ReadyPlanet.com


รวมข่าวดาวเทียม วันที่3พ.ย2015


 “จิสด้า“ เผยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงต้นตอคราบน้ำมันปนเปื้อนในอ่าวไทย



สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ตรวจสอบภาพถ่ายจากดาวเทียมเพื่อตรวจสอบเหตุคราบน้ำมันปนเปื้อนในทะเลและชายหาดใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบคราบน้ำมันตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.2558 บริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง รอยต่อ จ.สมุทรสงครามและ จ.สมุทรสาคร คาดว่าคราบน้ำมันมาจากกลุ่มเรือหรือสิ่งปลูกสร้างบางอย่าง ซึ่งขณะนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำลังเร่งตรวจสอบ

ภาพถ่ายดาวเทียมถ่าย เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2558 เวลา 18.30 น. พบคราบน้ำมันครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 111 ตารางกิโลเมตรบริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง จนถึง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ระยะทางประมาณ 38 กิโลเมตร เมื่อคำนวณจากกระแสน้ำพบว่าเดินทางด้วยความเร็ว 0.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 16.8 กิโลเมตรต่อวัน จากวันที่ 24 ต.ค.ถึงวันนี้ (29 ต.ค.) เป็นเวลา 5 วัน คราบน้ำมันมาถึงบริเวณชายหาดสวนหลวงราชินี ชายหาดหัวหิน เขาตะเกียบ ซึ่งเป็นจุดที่คลื่นลมซัดคราบน้ำมันเข้าไปติดจำนวนมาก และที่ปราณบุรีก็เริ่มมีคราบน้ำมันลอยไปติดบ้างแล้ว

นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศอธิบายภาพถ่ายดาวเทียมว่าบริเวณจุดเริ่มต้นของคราบน้ำมันมีลักษณะคล้ายเรือหรือสิ่งปลูกสร้างในทะเลที่มีจำนวนมาก

"มีความเป็นไปได้ว่าวัตถุที่เห็นบริเวณจุดเริ่มต้นของคราบน้ำมันนั้นเป็นกลุ่มเรือที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง 3-4 กิโลเมตร เรายังไม่แน่ใจว่ากลุ่มวัตถุนี้คืออะไร ซึ่งขณะนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจแล้ว" นายอานนท์กล่าว

เมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) คราบน้ำมันได้ถูกซัดเข้าชายหาดวนอุทยานปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้ว หลังจากช่วง 2-3 ที่ผ่านมาได้ซัดขึ้นชายหาดหัวหิน ตั้งแต่เขาตะเกียบ ไปจนถึงเขตวังไกลกังวล ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่ยังพบซากลูกโลมาอายุไม่ถึง 2 ปี ลอยเกยหาดบริเวณเดียวกับที่พบคราบน้ำมัน ทำให้กังวลว่าคราบน้ำมันดังกล่าวอาจส่งผลกระทบในระยะยาวหากเก็บล่าช้าเกินไป

นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่าขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงเพราะแดดร้อนจัดทำให้คราบน้ำมันละลายลงไปปนเปื้อนในทรายซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสัตว์หน้าดิน และทำให้ยากต่อการกำจัด

ส่วนบริเวณชายหาดหัวหินฝั่งทิศเหนือ ตั้งแต่ชายหาดสวนหลวงราชินี จนถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม พบเศษขยะและคราบน้ำมันเพียงเล็กน้อย ขณะที่น้ำทะเลใสกว่าช่วงสองวันที่ผ่านมา หาดด้านทิศใต้ตั้งแต่หน้าโรงแรมเซนทารา หัวหิน จนถึงเขาตะเกียบ พบคราบน้ำมันน้อยลง ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดมกำลังตักคราบน้ำมันตลอดทั้งวัน

ขณะที่หมู่เรือรักษาการณ์วังไกลกังวลนำเรือตรวจการณ์สำรวจคราบน้ำมันระยะ 5 ไมล์ทะเล พบแผ่นฟิมล์คราบน้ำมันเพียงเล็กน้อย 

นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณะบดีคณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มองว่าหลังจากนี้ 2-3 วัน จะยังคงมีคราบน้ำมันซัดเข้าหาฝั่งต่อเนื่องพร้อมเสนอให้นำทุ่นดักจับไขมัน
จากท่าเรือแหลมฉบัง มาดักคราบน้ำมันในทะเล เพื่อไม่ให้ซึมสู่ชายหาดมากไปกว่านี้ และแก้ปัญหาแบบบูรณาการ

ส่วนการลาดตระเวนสำรวจคราบน้ำมันของกองทัพเรือภาคที่ 1 พบคราบน้ำมันเบาบางลงอย่างมาก มีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มใส ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ และปนเปื้อนอยู่กับขยะ บริเวณชายหาดของวนอุทยานปราณบุรี ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญ ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้


ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2015-11-03 06:44:22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3890882)

ปิ๊งสอนนักธรรมผ่านทีวีดาวเทียม

จากการประชุมเลขานุการเจ้าคณะเขต เจ้าคณะอำเภอ เขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ หนกลาง และภาค 12 เพื่อชี้แจงแนวทางการจัดการเรียนการสอนและสอบธรรมศึกษาในสถานศึกษา ที่วัดสามพระยา พระราชวรมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม ในฐานะผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง กล่าวว่า การจัดสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษาในปี 2558 ถือเป็นปีแรก จึงอาจจะเกิดความไม่เข้าใจระหว่างคณะสงฆ์และหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอ ซึ่งคณะสงฆ์หารือกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว

ด้านพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะที่ปรึกษาแม่กองธรรมฯ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานแม่กองธรรมฯ บันทึกข้อตกลงกับ ศธ.จัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษานั้น เพื่อเป็นการต่อยอด สำนักงานแม่กองธรรมฯ เตรียมหารือกับ ศธ. หาแนวทางจัดการสอนนักธรรม และธรรมศึกษา ผ่านโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม ลักษณะเดียวกับมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม วังไกลกังวล ซึ่งจะถ่ายทอดการสอนของสำนักเรียนในส่วนกลาง ไปยังวัดที่อยู่ห่างไกล และจะมีการถ่ายทอดการสอนธรรมศึกษาเพื่อให้สถานศึกษา และชาวบ้านที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้หลักธรรมด้วย.
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 06:52:05


ความคิดเห็นที่ 2 (3890884)

 เปลี่ยนแปลงขึ้นในซีรีส์ปูยี...จักรพรรดิโลกไม่ลืม

เปลี่ยนแปลงขึ้นในซีรีส์ปูยี...จักรพรรดิโลกไม่ลืม : Now Watch 
              อังคารนี้ (27 ต.ค.) เมื่อ “ปูยี” ถูกคุมขังอยู่ในศูนย์ควบคุมนักโทษของพรรคคอมมิวนิสต์ได้ระยะหนึ่ง เขาเริ่มปรับตัวและยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เขาทำตัวดีขึ้น เข้าใจสถานการณ์มากขึ้น

              แม้คนรอบข้างบางคน อาจคิดว่าเขาเสแสร้ง หรือมีความคิดบางอย่างแอบแฝง แต่สำหรับตัวเขา เขารู้ว่าตัวเองนั้นเป็นอย่างไร

              จากการเสียชีวิตของ “หยงเหยียน” ทำให้ศูนย์ควบคุมนักโทษ พยายามหากิจกรรมมาให้เหล่านักโทษได้ทำร่วมกัน เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้สึกผ่อนคลาย และไม่มีความคิดหวาดระแวงทางศูนย์ควบคุม ที่สำคัญเพื่อเป็นการสลายพฤติกรรมบางอย่างของเหล่านักโทษด้วย

              ซึ่งทุกกิจกรรมปูยีได้เข้าร่วมกับเหล่านักโทษคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี และการที่ปูยีทำตัวดีขึ้น เขาจึงขอหัวหน้าศูนย์ควบคุมนักโทษ เพื่อจะออกไปเยี่ยม “อี้ฉิน” ภรรยาของเขา เพราะเขารู้สึกคิดถึงนาง และอยากรู้ว่านางมีความเป็นอยู่อย่างไร

              แต่เนื่องจากทางศูนย์มีกฎระเบียบ ไม่ปล่อยให้นักโทษออกไปจากศูนย์ควบคุมได้ ถ้าเขายังไม่พ้นผิด งานนี้ปูยีจึงทำได้เพียงแค่เขียนจดหมายถึงนาง และขอให้นางมาเยี่ยมเขาบ่อยๆ

              ซึ่งการมาเยี่ยมในครั้งนี้ของอี้ฉิน ปูยีไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้เลยว่า นางจะมีข่าวมาแจ้งเขาด้วย ข่าวที่อี้ฉินนำมาแจ้งปูยีคืออะไร จะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ติดตามได้ในซีรีส์ The Last Emperor…ปูยี จักรพรรดิโลกไม่ลืม ตอน เปลี่ยนแปลงขึ้น ในวันอังคารที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 20.30-21.30 น. ทางช่อง NOW26 (ทรูวิชั่นส์, ดาวเทียม, เคเบิลช่อง 36 จาน PSI ชมระบบ HD ได้ทางช่อง 436) หรือรับชมออนไลน์ได้ทาง www.now26.tv
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 06:57:06


ความคิดเห็นที่ 3 (3890885)

 "แสงเหนือ" หนังเปิดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้


เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์ : "แสงเหนือ" หนังเปิดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 11 : โดย...พี่ฮัมมิ่งเบิร์ด tan12_aa@hotmail.com 
 
                      ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แจ้งว่า สสวท. ร่วมกับสถาบันเกอเธ่ประเทศไทย และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พร้อมทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจะจัดพิธีเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 11 ในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2558 เวลา 13.00-15.30 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพมหานคร โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ) พร้อมทั้งชมภาพยนตร์เปิดเทศกาลจากประเทศนอร์เวย์

เรื่อง “Northern Lights : A Magic Experience” หรือ “แสงเหนือ ประสบการณ์มหัศจรรย์” จากตำนานสู่ความเป็นวิทยาศาสตร์ความยาว 27 นาทีของสารคดีที่จะพาเดินทางสำรวจแสงเหนือจากภาพดาวเทียมของนาซา ที่จะเติมเต็มเรื่องราวของแสงเหนือ และการค้นพบของคริสเตียน เบิร์คแลนด์ และการทดลองเทอร์เรลลา หรือลูกบอลแม่เหล็กจำลองที่ใช้แทนโลก สารคดียังพาไปรู้จักเคล็ดลับการถ่ายรูปแสงออโรร่าให้ชัดเจน และลำดับภาพการถ่ายแสงเหนือ
 
                      เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 11 ประจำปี พ.ศ.2558 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน-20 ธันวาคม 2558 ในหัวข้อ “ปีสากลแห่งแสง” (International Year of Light 2015) โดยผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่เว็บไซต์ http://sciencefilm.ipst.ac.th/สำหรับการเข้าชมภาพยนตร์เป็นหมู่คณะสามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่ศูนย์ฉายทุกศูนย์
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 06:59:26


ความคิดเห็นที่ 4 (3890888)

 เกาะเฟรเซอร์(จบ)ในเรื่องเล่าข้ามโลก

เกาะเฟรเซอร์(จบ)ในเรื่องเล่าข้ามโลก : Now Watch 
             อาทิตย์นี้ยังคงอยู่กันที่เกาะเฟรเซอร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย ในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ทีมงานเรื่องเล่าข้ามโลกเดินทางไปถ่ายทำรายการ ที่นี่ต้องบอกว่านอกจากจะเป็นมรดกโลกแล้ว บนเกาะเฟรเซอร์ยังมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจอีกมาก

             ความพิเศษของที่นี่อาจไม่เป็นที่สังเกตได้ชัดมากนัก เพราะว่าถ้าเรามองดูจากเกาะเฟรเซอร์ เราจะมองเห็นเพียงความสวยงามของชายหาด ท้องทะเล และทิวทัศน์รอบๆ เกาะ แต่เมื่อสังเกตดูอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าพื้นผิวของเกาะเฟรเซอร์ไม่ใช่พื้นดิน แต่ว่าเกิดจากการทับถม สะสม ของซากปะการัง ซากพืช และซากสัตว์ ยาวนานนับล้านปี ทำให้พืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิตต่างปรับตัวให้อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ต่างจากบริเวณอื่นของโลก รวมถึงที่นี่ยังเหมาะที่จะเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ธรรมชาติได้ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่ง

             นอกจากพื้นผิวของเกาะเฟรเซอร์ที่น่าสนใจแล้ว บนชายหาดยังมีจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง นั่นคือ ซากเรือ SS.Maheno ซึ่งเป็นซากเรือสัญชาติอังกฤษ ที่นำมาวิ่งบนเส้นทางระหว่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย และเรื่องราวของเรือ SS.Maheno ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าสนใจ รวมถึงเรื่องราวเกาะเฟรเซอร์แห่งนี้ด้วย
 
             ติดตามทั้งหมดนี้ได้ในรายการ เรื่องเล่าข้ามโลก ตอน เกาะเฟรเซอร์ (ตอนจบ) ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมนี้ เวลา 11.00-11.30 น. ทางช่อง NOW26 (ทรูวิชั่นส์, ดาวเทียม, เคเบิลช่อง 36 จาน PSI ชมระบบ HD ได้ทางช่อง 436) หรือรับชมออนไลน์ได้ทาง 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:01:00


ความคิดเห็นที่ 5 (3890890)

 เหมือนปาฏิหาริย์! เฮอริเคนแพทริเซีย กลายเป็นโซนร้อน ขณะผ่านเม็กซิโก


(ภาพถ่ายดาวเทียม เฮอริเคนแพทริเซียอ่อนกำลังกลายเป็นพายุโซนร้อน เมื่อ 24 ต.ค.)

โล่งอก...เฮอริเคนแพทริเซีย อ่อนกำลังฮวบฮาบ ขณะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง พัดผ่านเม็กซิโก จากที่ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุ 325 กม./ชม. เหลือเพียง 80 กม./ชม.เท่านั้น

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าพายุเฮอริเคน แพทริเซีย (Patricia) ที่ได้สร้างความหวาดวิตกให้แก่ชาวเม็กซิโกอย่างมาก เนื่องจากมีความรุนแรงในระดับ 5 จนนับเป็นเฮอริเคนที่มีความรุนแรงมากที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ แซงหน้าไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่ถล่มฟิลิปปินส์ 2556 โดยเฮอริเคนแพทริเซียมีความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลางพายุสูงถึง 325 กม./ชม. ขณะเคลื่อนตัวผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มุ่งหน้าจ่อถล่มขึ้นฝั่งทางภาคตะวันตกของเม็กซิโก เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ต.ค. จนต้องมีการอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายพันคนว่า เดชะบุญที่ความรุนแรงของเฮอริเคน แพทริเซียได้ลดลงอย่างฮวบฮาบ เหลือเพียงแค่ระดับพายุโซนร้อน ขณะพัดผ่านประเทศเม็กซิโกเมื่อวันที่ 24 ต.ค. จึงไม่สร้างความเสียหายรุนแรงเท่าที่วิตกกังวลกันก่อนหน้า

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ ประกาศว่า เฮอริเคนแพทริเซียได้ลดความรุนแรงลงมากขณะเคลื่อนตัวผ่านเม็กซิโก โดยมีความเร็วลมลดลงเหลือเพียง 80 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ยังคงแจ้งเตือนประชาชนในเม็กซิโกว่า ยังมีความเสี่ยงที่จะประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก

ขณะที่ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานด้วยว่า ขณะนี้ พายุแพทริเซียได้เคลื่อนตัวไปทางเหนือ ค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก ซึ่งจะทำให้หลายรัฐ อาทิ นายาริต, จาลิสโก, เผชิญหน้ากับฝนตกรุนแรงในวันเสาร์ที่ 24 ต.ค.นี้
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:04:16


ความคิดเห็นที่ 6 (3890891)

 ชั่งน้ำหนักวัวจากอวกาศ:เวิลด์วาไรตี้


             เรื่องของการชั่งน้ำหนักอาจจะเป็นเรื่องปวดใจของสาวๆ หลายคน เพราะเห็นเครื่องชั่งน้ำหนักทีไรก็จะเกิดความรู้สึกว่า “อยากรู้แต่ไม่อยากถาม” ทุกที ที่อยากรู้ก็คืออยากรู้ว่าตัวเองน้ำหนักมากน้อยเพียงใด แต่ที่ไม่อยากถามก็เพราะไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นอีกกี่กิโลหลังจากห้ามใจกินของอร่อยเมื่อคืนไม่ได้
 
             แต่เรื่องการชั่งน้ำหนักกลับเป็นเรื่องที่ใหญ่โตระดับชาติของออสเตรเลีย ประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่เท่ากับทวีปทวีปหนึ่ง และมีการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วัว” ที่มีเนื้อชั้นดีเป็นที่นิยมไปทั่วโลก การชั่งน้ำหนักวัวในพื้นที่เลี้ยงบางแห่งที่มีความกว้างเท่ากับประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งบนดินแดนอันกว้างใหญ่ของออสเตรเลียนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะต้อนวัวทีละตัวๆ มายืนบนตาชั่ง
 
             ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหารัฐบาลออสเตรเลียจึงร่วมมือกับกองทุนพัฒนาของเอกชนพัฒนาเทคโนโลยีการชั่งน้ำหนักวัวด้วยดาวเทียมที่เคลื่อนตัวผ่านน่านฟ้าออสเตรเลียทุกวัน เพื่อตรวจวัดสภาพการกินอาหารของวัวแต่ละตัว ตรวจจับพัฒนาการของว่าที่เนื้อสเต๊กชั้นดีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ
 
             ระบบนี้เริ่มนำมาใช้ในสถานีเลี้ยงวัวในเขตนิวคาสเซิล วอเตอร์ส รัฐนอร์ธเทิร์น เทอริทอร์รี ที่มีพื้นที่สำหรับเลี้ยงวัว 55,000 ตัว ในอาณาจักรขนาด 1 หมื่นตารางกิโลเมตร!! (ใหญ่กว่าสิงคโปร์ราว 12 เท่า)
 
             ที่ผ่านมาผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในออสเตรเลียจะยอมกัดฟันชั่งน้ำหนักวัวที่เลี้ยงในฟาร์มขนาดใหญ่เท่าประเทศเฉลี่ยปีละ 1.5 ครั้ง และมีวัวราว 2% ที่อยู่ในฟาร์มทั่วประเทศได้รับการตรวจตราติดตามการเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่และต้นทุนแรงงานในการต้อนวัวเพื่อมาชั่งน้ำหนักแต่ละครั้งนั้นสูงมาก
 
             แซลลี่ เลโก หัวหน้าโครงการวิจัยการชั่งน้ำหนักวัวด้วยดาวเทียม แห่งสำนักงานอุตสาหกรรมหลักรัฐนอร์ธเทิร์น เทอร์ริทอรี่ อธิบายว่าการเก็บข้อมูลเรื่องน้ำหนักวัวและสุขภาพในแต่ละครั้งจะต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก และแรงงานมหาศาล
 
             แต่ด้วยเทคโนโลยีที่รัฐบาลรัฐนอร์ธเทิร์น เทอรทอรี ร่วมลงทุนวิจัยกับศูนย์ความร่วมมือการวิจัยระบบการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ห่างไกล ที่เป็นองค์กรกองทุนเอกชนเพื่อการพัฒนาเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ทำให้ต้นทุนการติดตามตรวจสอบสุขภาพและการชั่งน้ำหนักวัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
 
             โดยจะมีการติดตั้งระบบเครื่องชั่งในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำที่วัวต้องเดินมากินเป็นประจำ และวัวแต่ละตัวจะถูกติดป้ายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงตัว ระบบจะตรวจสอบตัวตนของวัวแต่ละตัวและชั่งน้ำหนักไปพร้อมกันในทุกวันที่วัวมากินน้ำ
 
             ข้อมูลที่ได้จะนำส่งไปยังดาวเทียมที่โคจรเหนือพื้นที่ทวีปออสเตรเลียก่อนส่งต่อไปยังสำนักงานผู้จัดการฟาร์ม
 
             การที่ออสเตรเลียต้องพัฒนาระบบบริหารฟาร์มวัวให้ดียิ่งขึ้นนั้น ก็เพื่อตอบสนองความต้องการเนื้่อวัวในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และออสเตรเลียก็สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของประเทสที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่แห้งแล้งและทะเลทรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หารายได้จากการส่งออกเนื้อวัวที่ผลิตขึ้นมาได้ในพื้นที่เหล่านี้เพิ่มขึ้นนั่นเอง
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:06:17


ความคิดเห็นที่ 7 (3890894)

 "ติ๋มทีวีพูล" มึนช่องโลก้า-ไทยทีวีจ่อจอดำ กสท.ลั่นไม่จ่ายเงินประมูลใน 30 วันเจอแน่

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท.มีมติให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ช่อง 15 โลก้า และช่อง 17 ไทยทีวี ของนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือติ๋ม ทีวีพูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด เป็นเวลา 90 วัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2558นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ หากภายใน 30 วัน หลังจากมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต ทางไทยทีวีนำเงินค่าประมูล งวดที่ 2 วงเงิน 288.46 ล้านบาท พร้อมค่าปรับในอัตรา 7.5% ต่อปีมาชำระได้ ก็จะยกเลิกการพักใช้ใบอนุญาต แต่หากไม่มาชำระก็ยังคงพักใช้ใบอนุญาตต่อไปจนครบ 90 วัน ก็จะเพิกถอนใบอนุญาตทันที ซึ่งจะทำให้ช่อง 15 และช่อง 17 ดังกล่าวเป็นช่องที่ไม่มีรายการใดๆ หรือเกิดปรากฏการณ์จอดำทันที นอกจากนี้ บอร์ด กสท.ยังมีมติว่า หากมีการเพิกถอนใบอนุญาตทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่อง ก็จะไม่นำมาเปิดประมูลใหม่เป็นเวลา 1 ปี โดย กสทช.จะทำหนังสือแจ้งให้ทางไทยทีวีรับทราบและแจ้งศาลปกครองถึงการดำเนินการดังกล่าวของ กสทช.เนื่องจากไทยทีวีได้ยื่นฟ้องร้อง กสทช.ต่อศาลปกครองเมื่อช่วงที่ผ่านมา

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.ได้ออกประกาศแจ้งผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก ทั้งเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม หรือผู้ให้บริการทีวีดิจิตอล ที่นำทีวีดิจิตอล 24 ช่องมาออกอากาศซ้ำนอกเหนือจากหมวดหมู่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (มัสต์แคร์รี่) ว่า สามารถโฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละ 6 นาที รวมแล้วเฉลี่ยทั้งวันต้องไม่เกินชั่วโมงละ 5 นาที ตามมาตรา 28 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551.
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:27:42


ความคิดเห็นที่ 8 (3890895)

 สั่งห้ามทีวีโฆษณาเกิน 6 นาที/ชม.ฝ่าฝืนปรับ

กสทช. ประกาศห้าม "เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม ทีวีดิจิตอล" ที่นำรายการทีวีดิจิตอลมาออกอากาศนอกเหนือจากมัสแครี่โฆษณาได้ไม่เกิน ชม. ละ 6 นาที

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศแจ้งผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม) หรือผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบดิจิตอล (ทีวีดิจิตอล) ที่นำบริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลมาเผยแพร่ออกอากาศซ้ำนอกเหนือจากหมวดหมู่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (Must Carry) ว่า สามารถโฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละ 6 นาที รวมแล้วเฉลี่ยทั้งวันต้องไม่เกินชั่วโมงละ 5 นาที ตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 

นายฐากร. กล่าวอีกว่า หากฝ่าฝืน จะถือเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ตามมาตร 31 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ประกอบกับข้อ 5 (8) ของประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ซึ่ง กสทช. จะพิจารณาปรับทางปกครองไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ตามมาตรา 77 พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ประกอบกับข้อ 8 และข้อ 9 ของประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 

“กสทช. คุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากการที่ผู้ประกอบการโฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด หากประชาชนท่านใดดูรายการแล้วพบมีการโฆษณาเกินกำหนด สามารถแจ้งมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 ฟรี” นายฐากร กล่าว
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:29:19


ความคิดเห็นที่ 9 (3890897)

 กสทช.ขู่เอาผิดทีวีดาวเทียม-ดิจิทัลโฆษณาเกินกำหนด


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศแจ้งผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก.......

ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน จะถือเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ตามมาตร 31 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/digital/394667
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:32:22


ความคิดเห็นที่ 10 (3890901)

 ชาวบ้านภูมิซรอลตกใจ เสียงสนั่นเหนือเขาพระวิหาร ที่แท้เศษดาวเทียมตก


เรื่องเล่าเช้านี้  ชาวบ้านภูมิซรอลตกใจ เสียงสนั่นเหนือเขาพระวิหาร ที่แท้เศษดาวเทียมตก (นาทีที่ 14.10)

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่หมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร เกิดมีเสียงระเบิดดังสนั่นบนท้องฟ้า ซึ่งสามารถได้ยินไปถึง อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะต่างก็หวาดกลัว คิดว่ามีเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนเกิดขึ้นอีก

หลังเสียงระเบิดสงบลง ผู้นำหมู่บ้านได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านพบวัตถุโลหะขนาดต่างๆ ลอยตกลงมาจากบนท้องฟ้า กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณพื้นที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์

นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า หลังจากสิ้นเสียงระเบิด ตนได้ออกสำรวจไปตามหมู่บ้านต่างๆ พบว่า มีชิ้นส่วนคล้ายอะลูมิเนียม ขนาดกว้าง 5 ซม. ยาว 150 ซม. ตกใส่หลังคาบ้านเลขที่ 366 บ้านโนนสว่างพัฒนา ม.9 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ บ้านของ นางรัชนี พานพบ หลังคาทะลุได้รับความเสียหาย
 
นอกจากนั้น ยังพบชิ้นส่วนลักษณะเหมือนกัน แต่ขนาดต่างกันตกอยู่กระจายไปในพื้นที่หลายหมู่บ้าน เช่นที่ทางสามแยกหมู่ บ.ภูมิซรอล ม.12 ต.เสาธงชัย บ้านเสาธงชัย ม.1 ต.เสาธงชัย และพบที่ลำห้วยตาเงิด บ.ภูมิซรอล ม.13 ต.เสาธงชัย
 
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย โรจนวัฒนางกูร ผกก.สภ.บึงมะลู กล่าวว่า เสียงระเบิดที่ได้ยินและมีเศษวัตถุหล่นลงมา สันนิษฐานว่า จะเป็นดาวเทียมเก่าที่หมดอายุแล้ว และระเบิดทำลายตัวเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
 
เมื่อปี 2554 และปี 2556 ก็เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว พบชิ้นหนึ่งตกอยู่ในป่าข้างทางใกล้กับ สภ.บึงมะลู ขาดกว้าง 50 ซม. ยาวประมาณ 80 ซม. ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมถึงเกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณหมู่บ้านใน ต.เสาธงชัย ชายแดนด้านเขาพระวิหารแล้ว
 
ซึ่งตนสันนิษฐานว่า ใต้ภูเขาซึ่งเป็นเส้นกั้นเขตแดนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ชายแดนเขาพระวิหาร อาจจะมีแร่อะไรบางอย่างที่มีแรงดึงดูดดาวเทียมเหล่านี้ให้ลอยมา เมื่อมาถึงชั้นบรรยากาศ ก็กระทบกับอากาศจนกระทั่งเกิดระเบิดขึ้น การเกิดระเบิดขึ้นครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:41:35


ความคิดเห็นที่ 11 (3890913)

 สมรภูมิ “ละคร” เดือด ดาวเทียมเปิดศึก “ฟรีทีวี”


กลายเป็นคอนเทนต์ "แรง" และช่วยสร้างชื่อให้กับทีวีไทย สำหรับคอนเทนต์ละครที่วันนี้ไม่ว่าจะเป็นช่องฟรีทีวี ทีวีดาวเทียม หรือเคเบิลทีวี ต่างต้องมีคอนเทนต์ละครมาเรียกเรตติ้งจากผู้ชมกันอย่างคึกคัก ส่วนหนึ่งมาจากวันนี้ การแข่งขันของอุตสาหกรรมบรอดแคสต์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น

แต่ทุกแพลตฟอร์มล้วนเป็นคู่แข่งในสมรภูมิเดียวกัน โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณา 6-7 หมื่นล้านบาท มาครอบครองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ประกอบกับด้วยพื้นฐานของทีวีไทยที่ได้วางรากฐานกันไว้ตั้งแต่แรก

โดยที่ฟรีทีวีช่องต่าง ๆ ได้จัดผังรายการ ด้วยการวางช่วงไพรมไทม์ไว้สำหรับคอนเทนต์นี้โดยเฉพาะ และจนกลายเป็นความเคยชินของผู้ชมว่า เวลาหลัง 20.00 น. คือช่วงเวลาดูละคร

ยิ่งถ้าละครเรื่องไหนที่โดนใจผู้ชม สนุกสนาน ออกรส ได้ใจผู้ชม จะส่งผลให้เรตติ้งแรงแบบฉุดไม่อยู่ จนขนาดว่าสินค้าต่าง ๆ ต้องวิ่งซื้อเวลาลงโฆษณากันแบบฝุ่นตลบ

ด้วยโอกาสจากเม็ดเงินโฆษณาที่วิ่งเข้าหา ทำให้ฟรีทีวีทุกช่อง เคเบิลทีวีทุกค่าย ต่างหันมาให้ความสำคัญและชูคอนเทนต์ละคร เป็นทัพหน้าในการกระชากเรตติ้งและเม็ดเงินโฆษณา ล่าสุดเป็นรายของ "ทรูวิชั่นส์" ที่กระโดดเข้ามาแจมอย่างเต็มตัว


"อาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแม้บริษัทจะมีคอนเทนต์ที่หลากหลายและมีความแข็งแกร่ง ทั้งภาพยนตร์ ข่าวสารและกีฬา แต่สำหรับคอนเทนต์ละคร ถือว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ยังคงต้องศึกษารายละเอียดอีกมาก

ล่าสุดได้เริ่มเปิดกล้องละครเรื่องบ่วงมาร จะออกอากาศประมาณต้นปี 2557 ทางช่อง ทรู 10 ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้ชมไทยที่ชอบดูรายการสด เรียลิตี้โชว์ และละครก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนไทยชื่นชอบ

"ช่องทรู 10 จะมีคอนเทนต์ที่หลากหลาย โดยการผลิตละครนั้นจะเน้นเป็นการจ้างบริษัทผู้จัดรุ่นใหม่ เพื่อผลิตละครให้แก่ทรูฯ โดยแต่ละปีคาดว่าจะใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท ซึ่งยังมีละครที่กำลังพิจารณาอีก 10 เรื่อง และอยู่ระหว่างวางแผนว่าจะวางละครให้ออกอากาศทุกวัน หรือเฉพาะแค่ 5 วันเท่านั้น"

อย่างไรก็ตามบริษัทได้วางตำแหน่งทางการตลาด ช่องทรู 10 ให้เป็นช่องรายการวาไรตี้ ฟรีทูแอร์ที่ออกอากาศในทุกแพลตฟอร์มก่อน หวังตอบโจทย์ผู้ชมทุกเพศทุกวัย มีคอนเทนต์ที่หลากหลายทั้งบันเทิง กีฬา ข่าว ภาพยนตร์ และละครที่กลายเป็นไฮไลต์ของช่อง

นอกจากนี้ ในอนาคตยังต่อยอดด้วยการปั้นช่องทรู 10 สำหรับพัฒนาเป็นช่องวาไรตี้ระบบความคมชัดสูง (เอชดี) เพื่อออกอากาศในระบบดิจิทัลทีวี หากบริษัทชนะการประมูลดิจิทัลทีวีที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบฯลงทุนสำหรับการประมูลดิจิทัลทีวีรวม 3 ช่องไว้กว่า 2,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คอนเทนต์โพรไวเดอร์อย่าง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก็วางช่อง 8 ให้เป็นช่องรายการวาไรตี้ ด้วยการผลิตคอนเทนต์เอง ทั้งหนัง เกมโชว์ ข่าว รวมถึงละคร ซึ่งสร้างกระแสให้ช่อง 8 เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ชมจำนวนหนึ่ง

เช่นเดียวกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่รีแบรนด์ช่องวัน ให้เป็นช่องรายการวาไรตี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการระดมยอดฝีมือในเครือแกรมมี่ทั้งหมด มานั่งแท่นผู้บริหารช่องวัน และจุดติดด้วยกระแสละคร "Hormones วัยว้าวุ่น"

"สุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์" ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดช่องวัน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ให้มุมมองว่า ปรากฏการณ์กระแสตอบรับจากซีรีส์ "Hormones วัยว้าวุ่น" ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ผลิตคอนเทนต์ทีวีดาวเทียม ที่ต้องคำนึงถึงคุณภาพที่ดี ถ้าคอนเทนต์ดี ไม่ว่าจะออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มไหน ผู้ชมก็จะติดตาม

ขณะที่เจ้าตลาดฟรีทีวี สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ก็ไม่นิ่งอยู่เฉยๆ กินบุญเก่าแต่กำลังเดินหน้า "บาลานซ์" ระหว่างฐานผู้ชมกลุ่มคนเมืองและต่างจังหวัดในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะ "คนเมือง" ที่ยังเป็นจุดอ่อนของค่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับคอนเทนต์เกมโชว์-วาไรตี้ และละคร โดยวางนโยบายใหม่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้น เพื่อปิดช่องว่างช่วงชิงฐานผู้ชมกลุ่มคนเมืองมาให้จงได้

สอดรับกับ "สุบัณฑิต สุวรรณนพ" ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด กล่าวว่า หัวใจความสำเร็จของช่อง คือ ความครบครันของคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ชม แต่ต้องยอมรับว่าละคร คือคอนเทนต์ที่อยู่ในช่วงไพรมไทม์ ทำให้แบรนด์สินค้าและเอเยนซี่โฆษณาต่างให้ความสำคัญ

ล่าสุดช่อง 7 ยังเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตหน้าใหม่เข้ามาสร้างสีสันให้ช่องมากขึ้น เช่น บริษัท ดูมันดี จำกัด ของ "อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร" บริษัท มงคลการละคร จำกัด ของ "ตะวัน จารุจินดา" หรือ "นิรัตติศัย กัลย์จาฤก" ที่แยกออกจากบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด มารับผลิตละครเรื่องใหม่ให้แก่ช่อง 7 ด้วย รวมถึงยังมีนักแสดงในสังกัดอีกหลายรายที่เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละครให้แก่สถานี

