกเดินทางเอง สามารถขึ้นรถตู้ได้ที่ ร้านสตาร์บัคส์ ลาวิลล่า อารีย์ ณ สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ เวลา 12.00 น. )

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-02-24 11:51:33


ความคิดเห็นที่ 56 (3238772)

Money Channel รุกสู่สถานี เศรษกิจ.-การเงิน
ข่าวโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท แฟมมิลี่ โนฮาว จำกัด

ภาพประกอบข่าว

Money Channel เปิดตัวแม่ทัพใหม่ รุกสู่สถานีที่ครอบคลุมทุกด้านเรื่องเศรษฐกิจและการเงิน

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท แฟมมิลี่  โนฮาว จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2554  สื่อในเครือบริษัท  แฟมมิลี่ โนฮาว จำกัด ทั้งสถานีโทรทัศน์ Money Channel เว็บไซต์ ***moneychannel.co.th*** และนิตยสาร Money and Wealth (M&W) จะทำหน้าที่ เผยแพร่ข่าวสารด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนที่ถูกต้องน่าเชื่อถืออย่างเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้ง นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนได้รับประโยชน์สูงสุด รวมทั้ง ช่วยขยายความรู้ ความเข้าใจด้านการลงทุนไปยังผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ ๆ ด้วย

"ข่าวสารและข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อการลงทุนอย่างมีคุณภาพ  Money channel จะเป็น Official Media ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ทำหน้าที่รายงานข่าวสารข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ มีความครบถ้วนทุกแง่มุม รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดแถลงการณ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ประชาชน และนักลงทุนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้สามารถตัดสินใจลงทุนอย่างถูกต้องทันท่วงที เชื่อมั่นว่าการที่ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสารมวลชน ได้เข้ามาเสริมทัพของ Money Channel ในฐานะผู้อำนวยการสถานี และบรรณาธิการที่ปรึกษานิตยสาร M&W จะทำให้เนื้อหาและรูปแบบที่นำเสนอ มีความเข้มข้น เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ Money Channel  และ M&W เป็นผู้นำด้านข่าวสารเพื่อการตัดสินใจลงทุนที่ทุกคนต้องติดตาม" นายจรัมพร กล่าว

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน รักษาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแฟมมิลี่ โนฮาว จำกัด เปิดเผยว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาหลังจากมีการปรับปรุงรูปแบบรายการใหม่ Money Channel ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเพิ่มขึ้น โดยจากการสำรวจของ AGB Nielsen ล่าสุดในเดือนมกราคม 2554 Money Channel มียอดผู้ชม เฉพาะที่ชมผ่านเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียม ไม่รวมทรู วิชั่นส์ มากกว่า 2,000,000 คน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของผู้สนับสนุนรายการเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 16 ทำให้ผลประกอบการรวมของบริษัทปี 2553 สูงขึ้นจากปี 2552 ถึงร้อยละ 63

สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์เชิงรุกมากยิ่งขึ้น  โดยนอกจากการเป็นสื่ออย่างเป็นทางการของตลาดหลักทรัพย์ฯ  ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุน สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ต้องเฝ้าติดตาม Money Channel ตลอดเวลาแล้ว ยังกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนารายการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับปรุงรายการด้านการลงทุนให้เข้มข้น และให้ความสำคัญกับรายการข่าวเศรษฐกิจและการเงินมากขึ้น เพื่อรักษาฐานผู้ชมเดิม รวมทั้งขยายสู่ผู้ชมกลุ่มใหม่ ด้วยรายการสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ และรายการสาระความรู้ด้านการบริหารเงินสำหรับประชาชนทั่วไป

"ปีนี้เราจะเน้นด้านคุณภาพรายการ โดยเฉพาะรายการข่าว ที่ต้องมีบุคลิกเฉพาะตัวของ Money Channel โดยทีมบริหารได้เชิญ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เข้าร่วมงานกับ Money Channel ในฐานะผู้อำนวยการสถานี ดูแลรับผิดชอบการผลิตรายการทั้งหมด"นายเกรียงไกร กล่าว

ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Money Channel  และบรรณาธิการที่ปรึกษานิตยสาร M&W  กล่าวว่า ในปีนี้ Money Channel จะมีการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการทำรายการ ยกระดับงานผลิตให้มีมาตรฐานสูงขึ้น รวมทั้งเพิ่มบุคลากรคุณภาพในทีมข่าวด้วย

"ข่าวของ Money Channel จะมีความแตกต่าง ไม่สามารถหาชมได้จากสถานีอื่น เพราะทุกข่าวจะมีมุมมองด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนอยู่ด้วยเสมอ   โดยภายในกลางปีนี้จะเริ่มออกอากาศรายการข่าว Money Channel News Hour อย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง เวลา 06.00 น. 12.00 น. และ 18.00 น. รวมทั้งยังมีรายการข่าวต้นชั่วโมงทุกชั่วโมง และข่าวด่วนที่สามารถรายงานสดได้ทันทีที่มีเหตุการณ์สำคัญ"ดร.สมเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้  ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา Money Channel  ได้ทยอยปรับผังรายการ  และออกอากาศรายการใหม่ตามแผนกลยุทธ์ไปแล้วหลายรายการ ดังนี้

รายการด้านการลงทุน และรายการข่าวสำหรับผู้ลงทุน ได้แก่ รายการ Global Movement ซึ่งจะรายงานข่าวสารความเคลื่อนไหวแบบสดๆ ของตลาดหลักทรัพย์ในยุโรปและอเมริกา ออกอากาศทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 21.30 – 22.30 น., ช่วง The Leader ในรายการ Get SET ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูง ที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในแวดวงเศรษฐกิจและการลงทุน โดยมีผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นแขกรับเชิญประจำรายการทุกวันจันทร์ สลับกับกูรูทางเศรษฐกิจท่านอื่นๆ   รวมทั้งการรายงานข่าวสำคัญของบริษัทจดทะเบียนที่ได้เผยแพร่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเป็นทางการ ออกอากาศทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 10.00 น.

รายการสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ ได้แก่ รายการมือใหม่ ซึ่งเป็นรายการแนะนำการเริ่มเข้าสู่การลงทุนในตลาดทุนตั้งแต่เริ่มแรกสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่โดยเฉพาะ ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.00 – 18.30 น.

รายการสาระบันเทิงด้านการบริหารเงินและธุรกิจ ได้แก่ รายการ Lady First ซึ่งเป็นรายการสด นำเสนอสกู๊ปที่น่าสนใจเรื่องเงินๆ ทองๆ ในชีวิตประจำวัน เปิดมุมมองสำหรับการจับจ่ายในสไตล์ผู้หญิงยุคใหม่ ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 11.30 น. และในเดือนเมษายนนี้ มีกำหนดออกอากาศ รายการ SME Idol ซึ่งเป็นรายการที่ส่งเสริมแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ SME ให้มีแนวทางในการที่จะประกอบธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างดี โดยมี Idol ซึ่งนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาร่วมเสนอแนะความคิดเห็น ช่วยผู้ประกอบการ SME ในการพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต่อไป

ทั้งนี้ นอกจากการพัฒนารายการต่างๆ แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นการผนึกกำลังทุกสื่อในเครือให้เชื่อมโยงและสนับสนุนกันมากขึ้น โดยจะพัฒนาเว็บไซต์ *** moneychannel.co.th ***ให้เป็นระบบ Streaming เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางรับชม Money Channel ทั้งแบบสดและย้อนหลังได้สะดวกสบาย ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และ Tablet ต่างๆ

นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงเนื้อหาและกิจกรรมต่างๆ ของนิตยสาร M&W มาออกอากาศทาง Money Channel มากขึ้น เช่น การถ่ายทอดสดงานประกาศผลรางวัล M&W Morning Star Awards 2011 สำหรับกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นประเภทต่าง ๆ ซึ่งนิตยสาร M&W จัดร่วมกับ Morning Star เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

สำหรับนิตยสาร M&W ในปีนี้จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ซึ่งจะมีการปรับปรุงรูปเล่มและเนื้อหาให้น่าสนใจยิ่งขึ้น พร้อมกับเตรียมการก้าวสู่การเป็น E-Book และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกนิตยสารมากขึ้นกว่าเดิม

ด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าจะทำให้สถานีโทรทัศน์ Money Channel เว็บไซต์ *** moneychannel.co.th *** และนิตยสาร M&W มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และก้าวขึ้นมาเป็นสื่อหลักที่ครอบคลุมทุกด้านในเรื่องเศรษฐกิจและการเงินได้อย่างแน่นอน

รายการช่อง Money Channel สามารถรับชมได้ทาง ทรูวิชั่นส์ ช่อง 178 เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ทีวีผ่านจานดาวเทียม หรือจะรับชมผ่านอินเทอร์เน็ตได้ที่ *** ww.moneychannel.co.th *** ซึ่งครอบคลุมการรับชมได้ทั่วประเทศ ผู้สนใจโฆษณาติดต่อ ฝ่ายการตลาดและการขาย โทรศัพท์ 0 2229 2626

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-03-02 07:12:45


ความคิดเห็นที่ 57 (3238773)

ข่าวการเมือง :   วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 12:46 น. พธม.เมินประกาศศอ.รส.บีบพ้นรอบทำเนียบแจงท่าทีอีกครั้งเย็นนี้
ข่าวโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

พธม.เมินประกาศศอ.รส. ชี้รัฐบาลจัดฉากสร้างสถานการณ์จับกุมชายพกระเบิด พกปืนไรเฟิล สอดรับก.ม.มั่นคง ปองร้ายผู้ชุมนุม     พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้นำประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) 2 ฉบับที่ออกตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน เรื่องการห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามการใช้เส้นทางคมนคม หรือยานพาหนะรอบทำเนียบฯ และรัฐสภา มาชี้แจงพร้อมเจรจากับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ตามประกาศศอ.รส.

โดย พล.ต.ต.กริรินทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ตำรวจจะยังไม่กำหนดกรอบระยะเวลาในการบังคับให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม ซึ่งการดำเนินการใดๆ จะเป็ไปด้วยความละมุนละม่อมตามกฎหมาย   ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าหารือกับแกนนำและคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินเพื่อกำหนดท่าที แต่หากตำรวจเข้าจับกุมก็ยินดีและสามารถทำได้ทันที เพราะกฎหมายได้ให้อำนาจไว้

ในเวลาต่อมา พล.ต.จำลอง แถลงว่า จะขอประชุมคณะกรรมการรวมพลังฯ ในเวลา 16.00 น. และจะแถลงข่าวในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่าการชุมนุมของกลุ่ม ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 19 ซึ่งมีผลกดดันทั้งรัฐบาล กระทรวงต่างประเทศ และกองทัพ มาเป็นลำดับ แต่ยังไม่ได้ผลในเรื่องการปกป้องแผ่นดิน ดังนั้นแกนนำจึงพร้อมจะให้ตำรวจเข้ามาจับกุม

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้แจ้งให้ทราบว่า ผู้ใหญ่ของกัมพูชาติดต่อทางโทรศัพท์มายังคนในรัฐบาลไทยทำลายการชุมนุมของกลุ่ม และมีแนวโน้มว่ารัฐบาลไทยจะเชื่อและปฏิบัติตามแนวทางของฝ่ายกัมพูชา

 ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวศรีสะเกษได้กลับเข้าพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จึงเป็นสิงที่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ยอมผลักดันฐานทัพของเขมรที่ยิงอาวุธใส่ราษฎรไทยให้ออกไปจากแผ่นดินไทย ที่ผ่านมากัมพูชาสร้างถนนและกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขนอาวุธและยุทธภัณฑ์ขึ้นไปบนภูมะเขือ ชาวบ้านจึงยังมีความเสี่ยงจากความไม่เด็ดขาดของรัฐบาลหากเกิดการปะทะขึ้นอีกรอบ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ

นอกจากนี้ นายปานเทพยังได้โชว์ภาพถ่ายการตัดถนนและกระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ภูมะเขือ รวมทั้งการติดตั้งเรดาร์ จานดาวเทียม และเสาโทรคมคม พร้อมระบุว่า รัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยมานานมาก ใช้เอ็มโอยู 43 คุมเชิงอยู่เพียงด้านล่าง ดังนั้นการจัดฉากปะทะเป็นพิธีจะเป็นอันตรายต่อคนไทยในอนาคต
 

นายประพันธ์ คูณมี กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะไม่ปฏิบัติตามประกาศ 2 ฉบับของ ศอ.รส. เพราะไม่ได้เป็นคำสังศาลแต่เป็นประกาศที่ออกตามพ.ร.บ.รักษาความมั่นคง และมติครม. ประกาศทั้ง 2 ฉบับจึงขัดต่อรธน. เพราะการชุมนุมยังไม่มีเหตุก่อความไม่สงบ

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์หลายครั้ง ทั้งในเรื่องการจับกุมชายที่พกระเบิด และการจับกุมชายพร้อมปืนไรเฟิลพร้อมกระสุน 160 นัดที่หน้าคุรุสภา ซึ่งรายหลังตนตรวจสอบไปแล้วไม่ปรากฏชื่อ นายอภิชาติ ตรงวินิจฉัย ว่าไปซ้อมยิงปืนที่สวนเจ้าเชษฐ ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ช่วยตรวจสอบว่าสองเหตุการณ์เป็นการจัดฉาก เพื่อให้สอดรับการประกาศพ.ร.บ.มั่นคง หรือมีเจตนาปองร้ายต่อผู้ชุมนุม เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ใครจะมาซ้อมยิงปืน โดยพกปืนไรเฟิล และกระสุนติดหัวระบิด 160 นัดมาในรถแท็กซี่


 

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-03-02 07:22:53


ความคิดเห็นที่ 58 (3244460)

พธม.เมินประกาศศอ.รส. ชี้รัฐบาลจัดฉากสร้างสถานการณ์จับกุมชายพกระเบิด พกปืนไรเฟิล สอดรับก.ม.มั่นคง ปองร้ายผู้ชุมนุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้(12 ก.พ.)  พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้นำประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) 2 ฉบับที่ออกตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน เรื่องการห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามการใช้เส้นทางคมนคม หรือยานพาหนะรอบทำเนียบฯ และรัฐสภา มาชี้แจงพร้อมเจรจากับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ตามประกาศศอ.รส.

โดย พล.ต.ต.กริรินทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ตำรวจจะยังไม่กำหนดกรอบระยะเวลาในการบังคับให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม ซึ่งการดำเนินการใดๆ จะเป็ไปด้วยความละมุนละม่อมตามกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าหารือกับแกนนำและคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินเพื่อกำหนดท่าที แต่หากตำรวจเข้าจับกุมก็ยินดีและสามารถทำได้ทันที เพราะกฎหมายได้ให้อำนาจไว้

ในเวลาต่อมา พล.ต.จำลอง แถลงว่า จะขอประชุมคณะกรรมการรวมพลังฯ ในเวลา 16.00 น. และจะแถลงข่าวในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่าการชุมนุมของกลุ่ม ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 19 ซึ่งมีผลกดดันทั้งรัฐบาล กระทรวงต่างประเทศ และกองทัพ มาเป็นลำดับ แต่ยังไม่ได้ผลในเรื่องการปกป้องแผ่นดิน ดังนั้นแกนนำจึงพร้อมจะให้ตำรวจเข้ามาจับกุม

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้แจ้งให้ทราบว่า ผู้ใหญ่ของกัมพูชาติดต่อทางโทรศัพท์มายังคนในรัฐบาลไทยทำลายการชุมนุมของกลุ่ม และมีแนวโน้มว่ารัฐบาลไทยจะเชื่อและปฏิบัติตามแนวทางของฝ่ายกัมพูชา

 ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวศรีสะเกษได้กลับเข้าพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จึงเป็นสิงที่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ยอมผลักดันฐานทัพของเขมรที่ยิงอาวุธใส่ราษฎรไทยให้ออกไปจากแผ่นดินไทย ที่ผ่านมากัมพูชาสร้างถนนและกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขนอาวุธและยุทธภัณฑ์ขึ้นไปบนภูมะเขือ ชาวบ้านจึงยังมีความเสี่ยงจากความไม่เด็ดขาดของรัฐบาลหากเกิดการปะทะขึ้นอีกรอบ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ