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ก็เพิ่มเวลาการออกอากาศของละครช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เพิ่มขึ้นอีก 1 เบรก หรือประมาณ 15 นาทีในครึ่งปีหลังนี้ นั่นก็หมายถึงเม็ดเงินโฆษณาจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น หากจะเรียกว่า "ละคร" กลายเป็นขุมทรัพย์สำคัญไม่เพียงแต่ฟรีทีวี แต่รวมถึงทีวีดาวเทียม ก็คงไม่ผิดนัก
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 07:57:21


ความคิดเห็นที่ 12 (3890914)

 เปลี่ยนจานดาวเทียมธรรมดาๆให้เก๋ขึ้น





ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 08:00:25


ความคิดเห็นที่ 13 (3890917)

ดาวเทียมรัสเซียตกมหาสมุทรอินเดียพรุ่งนี้



(14 ม.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีมีกระแสข่าวว่า ดาวเทียมของรัสเซียหลุดวงโคจรและมีแนวโน้มจะตกลงสู่พื้นโลก คาดว่าแถบประเทศอินเดีย บังกลาเทศ พม่า และไทยนั้น

ล่าสุดได้รับรายงานยืนยันจากทางการรัสเซียมาแล้วว่า ดาวเทียมโฟโบส-กรันท์ (Phobos-Grunt) จะตกลงสู่มหาสมุทรอินเดีย และจะไม่ทำให้ภาคพื้นดินได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) ประเทศไทย อาจจะเห็นเป็นเพียงลำแสงพุ่งผ่านแต่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น และไม่มีการยิงจรวดจากประเทศใดๆ ทั้งสิ้นขอให้ประชาชนอย่าตกใจกับลำแสงดังกล่าว - สำนักข่าวไทย

 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 08:04:39


ความคิดเห็นที่ 14 (3890921)

 ครอบครัวชาวจีนไม่เชื่อข้อมูลดาวเทียม “อินมาร์แซท“


ข้อมูลจากดาวเทียม "อินมาร์แซท" ของอังกฤษ ซึ่งทำให้ได้ข้อสรุปว่าเครื่องบิน เที่ยวที่ MH370 หายไป น่าจะตกลงในมหาสมุทรอินเดีย ข้อมูลนี้สร้างความเคลือบแคลงใจให้กับครอบครัวของผู้โดยสารชาวจีนที่ไม่พอใจทางการมาเลเซียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น

การแถลงอย่างชัดเจนของผู้นำมาเลเซีย ว่าเครื่องบินที่สูญหายไปน่าจะประสบเหตุตกในมหาสมุทรอินเดียและคนบนเครื่องทั้ง 239 คนน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด ข้อมูลนี้แทนที่จะทำให้ทุกอย่างกระจ่างชัดขึ้น แต่กลับยิ่งสร้างความไม่พอใจและทำให้ญาติบางคนมีความสงสัยมากขึ้นด้วยซ้ำ

สิ่งที่ทำให้ญาติไม่พอใจข้อแรกคือวิธีการแจ้งข่าว ก่อนที่ผู้นำมาเลเซียจะแถลงข่าวช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ได้โทรศัพท์แจ้งให้ญาติทราบเรื่องก่อน แต่บางคนได้รับทราบผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ที่มีข้อความว่า "สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่เราต้องสันนิษฐานว่า เครื่องบินเที่ยวบินที่ MH370 ได้หายไปและไม่มีใครบนเครื่องที่รอดชีวิต"

ข้อต่อมาที่ทำให้ญาติบางคนไม่พอใจ คือการสรุปของมาเลเซียที่ได้ข้อมูลมาจากดาวเทียม "อินมาร์แซท" ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทเอกชนของอังกฤษ เพราะสัญญาณดาวเทียมและระบบส่งสัญญาณ "ปิง" ที่อยู่ในเครื่องยนต์โรลสลอยด์ของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินอยู่ตรงไหน แต่พิกัดที่ได้มาจากการวิเคราะห์และคำนวณการส่งสัญญานครั้งสุดท้ายระหว่างระบบส่งสัญญาณ "ปิง" กับดาวเทียม นอกจากนี้ดาวเทียม "อินมาร์แซท" ยังเป็นดาวเทียมรุ่นเก่าซึ่งไม่มีระบบบอกพิกัดผ่านดาวเทียมหรือ GPS ทำให้ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ชัดเจนของเครื่องบินได้ ซึ่งญาติมองว่านี่ไม่ใช่หลักฐานที่เป็นรูปธรรม เพราะตอนนี้มาเลเซียยังไม่สามารถระบุจุดที่ชัดเจนได้ว่าเครื่องบินอยู่ตรงไหนกันแน่ แม้แต่ชิ้นส่วนเครื่องบินก็ยังหาไม่พบ

ถ้าย้อนกลับไปดูเส้นทางการค้นหาเครื่องบิน นับตั้งแต่วันที่เครื่องบินหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา จุดแรกของการค้นหาอยู่ในทะเลจีนใต้ระหว่างมาเลเซียกับเวียดนาม เนื่องจากเป็นจุดที่เครื่องบินขาดการติดต่อ ถัดมาการค้นหาได้ขยายวงกว้างไปยังช่องแคบมะละกา และทะเลอันดามัน เนื่องจากเป็นจุดที่เรดารของกองทัพจับสัญญานได้เป็นครั้งสุดท้าย ต่อมาดาวเทียมของออสเตรเลีย, จีน และฝรั่งเศสพบภาพวัตถุต้องสงสัยอยู่ในมหาสมุทรอินเดียที่อยู่ห่างจากเมืองเพิร์ธ ประมาณ 2,000-2,300 กิโลเมตร การค้นหาจึงพุ่งเป้ามาบริเวณนี้แทน แต่ข้อมูลล่าสุดจากการวิเคราะห์และคำนวณข้อมูลของดาวเทียม "อินมาร์แซท" กลับพบว่าจุดที่เครื่องบินตกน่าจะอยู่บริเวณนี้ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก

การหายไปของเครื่องบินลำนี้ยังคงเป็นปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับผู้โดยสาร และลูกเรือ 239 คน ทำไมเครื่องบินจึงเปลี่ยนเส้นทาง ทฤษฏีตอนนี้มีเรื่องของการก่อการร้าย,นักบินพยายามฆ่าตัวตายหรือแม้กระทั่งอาจจะเกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง และนักบินพยายามหาทางแก้ปัญหาแต่ไม่สำเร็จ ทั้งนี้หมดเป็นปริศนาที่ญาติของผู้สูญหายกำลังรอคำตอบ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 08:15:15


ความคิดเห็นที่ 15 (3890923)

 จีนใช้ดาวเทียมค้นหาเครื่องบินมาเลเซีย


(11 มี.ค.) สื่อทางการจีนรายงานว่า จีนกำลังใช้ดาวเทียมมากถึง 10 ดวง ในการติดตามค้นหาเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่สูญหายไป ขณะที่การค้นหาย่างเข้าสู่วันที่สี่แล้ว

ศูนย์ควบคุมดาวเทียมซีอานทางเหนือของจีนจะใช้ดาวเทียมที่ใช้ในการนำทาง ตรวจสอบสภาพอากาศ คมนาคมและอื่น ๆ เข้าช่วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย

ทั้งนี้ เกือบ 2 ใน 3 ของผู้โดยสารทั้งหมด 239 คนบนเที่ยวบินเอ็มเอช 370 เป็นชาวจีน และหากได้รับการยืนยันว่าผู้โดยสารเสียชีวิต จะถือเป็นโศกนาฏกรรมทางการบินครั้งร้ายแรงที่สุดอันดับสองของจีน

คณะเจ้าหน้าที่จาก 9 ประเทศได้แก่ จีน มาเลเซีย สหรัฐ สิงคโปร์ เวียดนาม นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และไทย ได้ร่วมปฏิบัติการนานาชาติเพื่อค้นหาเครื่องบินลำดังกล่าว. สำนักข่าวไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 08:19:07


ความคิดเห็นที่ 16 (3891286)

รายการทีวีภาคดึก มีอะไรให้ตื่นเต้นหวาดเสียวเป็นระยะ หากใครนอนดึกลองกดรีโมตไปตามช่องทีวีดาวเทียมดูเอาเองเถอะ!!


จะเห็นรูปแบบที่ว่านี้ชัดเจน

ผลุบๆโผล่ๆมาเป็นบางจังหวะ ก็การเหมาเวลาโฆษณายาเพิ่มสมรรถนะทางเพศของผู้ชาย

ยังเป็นสินค้าฮิตฮอต ตื่นตาตื่นใจ ยามดึก!!

ไม่ทราบว่า...สินค้าประเภทนี้ได้รับใบอนุญาตให้โฆษณาทางโทรทัศน์หรือไม่?

แต่สังเกตว่าจะมีเฉพาะช่องทีวีเท่านั้น ทำไมฟรีทีวีถึงไม่มีโฆษณาแบบนี้

ที่ว่าผลุบๆโผล่ๆมาเป็นระยะ เพราะสินค้าดังกล่าวได้หายไปจากจอทีวีดาวเทียมมาช่วงหนึ่ง แต่ระยะหลังกลับโผล่มาในบางวัน บางเวลา (ดึกๆ)

ที่ไม่ธรรมดา...เพราะสินค้าเพิ่มพลังทางเพศผู้ชายมักใช้ผู้หญิงเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือใช้พิธีกรหญิงคู่กับพิธีกรชายอวดอ้างสรรพคุณสินค้า

ไม่ใช่อวดอ้างธรรมดา แต่ทุกคำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากพิธีกร ล้วนสะเด็ดสะเด่า เห็นมโนภาพชัดเจน!!

พิธีกรหญิงบรรยายสรรพคุณชนิดถึงอกถึงใจ ไม่ต้องอธิบายก็คงนึกออก ไม่รู้มันหลุดรอดมาได้อย่างไร

เข้าใจว่าพอโดนตักเตือนทีก็หายไปสักพัก พอควันจางก็หวนกลับมาโฆษณาสนั่นจอกันอีก

ความจริงเราปล่อยปละละเลยทีวีดาวเทียม (บางช่อง) มานาน ไม่ค่อยเอาจริงเอาจังในเรื่องความเหมาะสม

ปล่อยให้ทำอะไรเสรีจนลืมนึกไปว่า ทีวีดาวเทียมก็เข้าสู่การรับรู้ของประชาชนแค่ปุ่มรีโมต

เพราะบ้านไหนติดกล่องดาวเทียมก็สามารถเข้าถึงข่าวสารและความบันเทิงของทีวีดาวเทียมได้ทุกช่อง

มีสาระบันเทิงเพื่อประชาชนก็ดีไป แต่ถ้าถึงขนาดเป็นภัย ก็ไม่เหมาะสมที่จะนำมาถ่ายทอดผ่านสื่อ

ตัวอย่างโฆษณาสินค้าเพิ่มพลังเพศผู้ชาย นี่ก็คือความไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะออกอากาศยามใดก็ตาม!!
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 14:06:16


ความคิดเห็นที่ 17 (3891288)

รายการทีวีภาคดึก มีอะไรให้ตื่นเต้นหวาดเสียวเป็นระยะ หากใครนอนดึกลองกดรีโมตไปตามช่องทีวีดาวเทียมดูเอาเองเถอะ!!


จะเห็นรูปแบบที่ว่านี้ชัดเจน

ผลุบๆโผล่ๆมาเป็นบางจังหวะ ก็การเหมาเวลาโฆษณายาเพิ่มสมรรถนะทางเพศของผู้ชาย

ยังเป็นสินค้าฮิตฮอต ตื่นตาตื่นใจ ยามดึก!!

ไม่ทราบว่า...สินค้าประเภทนี้ได้รับใบอนุญาตให้โฆษณาทางโทรทัศน์หรือไม่?