นอกจากนี้ นายปานเทพยังได้โชว์ภาพถ่ายการตัดถนนและกระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ภูมะเขือ รวมทั้งการติดตั้งเรดาร์ จานดาวเทียม และเสาโทรคมคม พร้อมระบุว่า รัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยมานานมาก ใช้เอ็มโอยู 43 คุมเชิงอยู่เพียงด้านล่าง ดังนั้นการจัดฉากปะทะเป็นพิธีจะเป็นอันตรายต่อคนไทยในอนาคต
 

นายประพันธ์ คูณมี กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะไม่ปฏิบัติตามประกาศ 2 ฉบับของ ศอ.รส. เพราะไม่ได้เป็นคำสังศาลแต่เป็นประกาศที่ออกตามพ.ร.บ.รักษาความมั่นคง และมติครม. ประกาศทั้ง 2 ฉบับจึงขัดต่อรธน. เพราะการชุมนุมยังไม่มีเหตุก่อความไม่สงบ

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์หลายครั้ง ทั้งในเรื่องการจับกุมชายที่พกระเบิด และการจับกุมชายพร้อมปืนไรเฟิลพร้อมกระสุน 160 นัดที่หน้าคุรุสภา ซึ่งรายหลังตนตรวจสอบไปแล้วไม่ปรากฏชื่อ นายอภิชาติ ตรงวินิจฉัย ว่าไปซ้อมยิงปืนที่สวนเจ้าเชษฐ ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ช่วยตรวจสอบว่าสองเหตุการณ์เป็นการจัดฉาก เพื่อให้สอดรับการประกาศพ.ร.บ.มั่นคง หรือมีเจตนาปองร้ายต่อผู้ชุมนุม เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ใครจะมาซ้อมยิงปืน โดยพกปืนไรเฟิล และกระสุนติดหัวระบิด 160 นัดมาในรถแท็กซี่

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:16:12


ความคิดเห็นที่ 59 (3244461)

ประชาชนตื่นทีวีจอมืด3ช.ม. เตรียมต้านรัฐประหาร  ฟรีทีวีจอมืดนาน 3ชั่วโมง ทำประชาชนต่างจังหวัดผวา สอบถามกันวุ่น "เหนือ-อีสาน"เตรียมต้านรัฐประหาร   จากกรณีที่สถานีโทรทัศน์ในระบบแพร่ภาพปกติ ( ฟรีทีวี  )ไม่สามารถแพร่ภาพได้  นับตั้งแต่เวลา  16.00 น.เป็นเวลานาน 3ชั่วโมง ทำให้ประชาชนผู้รับชมโทรทัศน์จำนวนมากในต่างจังหวัดเตรียมต้านรัฐประหาร

ที่ จ.เชียงใหม่  ตั้งแต่ 16.30 น. เป็นต้นมา  กรณีสถานีโทรทัศน์ทุกช่องยกเว้นเอ็นบีทีเกิดสัญญาณล่ม  ส่งผลให้ประชาชนใน จ.เชียงใหม่แตกตื่น  พากันโทรศัพท์เข้ามาสอบถามญาติมิตรกันเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการพูดออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51กันเป็นเรื่องราวใหญ่โต  โดยวิพากวิจารณ์กันว่าอาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น  ซึ่งหากมีการปฏิวัติทางกลุ่มคนเสื้อแดงได้พูดออกอากาศไว้ว่าจะพร้อมใจกันออกมารวมตัวประท้วงกลุ่มที่ปฏิวัติทันที

ระหว่างที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของสถานีโทรทัศน์ล่มอยู่นี้  ทางเจ้าหน้าที่กอ.รมน.ที่อยู่ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ก็ได้พากันเสาะหาข้อมูลและเฝ้าระวังติดตามดูสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด

จ.นครพนม  โทรศัพท์เข้ามาสอบถามจากผู้สื่อข่าว   ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความกังวลว่าจะเกิดการปฏิวัติขึ้น  เนื่องจากระยะ 2-3 วันที่ผ่านมามีกระแสข่าวตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆที่อ้างถึงการปฏิวัติ   และทุกครั้งที่เกิดเหตุดังกล่าว จะพบว่าทหารจะเข้ายึดพื้นที่ของสถานโทรทัศน์เพื่อควบคุมสื่อก่อนเป็นอันดับแรก   

ที่จ.อุดรธานี ในช่วงบ่ายวันนี้ สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี ช่อง 3 , 5 , 7 , 9 , 11 , ทีวีไทย ได้หายไปจากจอทีวีเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะผู้ให้บริการเคเบิ้ลทีวีในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ทั้ง 2 แห่ง มีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาสอบถาม ถึง การที่ไม่มีสัญญาณของช่องฟรีทีวีจำนวนมาก โดยสอบถามว่า มีการปฏิวัติที่กรุงเทพฯ และมีการยึดสถานีโทรทัศน์ ไม่ให้ออกอากาศหรือไม่

โดยผู้ให้บริการเคเบิ้ลทีวี ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี  กล่าวว่า มีผู้ชมจำนวนมาก  โทรศัพท์เข้ามาสอบถามกรณีที่ไม่มีสัญญาณจากฟรีทีวี โดยสอบถามว่าเกิดการปฏิวัติที่กรุงเทพฯ หรือไม่ ซึ่งเราได้แจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ขณะนี้ดาวเทียมไทย ที่ส่งสัญญาณของช่องฟรีทีวีล่ม ทางไทยคมกำลังเช็คสัญญาณและแก้ไขอยู่ ไม่ได้มีการปฏิวัติ ลูกค้าจึงเข้าใจ

ที่จ.ขอนแก่น  ประชาชนที่ได้ติดตามข่าวสารตามสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี   รวมถึงสถานีเคเบิ้ล ได้โทรศัพท์สอบถามถึงปัญหาจอมืด  โดยทางสถานีเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นในขอนแก่น ได้ขึ้นตัววิ่งชี้แจงว่า   สัญญาณดาวเทียมไทย 5  เครื่องส่งสัญญาณเกิดความขัดข้อง    ทำให้ไม่สามารถรับชมฟรีทีวีได้ 

ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องดาวเทียมหลุดวงโคจร  สัญญาณขัดข้อง  เพราะยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจน  และไม่ทราบว่าจะหลุดวงโครจรจริงตามที่ชี้แจงหรือไม่    ทำให้เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติขึ้นในพื้นที่    จึงได้มีการโทรศัพท์สอบถาม  และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  

ที่จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่โทรทัศน์ไม่มีการแพร่ภาพป็นเวลานาน   ที่สภากาแฟ  ย่าน  ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช  ต่างพยายามติดตามอย่างใกล้ชิดถึงเรื่องนี้ ผ่านการรับฟังข่าวจากทางสถานีวิทยุวิทยุคลื่นต่างๆ โดยมีความเข้าใจว่าสถานการณ์เช่นนี้ กำลังเกิดการรัฐประหารเหมือนครั้งที่ผ่านมา  บ้างรายแสดงอาการดีใจที่จะต้องถึงเวลารัฐประหารกำจัดกลุ่มที่ละเมิดเบื้องสูง และบางรายก็โทรศัพท์ไปหาญาติที่ทำงานในกรุงเทพฯสอบถามสถานการณ์กันอย่างวุ่นวาย

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี   มีการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสถานีทวนสัญญาณของแต่ละช่อง   ถึงการแพร่ภาพผ่านดาวเทียมที่เกิดปัญหาขึ้นโดยพบว่าในส่วนของฟรีทีวีบางช่องยังรับชมได้ปกติ  รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นยังชมได้เป็นปกติ   แต่บางช่องไม่สามารถรับชมได้ มีการวิพากวิจารณ์ว่าที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้น  เกี่ยวกับเหตุการเมืองหรือไม่ มีการโทรศัพท์ติดต่อสอบถามกันเป็นจำนวนมาก  จนทำให้เครือข่ายโทรศัพท์บางบริษัทบางช่วงติดต่อไม่ได้ชั่วคราว

ที่จ.ภูเก็ต  ตั้งแต่ 16.30 น.เป็นต้นมาสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีบางช่อง เช่น ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 9 ไม่มีสัญญาณภาพ โดยเฉพาะโทรทัศน์ที่ติดระบบเคเบิ้ลซึ่งจะต้องรับสัญญาณจากดาวเทียม สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารเป็นจำนวนมาก  เพราะเกรงว่าจะเกิดการปฎิวัติเหมือนกับที่มีกระแสข่าวมาตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทวนสัญญาณบนเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับการยืนยันว่า เหตุที่ฟรีทีวีไม่มีสัญญาณภาพเนื่องจากดาวเทียมไทยคมมีปัญหา

ที่จ.ปราจีนบุรี นางเนื้อน้อง แดงโชติ อายุ 40 ปี   ภูมิลำเนา  อ.ประจันตคาม   จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ที่บ้านติดจานดาวเทียม ขณะนี้ฝนตกทำให้ตัดสัญญาณ ไม่สามารถรับชมทีวีทุกช่องได้   เชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่น่าเกี่ยวข้องกับทหารเคลื่อนไหวของทหาร

 นางสังวาล อินจันทร์ อายุ 73 ปี   ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า  ที่บ้านใช้เสาอากาศแบบเก่า พบว่าช่อง 7 ไม่มีสัญณาณ รับชม ส่วนช่อง 3  และช่องทีวีไทย ยังรับ ส่วนสัญญาฯช่องที่หายน่าจะเป็นลมพายุที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นางสังวาล

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ. ลพบุรี ว่า ประชาชาชนในจังหวัดต่างสอบถามกันว่าในกรุงเทพ ฯมีการทำรัฐประหารกันหรือไม่  เพราะโทรทัศน์ทุกช่องไม่มีสัญญาณ และที่สำคัญโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องต่างๆ ก็ไม่สามารับรับสัญญาณได้

นายกิตติศักดิ์ ศุภพงษ์ เลขาธิการ ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดลพบุรี กล่าวว่า แปลกใจมาก ที่โทรทัศน์ รับไม่ได้เลย   ขณะนี้มีการติดตามรับความเคลื่อนไหวผ่านทางเว็บไซด์ต่างๆ ถึงที่มาของเหตุการณ์ดังกล่าว

นายรังษี   เวียงธรรม อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 72 ม.17 บ้านไชยวารี ต.ขามเ***ย  อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า  ช่วงหัวค่ำ  ประชาชนต่างโทรศัพท์สอบถามกันวุ่นเรื่องสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ไม่สามารถดูได้ จอมืด  จนทำให้ประชาชนแตกตื่น  พากันโทรศัพท์สอบถามญาติมิตรกันเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีข่าวลือว่าจะมีการรัฐประหาร  ได้เตรียมออกมาต่อต้านทันทีหากเกิดขึ้นจริง

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:25:15


ความคิดเห็นที่ 60 (3244462)
ICT-ไทยคม หาแนวทางป้องกันปัญหาดาวเทียมขัดข้อง  รายงานข่าวโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 เมษายน 2554 11:40 น. หลังจากเย็นวานนี้ ดาวเทียมไทยคม 5 เกิดปัญหาทางเทคนิค ทำให้บ้านที่ใช้จานดาวเทียมรับสัญญาณโทรทัศน์ไม่ได้ ทีวีจอมืด เรื่องนี้ นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า ได้รับคำยืนยันจากบริษัทไทยคมว่า ได้แก้ไขกู้สัญญาณที่หายไปกลับมาได้ และจานดาวเทียมสามารถรับช่องสัญญาณได้ตามปกติ ตั้งแต่ค่ำวานนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่อวสุดวิสัยที่เกิดขึ้นกับไทยเป็นครั้งแรก หลังจากเคยเกิดขึ้นกับดาวเทียมในหลายประเทศ
บ่ายวันนี้ กระทรวงไอซีที และบริษัทไทยคม จะประชุมสรุปสาเหตุการขัดข้อง แนวทางการป้องกันและรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ส่วนความเสียหายที่ได้รับแจ้ง เบื้องต้นไม่กระทบตัวดาวเทียมไทยคม 5 แต่กระทบลูกค้า เนื่องจากสัญญาณขาดหายไประยะหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของไทยคมที่ต้องชดเชยตามสัญญาต่อไป ขณะที่ กระทรวงไอซีทีในฐานะผู้ให้สัมปทาน จะหารือในเรื่องความเสียหายที่กระทบต่อภาพลักษณ์ด้วย

 
ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:28:55


ความคิดเห็นที่ 61 (3244463)

ทภ.2ส่วนหน้าแจงยังมีการปะทะปราสาทตาควาย ...ทภ.2 ส่วนหน้า ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-เขมร ล่าสุดยังมีเหตุยิงปะทะด้วยปืนเล้กยาว ระเบิดมือ และจรวดอาร์พีจี ถึง 04.00 น.บริเวณปราสาทตาควาย ชี้ทหารกัมพูชาเสียขวัญ กำลังใจตกต่ำ ขาดเสียงการดูแล และรบไร้แบบแผน...

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2554 เวลา 09.00 น.พ.อ.ปรีดา บุตรราช หน.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า เผยว่าเมื่อเวลา 21.00  น.ของวันที่ 30 เม.ย.2554 มีการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ตามแนวปราสาทตาควาย บ.หนองคันนา ต. บักได อ.พนมดงรัก ด้วยปืนเล็กยาวประจำกาย ตามด้วยระเบิดมือและจรวดอาร์พีจี เข้าใส่ทหารไทย การปะทะมีเป็นระลอก ถึงเวลา 04.00 น.จึงหยุดการปะทะ ขณะที่ ทหารกัมพูชา ขวัญกำลังใจตกต่ำ จากขาดเสบียงและขาดการดูแลจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง เกิดความเครียดจึงยิงอาวุธปืนใส่ทหารไทย

หน.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า กล่าวด้วยว่า  ส่วน ทหารไทยมีขวัญกำลังใจจากชาวบ้าน สนับสนุนเสบียงอาหาร และกองทัพส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นแนวหน้าตลอดเวลา ทำให้ทหารกัมพูชาไม่มีทิศทางการรบอย่างไม่เป็นรูปแบบ สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทหารไทยคาดการวิธีการรบของทหารกัมพูชายากมากขึ้น และทหารได้รับรายงานมีผู้ต้องสงสัย 3 คน ใช้รถยนต์ ปิกอัพ หลังคารถติดจานดาวเทียมขนาดเล็ก เข้ามาหาข่าวการวางกำลังของทหารไทย หากพบผู้ต้องสงสัย หรือรถยนต์ลักษณะดังกล่าวให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อจะได้ติดตามตรวจสอบต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:32:17


ความคิดเห็นที่ 62 (3244464)
แฉทหารเขมรขวัญเสียหนักขาดเสบียงรบไร้ทิศทาง - หันพึ่งไสยศาสตร์สู้ไทย   สุรินทร์ - ทหารเขมรไม่สน ยิงโจมตีไทยตามใจชอบ เปิดปะทะชายแดนสุรินทร์เป็นวันที่ 10 ไทยเจ็บอีก 2 “ทภ.2” ชี้ขวัญกำลังใจทหารเขมรตกต่ำ ขาดเสบียงไร้การเหลียวแลจากระดับสูง ทำให้รบไร้ทิศทาง เผย พบต้องสงสัยสปายเขมร 3 คน ตระเวนกระบะติดจานดาวเทียม หาข่าวในพื้นที่ ยัน BM-21 ยิงไม่ถึงศูนย์อพยพไทย สรุปรบ 10 วัน ทหารเจ็บ 120 นาย ตาย 7 นาย ปชช.ตาย 1 เจ็บ 7 ศูนย์อพยพ 43 แห่ง รวม 48,670 คน สะพัดทหารแขมร์หันพึ่งไสยศาสตร์สู้ทหารไทย
      