แต่สังเกตว่าจะมีเฉพาะช่องทีวีเท่านั้น ทำไมฟรีทีวีถึงไม่มีโฆษณาแบบนี้

ที่ว่าผลุบๆโผล่ๆมาเป็นระยะ เพราะสินค้าดังกล่าวได้หายไปจากจอทีวีดาวเทียมมาช่วงหนึ่ง แต่ระยะหลังกลับโผล่มาในบางวัน บางเวลา (ดึกๆ)

ที่ไม่ธรรมดา...เพราะสินค้าเพิ่มพลังทางเพศผู้ชายมักใช้ผู้หญิงเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือใช้พิธีกรหญิงคู่กับพิธีกรชายอวดอ้างสรรพคุณสินค้า

ไม่ใช่อวดอ้างธรรมดา แต่ทุกคำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากพิธีกร ล้วนสะเด็ดสะเด่า เห็นมโนภาพชัดเจน!!

พิธีกรหญิงบรรยายสรรพคุณชนิดถึงอกถึงใจ ไม่ต้องอธิบายก็คงนึกออก ไม่รู้มันหลุดรอดมาได้อย่างไร

เข้าใจว่าพอโดนตักเตือนทีก็หายไปสักพัก พอควันจางก็หวนกลับมาโฆษณาสนั่นจอกันอีก

ความจริงเราปล่อยปละละเลยทีวีดาวเทียม (บางช่อง) มานาน ไม่ค่อยเอาจริงเอาจังในเรื่องความเหมาะสม

ปล่อยให้ทำอะไรเสรีจนลืมนึกไปว่า ทีวีดาวเทียมก็เข้าสู่การรับรู้ของประชาชนแค่ปุ่มรีโมต

เพราะบ้านไหนติดกล่องดาวเทียมก็สามารถเข้าถึงข่าวสารและความบันเทิงของทีวีดาวเทียมได้ทุกช่อง

มีสาระบันเทิงเพื่อประชาชนก็ดีไป แต่ถ้าถึงขนาดเป็นภัย ก็ไม่เหมาะสมที่จะนำมาถ่ายทอดผ่านสื่อ

ตัวอย่างโฆษณาสินค้าเพิ่มพลังเพศผู้ชาย นี่ก็คือความไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะออกอากาศยามใดก็ตาม!!
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2015-11-03 14:06:29


ความคิดเห็นที่ 18 (3891301)

 เพิ่งตื่น! ป่าไม้หอบหลักฐานดำเนินคดีเจ้าของ “กระรอกบิน” บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติแม่ริม


เชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำหลักฐาน พิกัดภาพถ่ายดาวเทียมของสถานที่ตั้งกระรอกบินให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี หลังพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม หรือระยะความยาวกว่า 1,504 เมตร รวม 22 ฐาน ขณะที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของกระรอกบินแล้ว


       
       เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำหลักฐานภาพถ่ายพิกัดเส้นทางโหนสลิง ของแหล่งท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์กระรอกบินในตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มอบเป็นหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจแม่ริม เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าของกระรอกบิน แหล่งท่องเที่ยวเหินเวหา ที่นางหว่าง ฉี อายุ 32 ปี แพทย์หญิงสาวชาวจีน โหนเครื่องเล่นสลิงแบบเหินเวหาคอหักเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา
       
       สาเหตุมาจากความประมาทของพนักงานที่ดูแล จนมีการสั่งจัดระเบียบ และสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ทั้งหมด 14 แห่ง เป็นเวลา 3 วัน เพื่อสอบตรวจอุปกรณ์ และสถานที่ตั้ง ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเส้นทางการโหนสลิงของแหล่งท่องเที่ยวกระรอกบินจากฐานที่ 1 ถึงฐานที่ 22 มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ระยะความยาวถึง 1,504 เมตร รวมพื้นที่ความเสียหายกว่า 1 ไร่เศษ เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนในการกระทำความผิด


       
       นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ ทั้งหมดใน 5 อำเภอ กว่า 10 แห่งว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ล่าสุดนายสันติ ปิติคาม อายุ 55 ปี เจ้าของกระรอกบินถูกแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม และได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พร้อมทั้งใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกไปชั่วคราว 
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.การไฟฟ้า วันที่ตอบ 2015-11-03 14:10:15


ความคิดเห็นที่ 19 (3891794)

 ภาพข่าว: ลีโอเทค สานฝันเยาวชน มอบชุดจานดาวเทียมเพื่อการศึกษา100 ชุด ให้ จ.พิษณุโลก


ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกรับมอบจานดาวเทียมพร้อมอุปกรณ์จากบริษัทลีโอ เทคโนโลยี แอนด์มาเก็ตติ้ง จำกัด เพื่อนำไปมอบให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก

เช้าวันนี้ ( 24 เม.ย.58 ) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบจานดาวเทียมพร้อมอุปกรณ์ดาวเทียมครบชุดจากนางลภัสดา นามวงค์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทลีโอ เทคโนโลยี แอนด์มาเก็ตติ้ง จำกัด จำนวน 100 ชุด เพื่อไปจัดสรรและมอบให้กับโรงเรียนขยายโอกาสและโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดพิษณุโลก โดยมีพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และหัวหน้าส่วนราชการร่วมเป็นเกียรติในการรับมอบในครั้งนี้ สำหรับบริษัทลีโอ เทคโนโลยี แอนด์มาเก็ตติ้ง จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียม กล้องวงจรปิด โดยได้จัดทำโครงการเติมฝัน ปันโลกกว้าง ให้น้องหนูสุขใจไปกับลีโอเทค
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 17:35:58


ความคิดเห็นที่ 20 (3891795)

ไทยคมสนับสนุนภารกิจทหารเพื่อการศึกษาไทยแข็งแรง


บมจ.ไทยคม นำโดย นายปฐมภพ สุวรรณศิริ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการตลาด มอบชุดจานดาวเทียมในโครงการ “ไทยคิดไทยคม” ภายใต้แนวคิดการศึกษาไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง ซึ่งประกอบด้วยจานรับสัญญาณดาวเทียม กล่อง และอุปกรณ์รับสัญญาณ จำนวน 300 ชุด เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการศึกษา โดยความร่วมมือกับกองทัพบก โดยมีกำหนดติดตั้งให้กับโรงเรียนตามแนวชายแดนตะวันตก โดยมี พันเอก สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นผู้รับมอบ พร้อมกันนี้ ไทยคมยังได้จัดอบรมเทคนิคการติดตั้งจานดาวเทียม ให้แก่นายทหารผู้แทนจากหน่วยเฉพาะกิจฯ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นต่อเนื่องจากการฝึกอบรมภาคทฤษฎีและปฏิบัติในปีที่ผ่านมา ณ สถานีดาวเทียมไทยคม แคราย เมื่อเร็วๆ นี้
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 17:38:24


ความคิดเห็นที่ 21 (3891797)

 “MONO29” เปิดโปรแกรม 4 ซีรีส์ดังรับเทศกาลสงกรานต์ พลาดไม่ได้!!! เต็มอิ่ม..จุใจบนจอฟรีทีวี..ที่นี่ที่เดียว


ยังคงอัดแน่นความบันเทิงให้คอหนังซีรีส์ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับช่อง MONO29 ดิจิตอลทีวีช่อง 29 (เซ็ทท็อปบ็อกซ์) หรือ ช่อง 39 (จานดาวเทียม-เคเบิลทีวี) ส่งซีรีส์ชุดใหม่ 4 เรื่องรวด ออกอากาศรับสงกรานต์ ตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นไป

เรื่องแรกสำหรับคอซีรีส์จีนกำลังภายในโป รแกรม “เดอะบิกเกสต์ เลเจ้นด์ (The Biggest Legend)” นำ 7 จอมยุทธ์ออกมาสร้างความสนุกใน ‘7 กระบี่ไร้เทียมทาน (Seven Swordmen)’ออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 14.00 น.เรื่องราว 7 จอมยุทธ์ผู้กล้าคู่ 7 กระบี่ไร้เทียมทานสะท้านแผ่นดิน ที่ออกรบพิชิตเหล่ากองทัพทหารราชวงศ์ชิงที่ป่าเถื่อนเพื่อปกป้องชาวฮั่น แต่แม่ทัพแห่งราชวงชิง ก็ส่งผู้เยี่ยมยุทธ์เข้าไปแทรกแซงจนเกิดความแตกแยก...จอมยุทธ์ 7 กระบี่ที่แตกความสามัคคี จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคพิชิตกองกำลังทหารอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ชิงได้หรือไม่ เริ่มออกอากาศเป็นตอนแรก วันพุธที่ 8 เม.ย.58
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 17:40:31


ความคิดเห็นที่ 22 (3891801)

ไทยคมเร่งเชื่อมต่อโครงข่ายสื่อสาร ส่งจานดาวเทียมพร้อมวิศวกรกู้ภัยแผ่นดินไหวในเนปาล

บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เร่งเชื่อมต่อโครงข่ายการสื่อสารในพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเนปาล เบื้องต้นจัดส่งอุปกรณ์การสื่อสารผ่านดาวเทียม พร้อมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้าปฏิบัติการในเนปาลโดยทันที

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า“ไทยคมขอร่วมแสดงความเสียใจสำหรับความสูญเสียอันเนื่องมาจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ซึ่งส่งผลให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินครั้งใหญ่ ไทยคมในฐานะบริษัทดาวเทียมไทย ได้เร่งเข้าพื้นที่และประสานหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนคู่ค้าของเราในการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายการสื่อสารผ่านดาวเทียมในพื้นที่ประสบภัย เพราะในภาวะวิกฤต ไม่มีโครงข่ายสื่อสารใดจะมาทดแทนระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมได้ การมีระบบสื่อสารจะทำให้สามารถช่วยชีวิตและบรรเทาความเดือดร้อนได้อีกมาก โดยในขั้นต้นไทยคมได้จัดส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การรับ-ส่งสัญญาณดาวเทียม เข้าไปปฏิบัติการช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยรอบแรก ในวันที่ 29 เมษายนนี้ โดยเราจะยังคงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคู่ค้าเพื่อดำเนินมาตรการความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป”

การเข้าช่วยเหลือเพื่อกอบกู้โครงข่ายการสื่อสารในเหตุการณ์ภัยพิบัตินี้ ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจการให้บริการโครงข่ายการสื่อสารที่เชื่อมต่อระบบโทรคมนาคม ทั้งในภาวะปกติ รวมถึงกรณีภัยพิบัติ โดยเป็นการดำเนินความรับผิดชอบบนความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ อาทิ หน่วยงานสาขาของไทยคมในประเทศต่างๆ (Country Representatives), พันธมิตรทางธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ไทยคมในฐานะบริษัทดาวเทียมไทย ได้นำระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมไอพีสตาร์ไปใช้ในการกู้คืนระบบสื่อสารในช่วงที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่มาแล้วในหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น, เหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์ผู้อพยพ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ในประเทศไทย, การเกิดแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนในประเทศจีน, การเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิชในนิวซีแลนด์ และพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ในประเทศฟิลิปปินส์ เป็นต้น
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 17:48:12


ความคิดเห็นที่ 23 (3891806)

ไทยคมมอบรางวัลชนะเลิศต้นแบบจานดาวเทียมพร้อมใช้


บมจ.ไทยคม มอบรางวัลชนะเลิศการประกวด “ต้นแบบจานดาวเทียมพร้อมใช้ (Ready-to-Use Antenna Contest)” ประจำปี 2557 ให้แก่ ทีม “Sky Ranger” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร พร้อมทุนการศึกษามูลค่า 135,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้แก่ ทีม “ลูกพระธาตุ” จากมหาวิทยาลัยนครพนม และรางวัลชมเชย ได้แก่ ทีม “พญาแลแซท” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, ทีม “ICE” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และทีม “iSAAC Antenna” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยพิธีประกาศและมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้น ณ สถานีดาวเทียมไทยคม แคราย เมื่อเร็วๆนี้