       วันนี้ (1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ยังไม่คลี่คลาย ทหารไทยกับกัมพูชายังเปิดฉากปะทะกันต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ในวันนี้ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 เม.ย.) ที่ชายแดนบริเวณปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีเสียงปืนปะทะกันขึ้นตั้งแต่เวลา 23.00 น.ต่อมาเวลา 01.00 น.ของวันนี้ (1 พ.ค.) ทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ยิงต่อสู้อย่างหนักจนถึงเวลา 02.00 น.โดยมีเสียงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงเข้ามาประมาณ 20 นาที จากนั้นเป็นการปะทะกันด้วยปืนเล็กประปรายเป็นระยะๆ ตลอดแนวชายแดนถึงปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง กระทั่งถึงเวลา 07.00 น.ของเช้าวันนี้ (1 พ.ค.) เสียงปืนจึงได้สงบลง
      
       จากเหตุปะทะกันดังกล่าว มีรายงานทหาร ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ทราบชื่อ คือ ส.ต.รัฐพล ครองยุทธ์ สังกัด ร.8 พ.2 ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และทหารไม่ทราบชื่อ อีก 1 นาย ถูกสะเก็ดระเบิด เช่นกัน ทั้ง 2 นาย ถูกนำตัวส่งรักษาพยาบาลเบื้องต้นที่ โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์
      
       ขณะเดียวกัน วันนี้ (1 พ.ค.) เวลา 09.00 น.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้าได้แจกเอกสารรายงานสถานการณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ได้เบาบางลง ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 30 เม.ย.มีการปะทะตามหน้าแนวชายแดนปราสาทตาควาย ต.บักได โดยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กประจำกายยิงขึ้นฟ้าตลอดเวลา และสุดท้ายได้ยิงเข้ามาใส่ฐานทหารไทย และเริ่มขว้างระเบิดมือพร้อมยิงอาร์พีจี เข้าใส่ฐานทหารไทย แต่ไม่สามารถตรวจสอบจำนวนได้ เนื่องจากไม่เข้าเป้าหมาย และไม่ได้ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเวลา 04.00 น.ของเช้าวันที่ 1 พ.ค.จึงหยุดการปะทะจนถึงขณะนี้
      
       ทั้งนี้ ทหารกัมพูชา เริ่มมีขวัญและกำลังใจตกต่ำ เนื่องจากการขาดเสบียงและการไม่ได้รับความเหลียวแลจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง อีกทั้งกัมพูชานั้นได้รับข่าวสารว่าทหารไทยมีการส่งเสบียงจากแนวหลัง ทั้งจากประชาชน และอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุนขึ้นมาแนวหน้าตลอดเวลา ทำให้ขณะนี้น้ำหนักของการปะทะของทหารกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นการรบแบบใดเริ่มไม่มีทิศทางและแผนการปฏิบัติอย่างเป็นรูปแบบ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลให้ฝ่ายทหารไทย คาดเดาอารมณ์ของทหารกัมพูชาได้ยากขึ้น ว่า จะเกิดความเครียดแล้วเปิดฉากใช้อาวุธต่อทหารไทยเมื่อใด
      
       จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ รวม 10 วัน (22 เม.ย. -1 พ.ค.) มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 120 นาย เสียชีวิต 7 นาย พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 7 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 11 หลัง, ประปาหมู่บ้านเสียหาย 2 แห่ง, ปศุสัตว์ตาย 4 ตัว ด้านการอพยพประชาชน ขณะนี้มีศูนย์อพยพทั้งสิ้น 43 แห่ง แบ่งกันเป็น จ.สุรินทร์ 35 ศูนย์ มีผู้อพยพ 42,804 คน จ.บุรีรัมย์ 7 แห่ง ผู้อพยพ 5,866 คน รวมจำนวนผู้อพยพทั้งสิ้น 48,670 คน
      
       นอกจากนี้ มีสายข่าวจากประชาชน แจ้งว่า พบมีผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 คน เข้ามาหาข่าวการวางกำลังของทหารไทย โดยมีลักษณะต้องสงสัยหลายประการ ใช้ยานพาหนะรถกระบะ ในลักษณะมีจานดาวเทียมขนาดเล็กบริเวณเหนือตัวรถ คาดว่า จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ดังนั้น ขอให้สื่อมวลชน ช่วยกันระมัดระวังและเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐด้วย หากพบผู้ต้องสงสัยดังกล่าวขอให้แจ้งผ่านมายังศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ทันที
       ส่วนการที่มีข่าวลือว่าหากมีการปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ทหารกัมพูชาสามารถยิงจรวด BM- 21 เข้ามาได้ถึงศูนย์อพยพต่างๆ ของ จ.สุรินทร์และ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ประชาชนหวาดกลัว นั้น รองผู้บัญชาการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 6ได้ยืนยัน ว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง และขอยืนยันว่าศูนย์อพยพต่างๆ ของทาง จ.สุรินทร์และ จ.บุรีรัมย์ มีความปลอดภัยจากระยะการยิงจรวดดังกล่าวอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนที่ยังอยู่ศูนย์อพยพได้มั่นใจในความปลอดภัยดังกล่าว
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ขณะนี้ในพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก มีข่าวลือสะพัด ว่า ทหารกัมพูชาได้ใช้ไสยศาสตร์แปลงกายเป็นมนุษย์ลิงลมเข้ามาหลอกพรางตาในลักษณะถูกยิงแล้วไม่ตาย กระโดดหลบไปมา ปีนขึ้นต้นไม้และหายตัวไป ซึ่งเชื่อว่า ทางทหารกัมพูชาได้หันมาเล่นไสยศาสตร์สู้กับทหารไทย และทางทหารไทยแก้เคล็ดไสยศาสตร์ดังกล่าวด้วยการนำเลือดประจำเดือนของสุภาพสตรี ทาที่อาวุธปืนแล้วทำการยิงมนุษย์ลิงลมตายไปหลายคนแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:37:54


ความคิดเห็นที่ 63 (3244465)

กลุ่มเสื้อแดงลำปาง จัดงาน"เราไม่ทิ้งกัน" 8 พค. 2554 14:01 น. ... เสื้อแดงลำปาง จัดงาน "เราไม่ทิ้งกัน"ทำบุญทอดผ้าป่าหาเงินระดมทุน ช่วยเหลือ ส.ส.เพื่อไทย และช่วยเหลือสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดง...ที่สำนักปฎิบัติธรรม บ้านสันป่าตึง ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง กลุ่มคนเสื้อแดงลำปางได้พากันไปรวมตัว เพื่อร่วมงาน" เราไม่ทิ้งกัน" เป็นงานทำบุญทอดผ้าป่าหาเงินระดมทุน ช่วยเหลือ ส.ส.เพื่อไทย และช่วยเหลือสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีความต้องการจานดาวเทียมไว้ดู แต่ขาดทุนทรัพย์ ส่วนเงินที่เหลือจำนวนหนึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงจะมอบให้กับสำนักปฎิบัติธรรม บ้านสัน ป่าตึง ไว้ใช้ในการทำกิจกรรมของสำนักปฎิบัติธรรม ภายในงานดังกล่าวมีพระมหาโชว์ ทุศนีโย มาร่วมเทศนา เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงลำปางที่ร่วมงานดังกล่าวได้ฟัง บรรยากาศคึกคักอย่างมาก

พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว แกนนำคนเสื้อแดงลำปาง เปิดเผยว่า ทางกลุ่มคนเสื้อแดงลำปาง ได้เตรียมพร้อมในการ จัดงานชุมนุมใหญ่ไว้แล้ว หลังมีการประกาศยุบสภาออกมาอย่างชัดเจน โดยการปราศรัยในพื้นที่ต่างๆของ จ.ลำปาง จะแบ่งแยกออกเป็น 2 เวที โดยเป็นเวทีของส.ส.พรรคเพื่อไทย และเวทีของกลุ่มนปช. จากนี้ไปส.ส พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถไปขึ้นเวที่ปราศรัยของนปช.ได้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฏหมายของการเลือกตั้ง และยอมรับว่าทางกลุ่มคนเสื้อแดง ลำปางทั้ง 13 อำเภอที่กระจายกันอยู่ในทุกพื้นที่ เกิดความตื่นตัวมาก ในการเตรียมตัวช่วยหาเสียงให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งถือว่าจะเป็นการปฎิบัติเป็นไปแนวทางเดียว เพื่อต้องการ นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว

ส่วนการลงคะแนนเพื่อเลือกส.ส.พรรคเพื่อไทย หากได้รับการเลือกตั้งแล้ว และนายกรัฐมนตรี จะเป็นใครก็ได้ ทั้งชายและหญิงแต่ ตัวเต็งที่กลุ่มคนเสื้อแดงลำปางคาดการณ์ไว้ ขณะนี้ คือ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตรและนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ

 โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1. กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม อย่างวิญญูชน พึงกระทำ พร้อมลงนาม
2. ทีม Nationchannel.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการลบข้อความ ที่ หมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
3. ไม่ควรใช้ ถ้อยคำที่ หยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด กล่าวหาให้ร้ายผู้อื่น หรือสร้างความแตกแยก ในสังคม
4. ทุกความคิดเห็นนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับ ทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ และ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้ทุกกรณี ประกอบกับทีมงาน ขอสงวนสิทธิ์ใน การลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็น

 
 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:40:39


ความคิดเห็นที่ 64 (3244466)

สหรัฐเผยภาพวิดีโอบิน ลาเดน ที่ยึดได้จากบ้านพัก ... 8 พค. 2554 13:50 น. สหรัฐเปิดเผยภาพวิดีโอของโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำอัลไกด้าที่พบในการบุกจู่โจมคฤหาสน์ของเขาในปากีสถานเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้.....ภาพวิดีโอ 5 ชุดซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากทั้งหมดที่ยึดได้จากคฤหาสน์ของผู้นำอัลไกด้าในเมืองอับบอตตาบัดของปากีสถานเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม ถูกทางเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐนำออกเผยแพร่เมื่อวาน และหนึ่งในภาพวิดีโอเหล่านี้เป็นภาพบิน ลาเดน กำลังนั่งดูข่าวของตัวเองทางโทรทัศน์ ภาพนี้จะเห็นว่าเคราของเขาเป็นสีเทา แต่ในวิดีโอชุดอื่นจะเห็นว่าเคราของเขาถูกย้อมเป็นสีดำ

วิดีโออีกชุดหนึ่งใช้ชื่อว่า "สารถึงประชาชนชาวอเมริกัน" เชื่อว่าถ่ายไว้เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ส่วนวิดีโออีก 3 ชุดดูเหมือนเป็นการซักซ้อมการบันทึกวิดีโอ เห็นได้จากมีปัญหาเรื่องการผิดคิวและปัญหาเรื่องแสงไฟ ทางการสหรัฐเผยแพร่ภาพทั้งหมดโดยไม่มีเสียง เนื่องจากวิตกว่าอาจมีการส่งสารบางอย่างเกี่ยวกับการก่อการร้ายได้

วิดีโอเหล่านี้เป็นเพียงหลักฐานส่วนหนึ่งที่พบในวันศุกร์ที่แล้ว ยังมีทั้งเทปเสียง สิ่งพิมพ์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์บันทึกข้อมูล และเอกสารที่เขียนด้วยลายมือ และทางการสหรัฐมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนขุมทรัพย์สำหรับข่าวกรองที่อาจทำให้เบาะแสเกี่ยวแผนการก่อการร้ายหรือบุคคลที่เป็นแกนนำสำคัญในเครือข่ายอัลไกด้า

ก่อนหน้านี้สหรัฐเชื่อว่าบิน ลาเดน หลบซ่อนตัวอยู่ตามแถบเทือกเขาชายแดนปากีสถานและขาดการรับรู้ข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ แต่ปรากฏว่าคฤหาสน์ของเขาตั้งอยู่ใกล้เมืองหลวงและสถาบันศึกษาทหาร รวมทั้งพบว่ามีจานดาวเทียม และคอมพิวเตอร์ด้วย แต่ไม่มีอินเตอร์เน็ตหรือสายโทรศัพท์

ขณะที่รัฐบาลปากีสถานเผชิญแรงกดดันจากพรรคฝ่ายค้านที่เรียกร้องให้ทั้งประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี และนายกรัฐมนตรียูซุฟ ราซา กิลานี ลาออกจากตำแหน่ง โดยตั้งข้อสงสัยที่บิน ลาเดนหลบซ่อนในปากีสถานใกล้สถาบันศึกษาทหารได้อย่างไรนานถึง 5 ปี และการที่สหรัฐเข้าไปในปฏิบัติการสังหารบิน ลาเดนถึงในดินแดนปากีสถาน ถือว่าเป็นการย่ำยีเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1. กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม อย่างวิญญูชน พึงกระทำ พร้อมลงนาม
2. ทีม Nationchannel.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการลบข้อความ ที่ หมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
3. ไม่ควรใช้ ถ้อยคำที่ หยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด กล่าวหาให้ร้ายผู้อื่น หรือสร้างความแตกแยก ในสังคม
4. ทุกความคิดเห็นนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับ ทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ และ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้ทุกกรณี ประกอบกับทีมงาน ขอสงวนสิทธิ์ใน การลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-05-09 04:43:14


ความคิดเห็นที่ 65 (3247594)
กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรี จับเสี่ยเจ้าของรับติดตั้งจานดาวเทียม หลังขับรถเก๋งไล่ตามประกบรถยนต์อาจารย์หนุ่มพาอดีตเมียที่เพิ่งเลิกกันไปเที่ยว พร้อมชักปืนปลอมขู่และเอาหินปาใส่กระจกรถ ก่อนขับรถหนีจนตำรวจตามจับกุมได้ทันควัน
       
       เมื่อเวลา 15.50 น.วันนี้ (9 พ.ค.) พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับการประสานทางวิทยุจากศูนย์วิทยุ ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ว่า ขอให้ช่วยสกัดจับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชักปืนข่มขู่และปาก้อนหินใส่รถยนต์พื้นที่ ต.ท่าล้อ โดยผู้ต้องสงสัยใช้ช้รถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไปทางเส้นถนนพัฒนาการ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
       
       หลังจากรับการประสาน พ.ต.อ.สมเดช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนายให้ช่วยกีนตรวจสอบ พบรถยนต์ต้องสัยคันดังกล่าวขับหลบหนีมาตามถนนลูกรังหลังสถานีรถไฟปากแพรก หมู่ 3 ต.ปากแพรก จึงวิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และตำรวจจราจรสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ
       
       โดยตำรวจจราจรได้นำรถสายตรวจจราจรเข้าทำการจอดกลางถนนจนสามารถสกัดจับเอาไว้ได้ เป็นรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตรวจสอบหลังกระโปรงรถพบป้ายทะเบียนรถ ฎช 8960 กทม.ทั้ง 2 แผ่นป้าย มีดพร้า 1 เล่ม และห่างกัน 50 เมตร พบอาวุธปืน 1 กระบอกตกอยู่ข้างพงหญ้า จึงเก็บเอาไว้ตรวจสอบ โดยมี นายเฉลิมพล จำปากุล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 ถนนอู่ทอง ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นคนขับ ซึ่งนายเฉลิมพล เป็นเจ้าของร้านเฉลิมพลจานดาวเทียม รับติดตามเทียนทั่วไปและด้านหน้าคู่กับคนขับมีผู้หญิงนั่งมาด้วย 1 คน ชื่อนางสาววไลลักษณ์ สุขเอี่ยม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ซอยญี่ปุ่น ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี
       
       จากการตรวจสอบพบว่า นางสาววไลลักษณ์ มีหมายจับคดียักยอกรถจักรยานยนต์ ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนพร้อมรถยนต์และของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
       
       จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเฉลิมพล ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถเก๋งไปกินข้าวกับเพื่อนๆ 4 คน มีคนโทรศัพท์มาบอกว่ามีอาจารย์หนุ่มคนหนึ่งใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ขับรถยนต์พาอดีตภรรยาสาวของตนที่เพิ่งเลิกกันได้ 1 เดือน เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนจับได้ว่าทั้ง 2 คนแอบไปมีความสัมพันธ์กัน เมื่อมีคนโทรศัพท์มาตอกย้ำ จึงทำให้ตนเกิดบันดาลโทสะและได้ขับรถไล่ตามรถคันดังกล่าวมาจนพบที่ถนนเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี เขตติดต่อ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง และ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จึงเปิดกระจกใช้ปืนอัดลมขู่ และใช้หินปากระจกได้รับความเสียหาย ก่อนหลบหนีไปและมาถูกจับได้ในที่สุด
ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-06-08 22:41:56


ความคิดเห็นที่ 66 (3247595)
       ทรูไลฟ์พลัสมั่นใจรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดจานดาวเทียมไทยต่อ ชูกลยุทธ์ Customer Segmentation อิงฐานสมาชิกบัตรกรุงศรีฯ เข้าสู้ คุยมีช่องรายการสูงสุดในตลาด ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้า 1 แสนรายใน 4 เดือน
      
       นายอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ คอนเวอร์เจนซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า แนวทางการทำตลาดของทรูไลฟ์พลัสยังคงตอกย้ำยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู โดยเฉพาะกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ทำให้จำนวนผู้ใช้ทรูไลฟ์พลัสเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะหาพันธมิตรที่มีความเหมาะสมและมีฐานลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนช่วยในการขยายตลาด ล่าสุดได้ร่วมมือกับกรุงศรีกรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา) ที่มีบริการทางด้านการเงินครบวงจรและเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อลูกค้ารายย่อย ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ประมาณ 5 ล้านราย
      
       “ความร่วมมือกับกรุงศรีกรุ๊ปในครั้งนี้ ถือเป็นพันธมิตรทางด้านธนาคารรายแรกที่ร่วมมือกัน”
      
       นายอริยะ กล่าวอีกว่า โปรโมชันสำหรับลูกค้าบัครเครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีฯ ที่สมัครแพกเกจ ดูพร้อมค่าโทร.ทรูมูฟ จะได้รับอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมรุ่นใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถรับชมช่องรายการจากความถี่ได้ทั้งย่านเคยูแบนด์ และซี แบนด์ ทำให้สามารถชมรายการได้ขณะฝนตก พร้อมกล่องรับสัญญาณที่สามารถแปลงสัญญาณทุกย่านความถี่ได้คมชัด โดยมีช่องรายการถึง 240 ช่อง ทั้งช่องรายการคุณภาพจากทรูวิชั่นส์ 54 ช่อง และช่องรายการฟรีทูแอร์กว่า 186 ช่อง และยังได้โปรโมชันค่าโทร.ทรูมูฟแบบรายเดือน นาทีละ 1.25 บาททุกเครือข่าย และยังได้รับฟรีค่าติดตั้งมูลค่า 1,200 บาท ดู+โทร.ฟรี 2 เดือน พร้อมรับโบนัสโทร.ฟรีทรูมูฟแบบรายเดือนเพิ่มในแพกเกจ รอบบิลละ 40 นาที ใน 3 รอบบิลแรก เมื่อสมัครแพกเกจทรูไลฟ์ฟรีวิวแพ็กเกจใดก็ได้ นาน 18 เดือน
      
       “แคมเปญนี้จะหมดประมาณสิ้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีคนสมัครเข้าร่วมแคมเปญนี้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย”
      
       ปัจจุบัน ทรูไลฟ์พลัสมีผู้ใช้บริการสิ้นปีที่แล้วอยู่ประมาณ 1 ล้านครัวเรือน ซึ่งจากแคมเปญเพิ่มช่องฟรีทูแอร์เป็น 215 ช่องช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อรวมกับแคมเปญที่ทำร่วมกับธนาคารกรุงศรีฯในครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มทรูยังคงความเป็นผู้นำในตลาดจานรับสัญญาณดาวเทียม เมื่อรวมกับจำนวนสมาชิกทรูวิชั่นทำให้กลุ่มทรูมีจำนวนผู้ใช้บริการจานดาวเทียมอยู่ประมาณ 1.7 ล้านครัวเรือน หรือคิดว่าเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 20-25% จากขนาดตลาดจานดาวเทียมในประเทศไทยที่มีประมาณ 7 ล้านครัวเรือน
      
       นายอริยะ กล่าวถึงสภาพการแข่งขันในตลาดจานดาวเทียมว่า ยังคงเน้นในเรื่องของจำนวนช่องอยู่ ซึ่งความได้เปรียบของทรูไลฟ์พลัสอยู่ตรงจำนวนปริมาณของช่องรายการ กับคุณภาพของรายการที่ได้จากทรูวิชั่น เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่ยังแข่งขันในเรื่องจำนวนช่องรายการ ซึ่งทำให้ทรูไลฟ์พลัสสามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งจำนวนช่องและคุณภาพรายการได้ดีกว่าคู่แข่ง
ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-06-08 22:45:28


ความคิดเห็นที่ 67 (3247669)

NBCไตรมาส1กำไร 26.5 ล้านบาท รายได้โต 27% จ่ายปันผล 10 สตางค์ ผลจากการขยายตัวของผู้ชมผ่านจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี

นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้ง จำกัด (มหาชน) (NBC) เปิดเผยว่าจากผลประกอบการกำไรสุทธิในไตรมาสแรกเป็นไปตามเป้าหมายเพิ่มขึ้น 14 % และยอดรายได้โตเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 15 % ทำให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไตรมาที่ 1 จำนวน 10 สตางค์ต่อหุ้นคิดเป็น 65 % ต่อกำไรสุทธิที่สูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40 % การจ่ายเงินปันผลครั้งนี้ถือเป็นการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสครั้งที่ 5 นับจากบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI

ในไตรมาสแรกปี 2554 รายได้จากการขายและการให้บริการ 156.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  เนื่องจาก รายได้จากการขายโฆษณาทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 ที่มาจากการปรับอัตราค่าโฆษณารายการทางฟรีทีวีและการเพิ่มขึ้นของรายได้โฆษณาทาง Nation Channel อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว  ตลอดจนรายได้จากช่อง Mango TV ซึ่งเริ่มแพร่ภาพในไตรมาสที่ 3 ของปี 2553

"ผลจากการขยายตัวของผู้ชมผ่านจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้เอเยนซี่โฆษณาได้หันมาใช้สื่อโฆษณาผ่านทาง Nation Channel และ MangoTV เพิ่มขึ้นทำให้มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาในไตรมาแรกกว่า 10 ราย"นายอดิศักดิ์กล่าวว่าช่อง MangoTV ได้ปรับผังรายการครั้งใหญ่เมื่อเดือนมี.ค.และทำแคมเปญกระตุ้นเรทติ้งคนดูทำให้ในปัจจุบันมีคนดู MangoTV เพิ่มขึ้นอย่างมากและในส่วนรายได้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าหลังจากครบรอบการออกอากาศ 1 ปีในกลางเดือนมิ.ย.นี้ช่อง MangoTV จะเริ่มมีรายได้ใกล้ถึงจุดคุ้มทุนในช่วงไตรมาสที่สี่

ส่วนรายได้โฆษณาทางวิทยุเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากรายได้ของสถานีวิทยุ F.M. 102.0 MHz ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและมีการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเช่าสถานีวิทยุ 102 ลง  ส่งผลให้ผลประกอบการในธุรกิจวิทยุไม่มีปัญหาขาดทุนอีกแล้วและเริ่มทำกำไรตั้งแต่ไตรมาสแรก

อย่างไรก็ตามรายได้จากธุรกิจ New Media ลดลงร้อยละรวม  9 % มาจากการลดลงของรายได้ข่าวบนโทรศัพท์มือถือ( SMS)เป็นส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน  เนื่องจากผลกระทบจากการขยายตัวของ Social Media  และช่องทางการรับข่าวสารอีกหลายช่องทางที่เพิ่มขึ้น  แต่หากเทียบระหว่างไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วกับไตรมาสที่1 ปีนี้ยังสามารถรักษายอดรายได้ให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย  โดยบริษัทกำลังพัฒนาสินค้าใหม่ขายข่าวบนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนจากการรวบรวมข่าวของนักข่าวในเครือเนชั่นทั้งหมดมารวมบนแอพพลิเคชั่นใหม่

อีกเหตุผลหนึ่งที่รายได้ธุรกิจ New Media ลดลงมาจากการขายโฆษณาบนเวบไซต์ลดลงเล็กน้อย เพราะบริษัทไม่ได้เป็นตัวแทนขายโฆษณาบนเวบไซต์ของหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับในเครือเนชั่นอีกแล้ว   แต่เพิ่งเป็นตัวแทนขายโฆษณาเวบไซต์ใหม่อีก 3 เวบไซต์คือ .eduzones.com เวบไซต์ด้านการศึกษาอันดับหนึ่งที่มียอดเข้าชมวันละกว่า 80,000  UIP ,  .siamha.com เวบไซต์ในกลุ่มวัยร่นและคนทำงานที่มียอดเข้าชมวันละกว่า 250,000 UIP และ .thaigoodwill.com เวบไซต์ด้านการศึกษาที่มียอดเข้าชมวันละกว่า 40,000 UIP  โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้มากขึ้นในไตรมาสที่สอง  

นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในไตรมาสแรกบริษัทยังเข้าไปร่วมมือกับบริษัทผลิตโทรทัศน์แบบใหม่ 3 รายใหญ่คือ Sony, LG และ Sumsung ในการส่งข่าวและรายการให้สามารถรับชมผ่านโทรทัศน์รุ่นใหม่ในรูปแบบ Internet TV ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว  คาดว่าบริษัทจะสามารถหารายได้ทั้งทางตรงค่าสมาชิกกับทางอ้อมค่าโฆษษณาได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือต้นปีหน้า

ด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ของปี 2554 จำนวน 123.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาจาก  ประกอบด้วยต้นทุนขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนการผลิตรายการทาง MangoTV ซึ่งเป็นช่องใหม่และเริ่มแพร่ภาพในเดือนมิถุนายน 2553  รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จากการปรับโครงสร้างฝ่ายขายและฝ่ายบริหารเพื่อรองรับการขยายงานของบริษัท รวมทั้งการทำการตลาดเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์รายการ และช่องใหม่ของบริษัทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2011-06-09 18:19:42


ความคิดเห็นที่ 68 (3249068)

ไทยคมสนับสนุนลูกค้า จับมือนีลเส็นทำการสำรวจทีวีดาวเทียมเรตติ้ง ในประเทศที่ใช้บริการช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมประเภทส่งถึงบ้านผู้รับโดยตรง...

นางสาวนงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ร่วมลงนามกับบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด ในสัญญาความร่วมมือจัดทำผลสำรวจความนิยมในการรับชมช่องรายการโทรทัศน์หรือทีวีเรตติ้งสำหรับลูกค้าในประเทศที่ใช้บริการช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมประเภทส่งถึงบ้านผู้รับโดยตรง (Direct-to-Home) โดยการร่วมมือกันในการทำผลสำรวจครั้งนี้จะมีผลดีมากขึ้นแก่ผู้ใช้บริการดาวเทียมไทยคมทั้งในระบบซีแบนด์และเค-ยูแบนด์อยู่ในขณะนี้ 

ทั้งนี้ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ลูกค้าในด้านการวางแผนการตลาด การขายและการเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายการต่างๆ ผลสำรวจทีวีเรตติ้งของช่องรายการโทรทัศน์บนดาวเทียมไทยคม จะประกอบไปด้วยข้อมูลที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น จำนวนผู้ชมเฉลี่ยในแต่ละนาทีของแต่ละช่องรายการ (TVR) ข้อมูลการจัดลำดับความนิยมในการรับชม (Ranking) และข้อมูลจำนวนผู้ชมทั้งหมดที่ชมช่องรายการต่อวัน (Reach) เป็นต้น โดยบริษัทฯได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน

กรรมการผู้อำนวยการ  ไทยคม กล่าวต่อว่า ในฐานะที่บริษัทฯเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมเพื่อการออกอากาศโทรทัศน์มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี จึงอยากเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินงานของลูกค้า  โดยในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแนวโน้มการรับชมโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากมีการขยายโอกาสในการออกอากาศโทรทัศน์ของผู้จัดทำรายการรายใหม่ๆเข้ามาในตลาด  แนวโน้มการจัดทำรายการโทรทัศน์ที่มีการเจาะเฉพาะกลุ่มผู้ชมมากขึ้น 

นอกจากนี้อุปกรณ์จานดาวเทียมก็มีราคาถูกลง บวกกับฐานลูกค้ารับชมโทรทัศน์ในต่างจังหวัดขยายตัวเนื่อง  โดยติดตั้งจานดาวเทียมเพิ่มสูงขึ้น เพราะผู้ชมจะได้รับชมภาพที่คมชัดกว่าการรับชมผ่านเสาก้างปลาทั่วไป และมีรายการประเภทฟรีทีวีมากขึ้นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้วงการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมมีความเคลื่อนไหวในการเข้าถึงผู้ชมเป็นอย่างมาก ซึ่งหมายถึงแนวโน้มการเติบโตของการโฆษณาผ่านช่องรายการของลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ดังนั้น จึงเล็งเห็นถึงประโยชน์ในการจัดทำทีวีเรตติ้งดังกล่าว  เพื่อช่วยสนับสนุนส่งเสริมลูกค้าในการวางแผนการตลาด การขายแอร์ไทม์ รวมถึงการวางผังรายการที่เหมาะสมกับช่วงเวลาและความสนใจของลูกค้าแต่ละกลุ่ม 

นายสินธุ์ เภตรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้จัดทำทีวีเรตติ้งมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่เดิมจะมีเฉพาะช่องโทรทัศน์ฟรีทีวี เช่น 3 5 7 9 11  ตอนนี้ต้องยอมรับว่าแนวโน้มของโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมกำลังมาแรงเพราะผู้ชมมีรายการให้เลือกรับชมหลากหลายตามความชอบของแต่ละบุคคล  นอกจากนี้ฐานผู้ชมก็มีการขยายไปยังต่างจังหวัดหรือในพื้นที่ห่างไกลเพิ่มมากขึ้นเพราะพื้นที่ให้บริการของดาวเทียมครอบคลุมทั่วประเทศ การที่ผู้ให้บริการดาวเทียมคือบมจ.ไทยคมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำเรตติ้งโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมย่อมส่งผลดีแก่กลุ่มลูกค้าทั้งเจ้าของรายและผู้ชมทางบ้าน  เพราะนอกจากจะมีความน่าเชื่อถือในแง่ของความเป็นกลางที่ไม่ได้สนับสนุนช่องโทรทัศน์ใดโดยเฉพาะ  สำหรับผู้ชมทางบ้านก็จะรับประโยชน์ในแง่ที่เจ้าของรายการมีการปรับปรุงการนำเสนอรายการที่สามารถชนะใจผู้ชมทางบ้านได้  โดยอาศัยเรตติ้งเป็นเกณฑ์พิจารณา  รวมทั้งเรื่องของเม็ดเงินค่าโฆษณาที่จะมีเข้ามาอีกด้วย.



 


ไทยคม’ ต้อนรับ คณะศึกษางานจาก ‘สถาบันอิศรา’ มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย พร้อมบรรยายให้ความรู้เรื่องดาวเทียม...

ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับคณะศึกษางานจาก สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย นำโดย นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา และนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรด้านสื่อสารมวลชน ในโครงการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 3 โดยไทยคมได้จัดบรรยาย และให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับดาวเทียม รวมถึงนำคณะศึกษางานเข้าเยี่ยมชมห้องพิพิธภัณฑ์ดาวเทียม และชมการทำงานของห้องปฏิบัติการควบคุมดาวเทียม ณ สถานีดาวเทียมไทยคม นนทบุรี

ผู้แสดงความคิดเห็น copa tabata วันที่ตอบ 2011-06-23 21:55:46



<< ก่อนหน้า 1 [2]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.