 ไทยคมมอบรางวัลชนะเลิศต้นแบบจานดาวเทียมพร้อมใช้

 ดูรูปทั้งหมด
กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ไทยคม

บมจ.ไทยคม มอบรางวัลชนะเลิศการประกวด “ต้นแบบจานดาวเทียมพร้อมใช้ (Ready-to-Use Antenna Contest)” ประจำปี 2557 ให้แก่ ทีม “Sky Ranger” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร พร้อมทุนการศึกษามูลค่า 135,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้แก่ ทีม “ลูกพระธาตุ” จากมหาวิทยาลัยนครพนม และรางวัลชมเชย ได้แก่ ทีม “พญาแลแซท” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, ทีม “ICE” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และทีม “iSAAC Antenna” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยพิธีประกาศและมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้น ณ สถานีดาวเทียมไทยคม แคราย เมื่อเร็วๆนี้

ไทยคมตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและประโยชน์ในการติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียมตามบ้านเรือน จึงได้จัดการแข่งขัน “การประกวดต้นแบบจานดาวเทียมพร้อมใช้ (Ready-to-Use Antenna Contest)” เพื่อส่งเสริมแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม ในหมู่นิสิต นักศึกษา คณาจารย์ โดยจานต้นแบบดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สามารถติดตั้งได้ง่าย สามารถหันหน้าจานดาวเทียมเพื่อรับสัญญาณโดยอัตโนมัติ (Quick-deploy and Auto-point) โครงงานเหล่านี้จะถูกพัฒนาต่อยอดเพื่อเป็นต้นแบบในการผลิตจานดาวเทียมขึ้นใช้งานจริง เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงการสื่อสารและความรู้ของเด็ก เยาวชน และชุมชนไทยต่อไป ไทยคมมุ่งมั่นเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในการรับผิดชอบต่อสังคมด้านการศึกษา ภายใต้แนวคิด “การศึกษาไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง”

การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว เป็นหนึ่งในเจตนารมย์ของไทยคม ที่มุ่งมั่นเติบโตเคียงข้างสังคมไทย และช่วยสนับสนุนให้สังคมของเรา พรั่งพร้อมด้วยปัญญาและโอกาสเพื่อประโยชน์สุขแก่สังคมไทย เกิดเป็นความยั่งยืนในทุกมิติ สมดังปณิธาน "การศึกษาไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง"การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว เป็นหนึ่งในเจตนารมย์ของไทยคม ที่มุ่งมั่นเติบโตเคียงข้างสังคมไทย และช่วยสนับสนุนให้สังคมของเรา พรั่งพร้อมด้วยปัญญาและโอกาสเพื่อประโยชน์สุขแก่สังคมไทย เกิดเป็นความยั่งยืนในทุกมิติ สมดังปณิธาน "การศึกษาไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง"
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 17:53:33


ความคิดเห็นที่ 24 (3891811)

 ศาลฯ ไม่รับฟ้องจตุพร-พวกปมถอนใบอนุญาตพีซทีวีระบุไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง

ศาลปกครองมีคำสั่งไม่รับพิจารณาคดีในส่วนที่ผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีซทีวีจำนวน 5 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) กรณีถูกเพิกถอนใบอนุญาตไม่ให้ออกอากาศเพราะนำเสนอรายการที่มีเนื้อหาขัดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยศาลเห็นว่าผู้ฟ้องที่ 5 คนไม่ใช่ผู้เสียหายหรือเดือดร้อนจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้

การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของผู้ฟ้องที่ 1 คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตฯ มีผลกระทบต่อผู้ฟ้องคดีที่ 1 โดยตรง ผู้ฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย ส่วนผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงผู้ฟ้องคดีที่ 6 เป็นเพียงผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวทางสถานีโทรทัศน์ มิได้เป็นคู่กรณีในกระบวนการพิจารณาทางปกครอง ไม่อยู่ในบังคับของคำสั่งทางปกครอง คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตฯ ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงผู้ฟ้องคดีที่ 6 ดังนั้นผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงผู้ฟ้องคดีที่ 6 จึงไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อน หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายเสียหายที่จะมีสิทธิคดีฟ้องต่อศาลปกครอง ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา พ.ศ.2542

"จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีที่ 2 ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ผู้ฟ้องคดีที่ 4 ผู้ฟ้องคดีที่ 5 และผู้ฟ้องคดีที่ 6 ไว้พิจารณา" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ

สำหรับคดีนี้บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ได้ยื่นฟ้อง กสทช. และ กสท. โดยระบุว่า กสทช.มีคำสั่งตามหนังสือลงวันที่ 30 เม.ย.58 เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการให้บริการโทรทัศน์ของช่องพีซทีวี(PEACE TV) และคำสั่งตามหนังสือลงวันที่ 30 เม.ย.58 ระงับให้บริษัท วีซายท์ เทเลคอม จำกัด ออกอากาศช่องรายการ(PEACE TV) ในฐานะเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ฟ้องคดีเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 17:57:03


ความคิดเห็นที่ 25 (3891815)

 นาซาปล่อยดาวเทียมสื่อสารดวงใหม่ TDRS-L


นาซา ปล่อย TDRS-L ดาวเทียมยุคที่ 3 ด้านการติดตามและถ่ายทอดข้อมูลดวงใหม่ โดยจรวดแอตลาส V ของ ULA เพื่อเสริมหมู่ดาวเทียมหวังขยายเครือข่ายการติดต่อสื่อสารในวงโคจรระดับสูง สนับสนุนระบบสื่อสารของสถานีอวกาศนานาชาติและกล้องฮับเบิล...

เมื่อคืนวันพฤหัสฯ ที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา เผยว่า United Launch Alliance ได้ปล่อยจรวด Atlas V จากฐานปล่อยที่ 41 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อส่งดาวเทียม TDRS-L ขึ้นสู่วงโคจร โดยเป็นดาวเทียมยุคที่ 3 ด้านการติดตามและถ่ายทอดข้อมูลดวงล่าสุดที่ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศ

นาซาใช้งานดาวเทียม TDRS ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานบนสถานีอวกาศนานาชาติ และกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล และยานอวกาศอื่นๆ โดยเครือข่ายการสื่อสารขนาดใหญ่นี้อยู่สูงจากพื้นโลก 22,300 ไมล์ในจุดต่างๆ เหนือเส้นศูนย์สูตร ทำให้ติดต่อได้อย่างต่อเนื่องทั้งไปและกลับระหว่างสถานีอวกาศนานาชาติ และสถานีติดตามทั้ง 6 แห่ง 

บาร์ดริ ยูนเนส รองผู้อำนวยการร่วมด้านการดูแลระบบสื่อสารในอวกาศและนำทาง องค์การนาซา กล่าวว่า โครงการอวกาศที่ใช้มนุษย์ในยุคใหม่นี้คงเป็นเรื่องยาก และอาจเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากไม่มีเครือข่ายที่ครอบคลุมจากดาวเทียม TDRS สถานีภาคพื้นดินมีอยู่จำกัดมาก เทียบแล้วเป็นแค่เศษเสี้ยวของความสามารถเครือข่าย 

ผู้อำนวยการร่วมด้านการดูแลระบบสื่อสารในอวกาศและนำทาง องค์การนาซา กล่าวต่อว่า ดาวเทียม TDRS มีให้ ดาวเทียมแต่ละดวงมีจานสัญญาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 ฟุต เราไม่ใช่แค่ต้องการครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก 100% แต่ต้องการการสื่อสารแบบเรียลไทม์

บาดริ กล่าวอีกว่า หากเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราจะสามารถมีพื้นที่ครอบคลุมการถ่ายทอดสัญญาณสดแค่ 10-15% ไม่มีโครงการอวกาศที่ใช้มนุษย์ใดที่ได้รับการสนับสนุนในอัตราข้อมูลมากขนาดนี้ และด้วยความสามารถนี้ทำให้เราสามารถลดเวลาการตอบสนองได้แบบเรียลไทม์เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ TDRS ได้รับการประกาศให้เป็นทรัพย์สินของชาติ

นาซา คือ ผู้ใช้งานหลักในระบบดาวเทียม TDRS ร่วมกับองค์กรอวกาศของชาติต่างๆ และกองทัพสหรัฐฯ ในปี 2002 ดาวเทียม TDRS ได้อนุญาตให้แพทย์ในรัฐแมสซาชูเซต ผ่าตัดเข่าทางไกลผ่านจอภาพให้กับคนไข้ที่ขั้วโลกใต้

ดาวเทียมดวงล่าสุดนี้มีมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะทำงานหลังจากขึ้นไปสู่วงโคจรต่ำชั่วคราว และสัญลักษณ์ "L" ของดาวเทียม TDRS ทางนาซาจะเปลี่ยนเป็น TDRS-12 หลังจากตรวจเช็กว่าทุกอย่างเรียบร้อย และเคลื่อนไปยังวงโคจรปกติหลังฤดูใบไม้ผลิปี 2014 

นาซา ปล่อยดาวเทียม TDRS ดวงแรก ในปี 1983 ด้วยกระสวยอวกาศและดาวเทียมดวงก่อนหน้า คือ TDRS-11 ได้ขึ้นสู่อวกาศไปเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2013 ทางการสหรัฐฯ ต้องการดาวเทียม 6 ดวงประจำในวงโคจรตลอดเวลา เพื่อพร้อมที่จะทดแทนกันได้ทันที

TDRS-M จะเป็นดาวเทียมสื่อสารดวงใหม่ลูกต่อไปผลิตโดยโบอิ้ง คาดว่าจะปล่อยขึ้นสู่อวกาศต้นปี 2020 และจากดาวเทียมในโครงการ TDRS ทั้ง 11 ดวง มี 6 ดวงอยู่ในวงโคจรเพื่อใช้งาน อีก 1 ดวงอยู่ในวงโคจรสำรองเพื่อเป็นดาวเทียมอะไหล่ โดยมี 2 ดวงที่หมดอายุการใช้งานไปแล้ว ได้แก่ TDRS-1 และ TDRS-4 ขณะที่ ดาวเทียมดวงล่าสุด TDRS-L อยู่ระหว่างการทดสอบระบบต่างๆ ส่วนดาวเทียม TDRS-2 ลูกที่ 2 ในโครงการ ถูกทำลายไปในอุบัติเหตุกระสวยอวกาศชาเลนเจอร์ระเบิดในปี 1986.
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:01:09


ความคิดเห็นที่ 26 (3891819)

NASA ยังหาดาวเทียมไม่พบ เชื่อตกในมหาสมุทร


NASA ยังหาดาวเทียมไม่พบ เชื่อตกในมหาสมุทร (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก NASA 

หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ด้านวงโคจรของ NASA เผยยังไม่มีคนพบดาวเทียม UARS เชื่อตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก

สื่อต่างประเทศรายงาน ความคืบหน้าของการค้นหาดาวเทียม UARS ที่หมดอายุการใช้งาน และตกลงสู่พื้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ ล่าสุด นายนิค จอห์นสัน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ NASA ออกมาเผยว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่ดาวเทียมจะตกนั้น พบว่า ดาวเทียมโคจรอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ใดพบเห็นเศษชิ้นส่วน 

           ทั้งนี้ เชื่อว่า จุดที่ตกน่าจะเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย ขอยืนยันว่า การที่ดาวเทียมดวงนี้จะตกไปยังที่พักอาศัยของมนุษย์มีความเป็นไปได้น้อยมาก 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:04:15


ความคิดเห็นที่ 27 (3891832)

จีนส่งดาวเทียม CubeSat สำเร็จ ตั้งเป้าติดตามเครื่องบินพลเรือนหลังเกิดเหตุ MH370


นายอู๋ ฉูฟาน หัวหน้าทีมออกแบบของภารกิจ STU-2 เปิดเผยว่า จีนได้ส่งดาวเทียม CubeSats จำนวน 3 ดวงขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ โดยมีเป้าหมายที่จะใช้ดาวเทียมดังกล่าวติดตามเครื่องบินพลเรือนและเรือ เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเหตุสูญหายของเที่ยวบิน MH370

จีนได้ส่งดาวเทียมทั้ง 3 ดวงภายใต้รหัสภารกิจที่มีชื่อว่า STU-2 เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา และดาวเทียมได้เข้าสู่วงโคจรที่กำหนดไว้แล้ว

ดาวเทียมทั้ง 3 ดวงได้ติดกล้องสังเกตการณ์ภูมิภาคในบริเวณขั้วโลก รวมถึงเครื่องรับสัญญาณระบบระบุตัวตนอัตโนมัติ (AIS) เพื่อรับข้อมูลจากยานอวกาศและอุปกรณ์รับสัญญาณระบบติดตามอากาศยานอัตโนมัติ (ADS-B) เพื่อรับข้อความที่ส่งมาจากเครื่องบินพลเรือน
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:10:04


ความคิดเห็นที่ 28 (3891839)

 ดาวเทียมดวงแรกของเฟซบุ๊คเตรียมขึ้นสู่อวกาศในปี2016

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค เว็บไซต์โซเชียลมีเดียยอดนิยม เตรียมร่วมมือกับยูเทลแซท เพื่อทำการส่งดาวเทียมดวงแรกของเฟซบุ๊คขึ้นสู่อวกาศในปี 2016 โดยเขาจะพยายามเชื่อมต่อโลกทั้งใบเข้าด้วยกันให้ได้จากนอกโลก

ดาวเทียมของเฟซบุ๊คจะมีชื่อว่า "เอมอส ซิกส์" (AMOS-6) ซึ่งวงโคจรจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอฟริกาทั้ง แอฟริกาใต้ แอฟริกาตะวันตก และแอฟริกาตะวันออก เพื่อให้ประชาชนในท้องที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ผ่านดาวเทียมฟรีๆ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจาก อินเตอร์เน็ต ดอท โออาร์จี องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:11:59


ความคิดเห็นที่ 29 (3891850)

จนท.นำภาพถ่ายดาวเทียมเส้นทางนักท่องเที่ยวโหนสลิงร่วงพื้นให้ ตร.
ความคืบหน้าคดีนักท่องเที่ยวชาวจีน โหนสลิงแบบเหินเวหา หรือ ซิปไลน์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และตกลงมาเสียชีวิต เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ได้นำภาพถ่ายดาวเทียมเส้นทางโหนสลิงมาให้ตำรวจ สภ.แม่ริม ดำเนินคดีกับ นายสันติ ปิติคราม เจ้าของ โดยนายสันติได้รับทราบข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกไป

        นอกจากนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่ตั้งสถานที่ท่องเที่ยวแบบผจญภัยใน 5 อำเภอกว่า 10 แห่ง ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:15:54


ความคิดเห็นที่ 30 (3891859)

บอร์ด กสท.มีมติปรับไทยทีวี 5 แสนบาท ทำผิดมาตรา 37

บอร์ด กสท.มีมติลงโทษทางปกครองปรับ รายการมุงข่าวดัง ของช่องไทยทีวี 5 แสนบาท ชี้เนื้อหาผิดมาตรา 37 พ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ 2551 และให้ กสทช.สอบผู้ประกอบการโครงข่าย เคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎมัสตร์แครี่...

นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. มีมติปรับทางปกครอง กรณีช่องไทยทีวี ออกอากาศคลิปข่าวอาชญากรรม ในรายการมุงข่าวดัง วันที่ 13 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นเนื้อหารายการที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อทรามทางจิตใจของประชาชนอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการฯ 2551 เป็นเงิน 5 แสนบาท

รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการตรวจสอบผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์เคเบิลและดาวเทียม ที่นำช่องรายการในหมวดหมู่ตามหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ มาออกอากาศ ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน รวมทั้ง ให้ตรวจสอบการออกอากาศของช่องรายการเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม ภายใน 30 วัน ก่อนจะส่งข้อมูลให้ คณะกรรมการ กสท. พิจารณาอีกครั้งในการประชุมบอร์ดครั้งหน้า วันที่ 19 ต.ค.หากพบว่าผิดเงื่อนไข จะตักเตือนและให้แก้ไข หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 31 เกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 ซึ่งมีโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 5ล้านบาท และปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 5หมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน โดยช่องรายการ ที่ออกอากาศตามกฎมัสต์แครี่ จะสามารถโฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละ 6นาที

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแนวทางการกำกับดูแลผังรายการโทรทัศน์ทุกประเภท กับผู้ประกอบการที่ไม่แจ้งการปรับเปลี่ยนผังรายการภายใน 7 วัน โดยจะส่งหนังสือเตือน2ครั้ง หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับทางปกครองวันละ2หมื่นบาท นับจากวันที่เพิกเฉย และจะเพิ่มโทษปรับ 5หมื่นบาท แต่หากไม่แจ้งภายใน3วันหลังเปลี่ยนผังรายการในกรณีฉุกเฉิน จะมีโทษปรับวันละ2หมื่นบาท

รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.กล่าวด้วยว่า ขณะที่ วันที่ 15 ตุลาคม 2558 คณะทำงานติดตามและแก้ไขปัญหาโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล จะจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการณ์เพื่อระดมความเห็นต่อแนวทางสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การรับชมทีวีดิจิตอล สำหรับครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับสิทธิและการเข้าถึงกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:18:08


ความคิดเห็นที่ 31 (3891876)

 In Pics ภาพจากดาวเทียมนาซ่า: ความช่วยเหลือนานาชาติเดินทางมาถึงอินโดนีเซีย “ช่วยดับไฟป่า” หลังนาซ่าเตือน “วิกฤตหนักสุดเป็นประวัติการณ์” 


ภาพถ่ายจากดาวเทียมเทอร์รา(Terra)ขององค์การนาซ่าถึงสภาพไฟป่าอินโดนีเซียและหมอกควันพิษในวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา 
 
 
        เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ความช่วยเหลือจากนานาชาติจากสิงคโปร์มาถึงอินโดนีเซียวันเสาร์(10) เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลอินโดนีเซียของประธานาธิบดี ซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน ในการดับไฟป่า และไฟที่เกิดจากการเผาซากซังข้าว ทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย สบปัญหาจากหมอกควันพิษอย่างหนักของแดนอิเหนาในเวลานี้ หลังก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ขององค์การวิจัยทางอวกาศสหรัฐฯ นาซ่า เตือนว่า สภาวะเอลนินโญในปีนี้จะทำให้หมอกควันไฟป่าอินโดนีเซียวิกฤตหนักสุดเนื่องมาจากสภาพที่แห้งแล้งเพิ่มมากขึ้น
       
       ซุโตโป ปูร์โว นูโกรห์ (Sutopo Purwo Nugroh) โฆษกสำนักงานจัดการฉุกเฉินแห่งชาติอินโดนีเซียประกาศผ่านแถลงการณ์วันนี้(10)ว่า เฮลิคอปเตอร์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกรุ่นบอร์มบาร์ดิเออร์ (Bombardier) และทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาเลย์ได้เดินทางมาถึงเกาะสุมาตราเมื่อวานนี้(9) เพื่อเริ่มต้นที่จะใช้ระเบิดน้ำในการดับไฟป่าที่ทางใต้ของเกาะสุมาตรา
       
       “ผู้ช่วยเหลือนานาชาติกำลังได้รับการรายงานสรุปในภาพรวมจากผู้อำนวยการสำนักงานจัดการฉุกเฉินแห่งชาติอินโดนีเซียอยู่ในขณะนี้ และการใช้ระเบิดน้ำเพื่อดับไฟป่าจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น” ซุโตโปแถลง
       เอเอฟพีรายงานว่า หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราและเกาะกาลิมันตันได้สุรมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นานหลายสัปดาห์ ทำให้หลายพื้นที่มีระดับค่ามลภาวะสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย และที่สำคัญหมอกควันพิษอินโดนีเซียเหล่านี้ ยังทำให้รัฐบาลสิงคโปร์และมาเลเซีย ต้องประกาศปิดโรงเรียน และยกเลิกกิจกรรมที่จะต้องจัดในที่เปิดโล่ง
       
       ทั้งนี้ในการร่วมแก้ปัญหาไฟป่าอิเหนา รัฐบาลสิงคโปร์สัญญาจะจัดส่งเฮลิคอปเตอร์ชีนุกมาช่วย ซึ่งความสามารถของเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ อยู่ที่การขนน้ำในถังขนาดใหญ่เพื่อมาดับไฟที่อยู่เบื้องล่างได้ ร่วมกับเครื่องบินลำเลียง เฮอร์คิวสิส C-130 ที่ขนนักผจญเพลิงแดนลอดช่องร่วม 42 ชีวิต
       
       อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า ตามกำหนดเดิมที่ความช่วยเหลือจากสิงคโปร์ต้องมาถึงในวันศุกร์(9) แต่กลับต้องถูกเลื่อนออกไป และเดินทางมาถึงอินโดนีเซียวันนี้(10)แทน เนื่องมาจากสภาพทัศนะวิสัยทางอากาศที่แย่บริเวณท่าอากาศยานท้องถิ่นของสิงคโปร์ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินทาง
       
       ทั้งนี้เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่จำนวนร่วม 25,000 นาย และยานพาหนะทางอากาศของประเทศ ปฎิบัติการต่อสู้กับไฟป่า แต่ทว่ายังไม่สามารถดับได้เนื่องมาจากความแรงของเปลวไฟ
       
       และนอกจากนี้ยังพบว่า ถึงแม้จะมีปัญหาไฟป่าและหมอกควันพิษจะส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาคที่ผ่านมาหลายสัปดาห์ แต่รัฐบาลของประธานาธิบดี ซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน กลับปฎิเสธอย่างหนักแน่นที่จะไม่รับความช่วยเหลือจากต่างชาติในการแก้ปัญหา จนกระทั่งในท้ายที่สุดไม่กี่วันนี้ เพราะถูกประเทศเพื่อนบ้านกดดันอย่างหนัก จนทำให้ผู้นำอินโดนีเซียต้องยอมตกลงตอบรับความช่วยเหลือ
       
       และหนึ่งในชาติที่เสนอตัวเข้าช่วยผู้นำอิเหนาคือ ออสเตรเลีย โดยทางแคนเบอร์ราประกาศเสนอส่งเครื่องบินดับไฟป่า Lockheed L100 Hercules Air Tanker มายังกรุงจากาตาร์ พร้อมกับคำประกาศจากรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย จูเลีย บิชอป ว่า “ออสเตรเลียมีประสบการณ์อย่างโชกโชนในการดับไฟป่าได้ผล”
       
       อย่างไรก็ตามปัญหาหมอกควันพิษจากไฟป่าอินโดนีเซียมีแนวโน้มที่จะสาหัสมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาจากการคาดการณ์ขององค์การวิจัยอวกาศสหรัฐฯ นาซา ซึ่งเอบีซีนิวส์ ออสเตรเลียรายงานในวันที่ 3 ตุลาคม ล่าสุดว่า ผลจากสภาวะเอลนินโญทำให้อินโดนีเซียมีสภาพแห้งแล้งหนักกว่าที่เคยเป็นมาตามปกติ
       
       โดยนักวิยาศาสตร์สหรัฐฯเชื่อว่า ภาวะหมอกควันพิษที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ จะหนักกว่าในรอบปี 1997 ซึ่งสื่ออสเตรเลียชี้ว่า ความเสียหายจากหมอกควันพิษปกคลุมในภูมิภาคล่าสุดนี้มีไม่ต่ำกว่า 9 พันล้านดอลลาร์
       
       และยังคาดการณ์ว่า สภาวะความแห้งแล้งขยายตัวจะส่งผลทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญกับหมอกควันพิษที่หนาตัวเพิ่มมากขึ้น
       
       “หมอกควันพิษที่เกิดขึ้นบริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตราและสิงคโปร์ ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 1997” โรเบิร์ต ฟิลด์ (Robert Field) ผู้เชี่ยวชาญประจำมหาวิยาลัยโคลัมเบีย และนักวิทยาศาสตร์นาซ่าแห่งสถาบัน Goddard สำหรับการศึกษาทางอวกาศ ให้ความเห็น
       
       และฟิลด์กล่าวต่อว่า “และเมื่อดูถึงการทำนายสภาวะผลกระทบ หากในกรณีที่ภาวะแห้งแล้งต้องยาวนานออกไป พบว่า หมอกควันพิษที่เกิดขึ้นในปี 2015 จะถูกจัดว่าสาหัสมากที่สุดท่ามกลางบรรดาวิกฤตหมอกควันพิษที่เคยเกิดขึ้นมา”
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:23:24


ความคิดเห็นที่ 32 (3891890)

 สหรัฐฯส่งเรือพิฆาตเข้า “มหาสมุทรอินเดีย” หลังมีข่าวดาวเทียมจับสัญญาณ MH370 ได้แม้หายไปจากจอเรดาร์ 

เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส คิดด์ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ 


 
 
       เอเจนซีส์ – กองทัพเรือสหรัฐฯ มีคำสั่งส่งเรือพิฆาตข้ามฝั่งมายังมหาสมุทรอินเดียเพื่อตามหาเครื่องบินโดยสารของมาเลเซียแอร์ไลน์ส ขณะที่มีกระแสข่าวใหม่ว่าดาวเทียมสามารถจับสัญญาณ “Ping” จากเครื่องบินได้ หลังจากที่เรดาร์ติดต่อภาคพื้นดินขาดหายไปแล้ว
       
       ปฏิบัติการค้นหาเที่ยวบิน MH370 ที่หายไปตั้งแต่เมื่อกลางดึกวันเสาร์ที่ผ่านมา (8) เริ่มเบนความสนใจออกจากทะเลจีนใต้ หลังทำเนียบขาวระบุว่ามี “ข้อมูลใหม่” ที่บ่งชี้ว่าเครื่องบินอาจตกบริเวณมหาสมุทรอินเดีย
       
       “เรือพิฆาต ยูเอสเอส คิดด์ กำลังเดินทางผ่านช่องแคบมะละกาไปยังมหาสมุทรอินเดีย” เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯบอกกับเอเอฟพี โดยอ้างถึงเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีซึ่งประจำการอยู่ในอ่าวไทย
       
       สหรัฐฯยังเตรียมส่งเครื่องบินสอดแนม พี-8 โพไซดอน ไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ส่งเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ พี-3 โอไรออน เข้าไปช่วยทางการมาเลเซียค้นหาโบอิ้งที่สูญหายไปแล้ว
       
       คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังสื่อในสหรัฐฯเผยรายงานที่ว่า ระบบสื่อสารของ โบอิ้ง 777-200ER ลำนี้ถูกดาวเทียมดวงหนึ่งจับสัญญาณได้อยู่นานหลายชั่วโมง ภายหลังจากที่เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์พลเรือนแล้ว
       
       หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล และสำนักข่าวเอบีซี รายงานว่า สัญญาณที่ว่านี้มาจาก “ระบบบริหารจัดการเครื่องบิน” (airplane health management system) ซึ่งจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของเครื่อง
       
       วอลล์สตรีทยังออกมาแก้ข่าวที่ได้รายงานคลาดเคลื่อนไปตอนแรกว่า พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบสัญญาณที่ถูกส่งมาจากเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ ซึ่งไม่ถูกต้อง
       
       สำนักข่าวเอบีซีได้อ้างแหล่งข่าว 2 คน ซึ่งเปิดเผยว่า เวลานี้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าระบบส่งข้อมูลบนเครื่องบิน MH370 และเครื่อง transponder ซึ่งจะแจ้งตำแหน่งของเครื่องบิน หยุดทำงานไม่พร้อมกัน ซึ่งการที่อุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิดปิดตัวห่างกันราวๆ 14 นาที บ่งบอกว่ามีใครบางคน “จงใจ” ปิดมัน หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้หยุดทำงาน เพราะหายนะที่เกิดกับลำตัวเครื่องบินอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว
       
       ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ก็อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวน 2 คน ซึ่งให้ข้อมูลวานนี้ (13) ว่า ดาวเทียมยังสามารถจับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์อ่อนๆ จากเครื่องบินได้ หลังจากที่มันหายไปจากจอเรดาร์ของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ ทว่าสัญญาณเหล่านั้นไม่สามารถบอกได้ว่าเครื่องบินกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางใด หรือเกิดอะไรขึ้นบนเครื่อง
       
       อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่จับได้ก็บ่งชี้ว่าระบบแก้ไขปัญหาอัตโนมัติบนเครื่องบินยังถูกเปิดใช้งานอยู่ และพร้อมที่จะสื่อสารกับดาวเทียม และแสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยเครื่องบินลำนี้ก็ยังสามารถสื่อสารได้ แม้จะขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศไปแล้วก็ตาม
       
       แหล่งข่าวเผยว่า อุปกรณ์บนเครื่องบินตัวนี้ส่งสัญญาณประมาณ 1 ครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งดาวเทียมสามารถจับได้ประมาณ 5-6 ครั้ง แต่ลำพังสัญญาณนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าเครื่องบินอยู่บนท้องฟ้า หรือลงสู่พื้นดินแล้ว
       
       มาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 239 คน เดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเกือบ 1 สัปดาห์ที่แล้ว เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางกรุงปักกิ่ง ทว่าเครื่องบินกลับสูญหายไปจากจอเรดาร์ขณะบินข้ามอ่าวไทย
       
       จากความเป็นไปได้ที่ว่าเครื่องบินอาจลอยลำอยู่กลางอากาศอีกนานหลายชั่วโมงหลังสัญญาณเรดาร์ขาดหาย ทำให้เกิดทฤษฎีใหม่ๆ เกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบินโดยสารลำนี้ และยิ่งทำให้การสูญหายของมันเป็นปริศนาคาใจชาวโลกมากขึ้นไปอีก
       
       ในช่วงแรกๆ ทีมค้นหานานาชาติมุ่งควานหาซากเครื่องบินในทะเลฝั่งตะวันออกของมาเลเซียเป็นหลัก เนื่องจากอยู่ในเส้นทางบินตามปกติของเที่ยวบินนี้ ทว่าล่าสุดทำเนียบขาวกลับอ้าง “ข้อมูลใหม่” ที่ทำให้ทุกหน่วยงานต้องมุ่งความสนใจไปยังมหาสมุทรอินเดีย
       
       “นี่เป็นความเข้าใจที่ผมได้จากข้อมูลใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ข้อสรุปที่แน่นอน แต่ก็ควรจะมีการส่งทีมค้นหาเข้าไปยังมหาสมุทรอินเดียด้วย” เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวระบุ โดยไม่ชี้แจงว่าข้อมูลใหม่ที่ว่านั้นคืออะไร
       
       “เรากำลังปรึกษาหุ้นส่วนนานาชาติว่าควรจะส่งยานพาหนะหรือเครื่องไม้เครื่องมืออะไรเข้าไปบ้าง”
       
       ก่อนหน้านี้ ทางการมาเลเซียให้ข้อมูลว่าเครื่องบินอาจหันหัวกลับมายังกรุงกัวลาลัมเปอร์อีกครั้งก่อนจะหายสาบสูญไป
       
       เรือพิฆาต ยูเอสเอส พิงก์นีย์ ยังคงประจำการอยู่ในอ่าวไทย แต่ไม่แน่ชัดว่ามันจะยังร่วมปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สหลังจากสัปดาห์นี้ผ่านพ้นไปหรือไม่
       
       เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผยเมื่อวันพุธ (12) ว่า ดาวเทียมสอดแนมของกองทัพสหรัฐฯตรวจไม่พบร่องรอยของการระเบิดกลางอากาศ ในขณะที่เครื่องบิน MH370 หายไปจากจอเรดาร์เมื่อเวลา 1.30 น.ตามเวลามาเลเซีย
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:27:58


ความคิดเห็นที่ 33 (3891910)

 สื่อนอกตีข่าวดาวเทียมไทยพบชิ้นส่วนโยงMH370


สื่อนอกประโคมข่าวดาวเทียมไทยโชตพบเศษชิ้นส่วนกว่า 300 ชิ้น ลอยเกลื่อนทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย คาดเป็นซากชิ้นส่วนเครื่องบินมาเลเซีย

ภาพดังกล่าวดาวเทียมไทยโชตบันทึกไว้ได้เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากดาวเทียมฝรั่งเศสพบซากชิ้นส่วน 122 ชิ้น ในบริเวณที่ห่างกันราว 200 กิโลเมตรเพียงวันเดียว และข้อมูลดังกล่าวได้ส่งไปยังทางการมาเลเซียเรียบร้อยแล้ว วัตถุดังกล่าวมีขนาดตั้งแต่ 2 เมตรไปจนถึง 15 เมตร ส่วนการค้นหาซากชิ้นส่วนของเครื่องบินจากนานาชาติจำนวน 11 ลำ เมื่อวานนี้ต้องระงับเนื่องจากทัศนวิสัยไม่อำนวย หลังจากเดินทางไปถึงยังบริเวณที่มีรายงานว่าพบชิ้นส่วนลอยอยู่แล้ว

ส่วนกองเรือที่มีเรือรบออสเตรเลีย HMAS ซัคเซสส์ ยังคงค้นหาต่อไปโดยมีเรือจากจีนอีก 5 ลำ ร่วมทีมค้นหา และมีรายงานว่ารัฐบาลจีนได้ส่งเรือมาเพิ่มเพื่อให้การค้นหามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีก 3 ลำ สำหรับประเทศต่างๆ ที่ร่วมค้นหาซากเครื่องบินมาเลเซียมีทั้งสิ้น 6 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้

เอริค แวน เซบิลล์ นักสมุทรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า หากพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินแม้เพียงชิ้นเดียว นักวิทยาศาสตร์จะค้นหาจุดที่เครื่องตกได้ แม้จะเป็นภารกิจที่ยากลำบากมากก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีคลื่นจัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ส่วนการสอบสวนหาสาเหตุว่าเหตุใดเครื่องบินจึงเปลี่ยนเส้นทางบินอย่างกะทันหัน จากการมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งเป็นการบินสู่ทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ยังคงมืดแปดด้าน และยังไม่มีการตัดประเด็นใดๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขัดข้อง หรือระบบไฟฟ้าล้มเหลว การจี้เครื่องบิน การวินาศกรรม และการกระทำโดยเจตนาของกัปตันหรือนักบินผู้ช่วย ส่วนผลการตรวจสอบเครื่องจำลองการบินของกัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ คาดว่าอีก 2-3 วันจะทราบผล
 
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2015-11-03 18:33:01



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.